ผู้คนชาวญี่ปุ่นและเกาหลีนิยมที่จะมีรั้วบ้าน เลือกที่จะออกแบบให้ดูสวยงามมั่นคงและมีสีสันตามความเชื่อของเจ้าของบ้าน ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเปิดประตูรั้วบ้านเข้าไปแล้วย่อมจะนำแต่สิ่งดีๆเข้าบ้าน..
ในขณะเดียวกัน..ภายในบ้านที่ล้อมด้วยรั้วที่ดูสง่างาม คนในบ้านจะอยู่เป็นสุข ปราศจากภยันอันตรายทั้งปวง
จริงๆคนไทยเราก็มีความคิดที่ดีงามเกี่ยวกับรั้วบ้าน อย่างน้อยก็ช่วยกำหนดขอบเขตให้มองเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้นก็ปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่บริเวณริมรั้ว ที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆว่า “ผักสวนครัว รั้วกินได้” นั่นเอง
นอกจากความเชื่อแล้ว ยังเป็นความรู้สึกที่เกิดจากการมองเห็นเป็นอันดับแรก เมื่อเดินทางถึงบ้านหรือโรงเรียน แล้วเห็นประตูรั้วที่มั่นคงแข็งแรงและสดใสสวยงาม ผู้พบเห็นจะเกิดความประทับใจ..ก่อนจะก้าวเข้าไป..
ความประทับใจแรกเป็นสิ่งสำคัญ..นำมาซึ่งความสุขและความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวง เรื่องที่ยากจะกลับกลายเป็นง่าย เรื่องอันตรายก็กลับกลายเป็นเรื่องดี
ผมจึงต้องทาสีที่ประตูรั้วโรงเรียนปีละครั้ง ให้ดูสดใสใหม่เสมอ..มองเห็นแล้วเป็นมงคล ประมาณว่ารั้วยังขนาดนี้ ภายในโรงเรียนก็คงไม่ด้อยไปกว่ากัน
ที่โรงเรียน..จะมีรั้วอยู่ด้านหน้าโรงเรียน ในระยะ ๒๐๐ เมตรเท่านั้น ไม่มีงบประมาณที่จะสร้างให้ได้โดยรอบ ถ้าสร้างครบทั้งสี่ด้าน คงหมดงบประมาณกว่าแสนบาทอย่างแน่นอน..
โรงเรียนจึงไม่สามารถที่จะส่งผลงานเข้ารับการประเมิน โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร..ทั้งที่ในระดับทอง..โรงเรียนได้คะแนนดีมากทุกตัวชี้วัด ถ้าส่งระดับเพชร..เกณฑ์การประเมินบอกไว้ชัดเจนว่าต้องมีรั้วโดยรอบ..
รั้วแห่งรักและศรัทธาที่มีให้กันระหว่างโรงเรียนกับชุมชน..ผู้ประเมินอาจมองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง การแบ่งปันความรู้ให้ลูกหลานผู้ปกครอง เต็มที่เต็มเวลา การนำพาให้ลูกหลานของเขาเป็นเด็กดีมีคุณภาพ..นับเป็นรั้วอย่างดี ที่สร้างภูมิคุ้มกันให้โรงเรียนอย่างมั่นคงและยั่งยืน
รั้วไม่จำเป็นต้องแพงแต่ต้องมีเพราะโรงเรียนเป็นสถานที่ราชการ..ใครก็ตามที่เดินทางผ่านรั้วเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นครู นักเรียนและผู้ปกครอง ย่อมจะมาด้วยความรักทั้งสิ้น..มาเพราะรักในการทำงาน และมาเพราะรักในการเรียนรู้
รั้ว..รายล้อมและโอบอุ้มสิ่งที่รักไว้มากมาย มีหลายโรงเรียนที่รักกีฬา บางโรงเรียนรักดนตรี ที่โรงเรียนจะส่งเสริมให้รักการอ่านและรักต้นไม้ ตลอดจนรักในสิ่งแวดล้อม จึงมีกิจกรรมเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียง..
โรงเรียนมากมายหลายหมื่นโรงในสังกัด สพฐ. รักในศาสตร์พระราชา พัฒนาสู่กระบวนการเรียนการสอน โดยประยุกต์กิจกรรมและบูรณาการอยู่ในแหล่งเรียนรู้. ภายในรั้วโรงเรียน จึงอบอวลด้วยคำสอนของพ่อ..และด้วยศรัทธาจึงนำพาให้องค์กรอยู่รอดและเข้มแข็ง ด้วยบุคลากรทุกฝ่าย..รู้ รัก สามัคคี...
รู้ คือ การที่เราจะลงมือทำสิ่งใดนั้น จะต้องรู้เสียก่อน รู้ถึงปัจจัยทั้งหมด รู้ถึงปัญหาและรู้ถึงวิธีการแก้ไขปัญหา
รัก คือ ความรัก เมื่อเรารู้ครบด้วยกระบวนความแล้ว จะต้องมีความรักการพิจารณาที่จะเข้าไปลงมือปฏิบัติแก้ไขปัญหานั้นๆ
สามัคคี คือ การที่จะลงมือปฏิบัตินั้น ควรคำนึงเสมอว่า เราจะทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องทำงานร่วมมือร่วมใจเป็นองค์กรเป็นหมู่คณะ จึงจะมีพลังเข้าไปแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
ดังนั้น..ไม่ว่าจะเป็นรั้วบ้าน รั้วโรงเรียน หรือรั้วของชาติ หากดูดีสวยงามและมั่นคง ก็พร้อมที่ให้การต้อนรับผู้คนเข้าไปเรียนรู้ อยู่กันด้วยความรัก และร่วมด้วยช่วยกันด้วยน้ำใจไมตรี..
วันนี้..เรามีรั้วแห่งรัก..อยู่ในใจแล้วหรือยัง?
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๖ เมษายน ๒๕๖๒
ไม่มีความเห็น