๖๖. เพื่อน...


ผมไปไม่ทันพระ..แต่ไปทันได้คุยกับเพื่อนอย่างเต็มอิ่ม..จำเพื่อนได้บ้างไม่ได้บ้าง..ขึ้นอยู่กับการสั่งการของสมอง..และสายตาที่เริ่มเสื่อมโทรม..

        ผมรู้ตัวดี..เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ฝังลึก และมันก็เป็นความจริง ไม่ได้มีความทุกข์ ไม่รู้สึกว่าเป็นปมด้อยและไม่อยากจะแก้ไขอะไรทั้งสิ้น..

    อีก ๔ ปีก็จะเกษียณอายุราชการ ดูเหมือนจะไม่นานและไม่แน่..อาจจะอยู่ไม่ถึงก็ได้ แต่ที่แน่นอนที่สุด..ผมมีเพื่อนผู้บริหารที่คิดว่าเป็นเพื่อน น้อย ถึงน้อยที่สุด

    เมื่อก่อนก็พยายามจะวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะอะไร? คิดไปต่างๆนานา หรือว่า.ผมไม่จบมาในศาสตร์สายนี้ หรือว่าผมถูกบ่มเพาะมาทางสายวิชาการ ทำงานในสำนักงานการประถมศึกษา...

        สุดท้าย..ก็ได้คำตอบที่ถูกที่สุด คือผมไม่เอาใครเอาแต่งาน เกียจคร้านในด้านสังคมเครือข่าย และโรงเรียนเล็กเกินไป..ในสายตาของผู้บริหารท่านอื่นๆ

        ผมเคยได้รับการดูถูกดูแคลน แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชัง แต่มันทำให้ผมได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีมาโดยตลอด..พอเพียงและพึ่งตนเอง..ไม่เคยออกปากพึ่งพิงเพื่อนผู้บริหาร..ตลอดการบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก

        ทำงานแทบจะไม่มีวันหยุด ผลงานหลากหลายโครงการที่ผุดขึ้นมาก็เพื่อเป็นมรดกให้ลูกหลานในชุมชน ได้สานต่อ..ไม่เป็นโรงเรียนที่เอาแต่รอ และ ขออยู่ร่ำไป ผมอยากยืนให้ได้ด้วยตัวเอง..แต่ผมก็ยังอยากมี”เพื่อน”

        เพื่อนที่ผมรักมาก ผู้เป็นทั้งเพื่อนและพี่..พี่สุนันต์ และพี่กัญญา พืชหงส์ทอง แห่ง ขสมก...เราคบกันมาเกือบ ๒๐ ปี ตั้งแต่ผมอยู่โรงเรียนเก่า..พอย้ายมา..พี่ก็ยังรักผม สังเกตจากผ้าป่าการศึกษา การทำบุญวันเกิดที่โรงเรียน และช่วยงาน”วันเด็ก”ทุกปี

        ผมไปร่วมงานของพี่ทั้งสองอยู่เป็นประจำ เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน..วันนี้ผมก็ไป..ทำบุญครบรอบ ๑๐๐ วัน คุณแม่บัว ศรีอัมพร คุณแม่ของพี่กัญญา..ที่ผมรู้สึกลึกซึ้งถึงคำว่า...เพื่อน

        ทำบุญเสร็จสรรพ..มีนัดกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง เป็นเพื่อนกลุ่มสุดท้ายที่เคยเรียนมัธยมด้วยกันมา เป็นมรดกของคำเพื่อน..ที่หลงเหลืออยู่และภูมิใจที่สุด..

        อีกครั้งหนึ่ง..ที่รู้สึกว่าได้พบเจอเพื่อนเยอะมาก ในงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของสมลักษณ์ ทองอินทร์ หรือ “หมู” ผู้มีถิ่นพำนักกับงานอาชีพก่อสร้าง(ทุบตึก)ที่ฮ่องกง..ภรรยามีบ้านเดิมอยู่ อ.เสนา อยุธยา เพื่อนหมูก็เลยมาลงหลักปักฐานที่บ้านแพน..เวลาเดินทางกลับมาเมืองไทยจะได้ไม่ต้องนอนโรงแรม

        บ้านที่ปลูกใหม่ก็ย่อมสวยเป็นธรรมดา แต่ที่สวยงามกว่าคือน้ำใจของเพื่อนหมูกับ”ขวัญตา”ผู้เป็นศรีภรรยา..ที่เปิดโอกาสให้เพื่อนได้เจอะเจอ จะดื่มกินหรือคุยเอะอะโวยวายยังไงก็ได้ ไม่ถือสา..แต่ต้องรอให้พระฉันเพลเสร็จก่อนนะ

        ผมไปไม่ทันพระ..แต่ไปทันได้คุยกับเพื่อนอย่างเต็มอิ่ม..จำเพื่อนได้บ้างไม่ได้บ้าง..ขึ้นอยู่กับการสั่งการของสมอง..และสายตาที่เริ่มเสื่อมโทรม..

        พอไปถึงผมก็รีบกินข้าวก่อน เพื่อเก็บอาการตื่นเต้น รู้สึกภูมิใจที่เพื่อนไฮโซ (จริงๆเพื่อนไม่ได้คิดไร ผมคิดไปเอง)มาทักทาย มันมีคุณค่ามากมายในยามที่เพื่อนเจอกัน ไม่มีอะไรมาปิดกั้นมิตรภาพของเรา..

        เพื่อนสนใจด้านเกษตรอินทรีย์..ผมมีคำตอบให้ เพื่อนถามว่าสบายดีไหม? ผมบอกว่าสบายดีครับ...ผมพูดจาไพเราะกับเพื่อนเสมอ แต่โกหกอย่างหน้าด้านๆว่าสบายดี ปิดเทอมปีนี้ เหนื่อยที่สุดในชีวิต..

        พอได้ข้าวผัดที่เพื่อนเหลือไว้บนโต๊ะ..ก็มีเรี่ยวแรงที่จะพูดจามากขึ้น ถามเพื่อนหมูว่า..แท่งพลาสติกสีขาว เมื่อเห็นแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าบ้าน ผมไม่เห็นแท่งพลาสติกสีขาว นะครับ?

        คราวหน้าต้องบอกว่า..เลยวัดบ้านแพนมาให้ขึ้นสะพาน ลงสะพานเจอแยกขวาไม่ต้องเลี้ยว ตรงมานิดนึงเจอกรวยจราจรขาวแดงให้เลี้ยวขวาทันที..แค่เนี๊ย...?

        เพื่อนหมู..ต้องรู้ว่ามีเพื่อนตัวเล็กที่ขับรถได้แต่โง่ๆเซ่อๆ ถ้าไม่รักเพื่อนจริงๆ รับรองไม่ได้ขับรถมาเจอกันแบบนี้แน่..จริงจริ๊ง

        เพื่อนที่นั่งข้างๆ ยิ้มให้แล้วเอ่ยถามอย่างเป็นกันเอง “ชยันต์..ทำไมนายต้องใส่หมวกทุกวันวะ..?” คำตอบอยู่ในใจคือตอบแบบไม่มีเสียง”มันเรื่องของกู เจ้านายกูยังไม่ถามเลย แล้วมึงเป็นใคร?” ตอบแล้วผมก็ยิ้ม ที่ยิ้มเพราะกำลังคิดว่าผมพูดอยู่กับใคร..(วะ)

        เพื่อนผู้หญิงเรียกไปถ่ายรูปหมู่ ผมกำลังมีรูปแบบนี้กับเขาแล้ว เห็นแต่ในเฟส นึกในใจอยากให้คนถ่ายกดหลายๆที จะได้มีภาพอยู่ในความทรงจำเยอะๆ

        กลับมานั่งที่เดิมอีกพักใหญ่..มองหน้าคนที่ถามเรื่องหมวก คราวนี้ขอถามคืนบ้าง..”นายชื่อชำนาญ แย้มรุ่ง ใช่ไหม?” เพื่อนตอบว่า “อ้าว..นั่งคุยกันตั้งนานจำเราไม่ได้หรา...”

        ผมให้ตอบเพื่อนด้วยความจริงใจ ผสมคำโกหกในตอนท้ายเข้าไปอีก คิดว่าเพื่อนจับได้แต่ก็คงไม่โกรธ..เพราะเรานับถือว่าเป็นเพื่อนกัน..

        “เราจำไม่ได้จริงๆ ชำนาญที่เราจำได้หล่อมาก เหมือนดาราเกาหลี เรียนเก่งระดับแถวหน้าของห้อง สาวกรี๊ดตลอด..วันนี้นายเปลี่ยนไปแบบว่าหล่อขึ้นนะ จนเราจำไม่ได้ สายตาเราแย่จัง...”ผมลงโทษสายตาอีกแล้ว

        งานนี้..ผมจึงเป็นเรื่องโจ๊กของเพื่อนหมู..ตลอดรายการ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยังไงผมก็ยังอยากให้เพื่อนหมูลดแอลกอฮอล์ลงบ้าง เพื่อสุขภาพตัวเองและครอบครัว..

        ตอนนี้เพื่อนหมูสุขภาพแข็งแรง ยังทำงานและทำเงินได้เยอะ เราก็เหมือนกัน ในความรู้สึกอยากเป็นครูที่ดีมีผลงาน มีเพื่อนมัธยมและเพื่อนหมูมาดูงานเราบ้าง..

        การที่เพื่อนจะมาเจอเพื่อนได้นั้น...ต้องเป็นวันที่เพื่อนมีสุขภาพดี..นั่นล่ะคือโอกาส..คนที่ไม่ได้เจอกัน บางครั้งอาจไม่สบายใจไม่สบายกาย ยังไงถึงมีธุระก็มาถ้าเป็นเพื่อน...

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๖  พฤษภาคม  ๒๕๖๒

หมายเลขบันทึก: 661538เขียนเมื่อ 6 พฤษภาคม 2019 21:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2019 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท