สสส.หนุนกินผักและผลไม้ 400 กรัม ดึงหนุ่มสาวออฟฟิศเข้าคอร์สทานผัก


“นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ที่มากขึ้นแล้ว ยังรวมไปถึงความใส่ใจในการเข้าครัวและความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบมาทำอาหาร ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราได้รับประทานผักและผลไม้ได้ตามปริมาณที่เหมาะสม มากกว่าการรับประทานอาหารนอกบ้าน ซึ่งบางเมนูมีอัตราส่วนของผักและผลไม้น้อยมาก หรือบางคนอาจจะกังวัลว่าผักและผลไม้มีสารเคมีปนเปื้อน ซึ่งการล้างผักและผลไม้อย่างถูกวิธีก็จะช่วยได้ แต่ถ้าไม่ทานเลยร่างกายก็จะไม่ได้รับวิตามิน หรือกากใยที่จำเป็นต่อร่างกาย ย่อมไม่เป็นผลดีต่อร่างกายแน่นอน”

                 ขอบคุณที่มาภาพประกอบ http://www.flickr.com/photos/ahmadpi/

สสส.จับมือหน่วยงานราชการ บริษัทยักษ์ใหญ่ ร่วมแคมเปญ “กินผักและผลไม้ 400 กรัม” ปรับสภาพแวดล้อมภายในองค์กรเอื้อต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภค ดึงหนุ่มสาวออฟฟิศเข้าคอร์สทานผักและผลไม้ต่อเนื่อง 21 วัน สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพ

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการกินผักและผลไม้ดี 400 กรัม เป็นหนึ่งในโครงการที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มุ่งส่งเสริมให้คนไทยบริโภคผักให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ โดยตั้งเป้าให้คนไทยบริโภคผักและผลไม้อย่างเพียงพอเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25.9 เป็นร้อยละ 50 ภายในปี 2564 โดยเฉพาะสนับสนุนสถานประกอบการให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ รวมถึงสนับสนุนการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการบริโภคผักและผลไม้ให้แก่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน เช่น การจัดตลาดนัดผักและผลไม้ การเสิร์ฟผลไม้แทนของหวานระหว่างการประชุม การอบรมแม่ครัว หรือร้านอาหารให้เพิ่มสัดส่วนผักและผลไม้ในเมนูมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นแบบอย่างดีให้ประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้

ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่า สสส.ยังต้องการให้ประชาชนเข้าถึงอาหารที่ความปลอดภัย รู้ถึงแหล่งที่มาของผักที่จะรับประทาน หากปลูกเพื่อรับประทานในครัวเรือน โดยปลอดจากสารเคมีต่างๆ ก็จะดีมาก ขณะเดียวกันการปรุงก็ควรคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อร่างกาย หากหวาน มัน เค็ม เกินพอดี ก็จะเป็นผลเสีย เป็นบ่อเกิดของโรคภัยต่างๆ ได้

“บางคนอาจรู้สึกว่าการกินผักให้ได้ 400 กรัมต่อวันเป็นเรื่องยาก เพราะไม่รู้ว่าขนาดไหนหรือเท่าไหร่ถึงจะได้ตามที่ต้องการ ถ้าให้แม่นยำก็คือการนำไปชั่ง แต่ถ้าง่ายที่สุดคือดูที่จานอาหารเรา แต่ละมื้อต้องมีผักอย่างน้อยครึ่งจาน อีกหนึ่งในสี่เป็นกับข้าว และที่เหลือก็เป็นข้าว ถ้าทำได้แบบนี้ทุกมื้อ เรากินผักครบ 400 กรัมแน่นอน” ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ กล่าว

ขณะที่ น.ส.จันทร์จิดา งามอุไรรัตน์ ผู้จัดการโครงการกินผักผลไม้ดี 400 กรัม กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2560 ทางโครงการได้เข้าไปสนับสนุนองค์กรต้นแบบจำนวน 6 แห่งทั้งภาครัฐและเอกชน กิจกรรรมจะเริ่มตั้งแต่การเชิญชวนพนักงานเจ้าหน้าที่องค์กรละ 80 ราย มาอบรมให้สร้างความรู้ความเข้าใจ และสาธิตการทำเมนูอาหารจากผักและผลไม้ พร้อมทั้งสมัครใจเข้าร่วมโปรแกรมการกินผักและผลไม้อย่างน้อยวันละ 400 กรัมต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 21 วัน จนได้ผู้ที่รับประทานผักและผลไม้อย่างสม่ำเสมอรวมทั้งหมดจำนวน 43 ราย โดยทุกคนจะต้องมาถอดบทเรียนร่วมกันหลังเข้าร่วมกิจกรรมและการรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละมื้อว่าเป็นอย่างไร ซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีสุขภาพดีขึ้น เช่น ระบบขับถ่าย ผิวพรรณ เป็นต้น และได้คัดเลือกบุคคลต้นแบบจำนวน 33 ราย เพื่อเป็นต้นแบบให้กับคนในองค์กรและคอยถ่ายทอดประสบการณ์ในเวทีกิจกรรมของโครงการต่อไป

“นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคผักและผลไม้ที่มากขึ้นแล้ว ยังรวมไปถึงความใส่ใจในการเข้าครัวและความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบมาทำอาหาร ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราได้รับประทานผักและผลไม้ได้ตามปริมาณที่เหมาะสม มากกว่าการรับประทานอาหารนอกบ้าน ซึ่งบางเมนูมีอัตราส่วนของผักและผลไม้น้อยมาก หรือบางคนอาจจะกังวัลว่าผักและผลไม้มีสารเคมีปนเปื้อน ซึ่งการล้างผักและผลไม้อย่างถูกวิธีก็จะช่วยได้ แต่ถ้าไม่ทานเลยร่างกายก็จะไม่ได้รับวิตามิน หรือกากใยที่จำเป็นต่อร่างกาย ย่อมไม่เป็นผลดีต่อร่างกายแน่นอน” ผู้จัดการโครงการกินผักผลไม้ดี 400 กรัม กล่าวและว่า ในปี 2561 นี้ เตรียมขยายผลการดำเนินโครงการด้วยการสนับสนุนองค์กรพันธมิตรอีก 10 แห่ง มาร่วมดำเนินกิจกรรมและร่วมรณรงค์การส่งเสริมการบริโภคผักและผลไม้ 400 กรัม ให้ขยายวงกว้างเป็นที่รับรู้ในสังคมมากขึ้น

หมายเลขบันทึก: 660871เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2019 22:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน 2019 22:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท