วิธีกินยาเบาหวานในเดือนรอมฎอน

ช่วงเดือนรอมฎอนคือช่วงการถือศีลอดของคนมุสลิมคะ เลยทำให้เป็นปัญหาใหญ่มากของคนมุสลิมที่เป็นโรคเบาหวาน เพราะถ้าหากทานยาไม่ถูกต้องก็จะไม่สามารถถือศีลอดได้เลยคะ เพราะต้องเจอกับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งจะมีอาการอ่อนเพลีย หมดแรง เหงื่อตก ใจสั่น เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งคนที่เป็นเบาหวานจะเข้าใจอาการนี้ดี

จากการที่ได้ดูแลมะ วัย 70 ปี ที่เป็นโรคเบาหวานพร้อมกับโรคที่ตามมาก็เป็นแพ็คเกททั้ง ความดัน ไขมัน และหัวใจโดยได้ผ่านการทำบายพาสเส้นเลือดหัวใจมาแล้ว ไม่ต้องถามเรื่องการกินยา เพราะมียาที่ต้องกิน ไม่น้อยกว่า 6 เม็ดแน่นอน ยาเบาหวาน 3 เม็ด หัวใจ 3 เม็ด ความดัน 1 เม็ดสำหรับมื้อเช้า และมื้อเย็นเบาหวาน 2 เม็ด หัวใจ 1 เม็ด และไขมัน 1 เม็ด จากประสบการณ์ที่เป็นเบาหวานและผ่านเดือนรอมฎอนแล้วเกือบ 20 ปี ทำให้รู้ว่า คนที่เป็นเบาหวานต้องกินยาอย่างไรในขณะถือศีลอด และสามารถถือศีลอดได้ทั้งเดือนโดยที่ยังควบคุมเบาหวานได้อยู่ จึงมาขอแบ่งปันประสบการณ์คะ

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับเบาหวานอย่างง่ายๆ ก่อนนะคะ โรคเบาหวานเกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลินที่ใช้ในการควบคุมน้ำตาลในเลือดทำงานผิดปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เราเลยต้องกินยาลดน้ำตาลหรือพูดง่ายๆ ก็คือเราต้องกินฮอร์โมนอินซูลินเข้าไปเพื่อลดน้ำตาลที่สูงนั้นลง ซึ่งหากวันไหนผู้ป่วยกินอาหารน้อยและยังกินยาเท่าเดิม สิ่งที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องเจอคือ ภาวะน้ำตาลในเลือดลดลงซึ่งจะมีอาการเพลียมากๆ ใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็นเหมือนจะเป็นลม ซึ่งถ้าหากเราวัดน้ำตาลขณะมีอาการแบบนี้จะได้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ประมาณ 50-60 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรคะ และหากน้ำตาลลดมากๆ อาจจะเกิดอาการช๊อคได้คะ เลยทำให้สิ่งที่ต้องมีประจำบ้านของผู้ป่วยเบาหวานคือ น้ำหวาน และลูกอม ที่ต้องพกติดกระเป๋าตลอดเวลาเวลาต้องเดินทาง และคิดว่า ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานทุกคนต้องเจอกับปัญหานี้คะ

เดือนรอมฎอนคือเดือนที่อดอาหารในเวลากลางวัน และสามารถกินอาหารได้ในเวลากลางคืน ซึ่งเราจะพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็นเบาหวาน จะไม่สามารถถือศีลอดได้ เพราะต้องเจอภาวะน้ำตาลลดนี่แหละคะ ยอมรับนะคะ ว่าตอนแรกๆ ต้องทำความเข้าใจกับเบาหวานและการกินยาอยู่พอสมควรคะ เพราะรู้เลยว่า มะไม่ยอมแน่นอนถ้าจะไม่ให้ถือศีลอด มะเคยขอหมอไม่กินยา 1 เดือนเลยนะคะ เราเลยต้องมาเรียนรู้เรื่องการกินยาของคนที่เป็นเบาหวานในเดือนรอมฎอน กันอย่างละเอียด พร้อมซื้อเครื่องวัดน้ำตาลในเลือดคะ

เนื่องจากการถือศีลอดเราสามารถกินอาหารได้ในเวลากลางคืน เราต้องเปลี่ยนมากินยาลดน้ำตาลตอนกลางคืนคะ และเราต้องลดปริมาณยาลงด้วยคือ ของมะลดยาก่อนอาหารจาก 1 เม็ดเหลือ ครึ่งเม็ด และกินยาหลังอาหาร 2 เม็ดเหมือนเดิมคะ และไม่ต้องกินยาเบาหวานทั้งสองชนิดตอนกินข้าวซุโฮร หรือหลังกินข้าวดึกคะ เพราะเราอดอาหารทั้งวันคะจึงไม่จำเป็นต้องกินยาลดน้ำตาลคะ หรือถ้าจะกินก็ให้กินยาหลังอาหาร 1 เม็ดพอคะ แต่ของมะกินยามื้อเดียวคะ คือตอนหัวค่ำนะคะ และวัดน้ำตาลในเลือดตอนเย็น ประมาณ 6 โมงเย็นและน้ำตาลในเลือดอยู่ที่ระดับปกติ คือ 85-110 มิลลิกรัม/เดซิลิตรคะ และไม่เคยประสบกับอาการน้ำตาลในเลือดสูงหรือลดเลยในเดือนรอมฎอนคะ และมะสามารถถือศีลอดได้ตามปกติตลอดทั้งเดือนรอมฎอนและถือศีลอดสุนัตเดือนเชาวัลอีก 6 วันด้วยคะ

จริงๆ แล้ว การถือศีลอดถือเป็นการดีสำหรับคนเป็นโรคเบาหวานก็ว่าได้นะคะ เนื่องจาก เรากินอาหารน้อยลงและทำให้เรากินยาน้อยลงด้วย มะจึงสามารถถือศีลอดสุนัตปกติวันจันทร์ หรือวันพฤหัส ที่ไม่ใช่การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนได้เป็นปกติอีกด้วยคะ อัลฮัมดูลิลละ