วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ คณะสี่สหายนัดพบกันที่ผ่านฟ้าภัตตาคาร เวลา ๑๑ น. กินอิ่มหนำสำราญปากและลิ้นแล้ว ก็ไปคุยกันเรื่องมหาวิทยาลัยวิจัยที่บ้าน ศ. ฉัตรทิพย์ โดยมี ศ. ดร. วิชัย บุญแสง เป็นวิทยากร
ลองค้นใน gotoknow ว่าผมเขียนบันทึกที่ระบุ keyword “มหาวิทยาลัยวิจัย” พบว่ามีมากกว่าที่คิด (๑) อ่านบันทึกที่เขียนไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ แล้วบอกตัวเองว่า ให้เขียนตอนนี้เขียนได้ไม่ดีเท่าบันทึกเหล่านั้น
ศ. ดร. วิชัย ใช้หนังสือ ๒ เล่มเป็นข้อมูลประกอบการเล่า คือ
ผมขอเป็นผู้ตั้งโจทย์การพูดคุยว่า เป็นการสะท้อนคิดว่า โครงการนี้บรรลุเป้าหมายการผลักดันมหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งของไทยไปเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยระดับโลก ตามเป้าหมายของการริเริ่มโครงการ หรือไม่ ซึ่งอีกสามสหายก็เห็นด้วย
รายละเอียดของโครงการ NRU ที่คิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นอ่านได้ที่ (๓) (๔)
โครงการนี้เริ่มคิดกันตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ เริ่มได้งบประมาณในปี ๒๕๕๔ หัวหน้าทีมยกร่างโครงการคือ รศ. ดร. วันชัย ดีเอกนามกูล สมัยที่ รศ. ดร. ภาวิช ทองโรจน์ เป็นเลขาธิการ กกอ. และเป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
ตอนเริ่มคิด เป็นโครงการ NRU และคัดมหาวิทยาลัยตามเกณฑ์ได้ ๙ แห่ง งบประมาณ ๓ ปี รวม ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท เมื่อข่าวโครงการนี้แพร่ออกไป ก็มีการเรียกร้องจากมหาวิทยาลัยของรัฐส่วนที่เหลือจนเกิดโครงการ HERP (Higher Education Research Promotion) (5) แบ่งเงินไป ส่วนของ NRU เหลือ ๕,๐๐๐ ล้านใน ๓ ปี คือ ๒ ปีแรก ปีละ ๒,๐๐๐ ล้านบาท ปีที่สาม ๑,๐๐๐ ล้านบาท แต่ที่เกิดขึ้นจริง ได้งบประมาณตามแผนเพียงปีแรก ปีต่อๆ มาได้น้อยกว่าแผน กว่าจะได้ครบ ๕,๐๐๐ ล้านบาทก็ใช้เวลา ๖ ปี และในความเป็นจริงเงินนี้ไม่ใช่เงินที่เพิ่มจากงบวิจัยเดิมของมหาวิทยาลัย ผมจำได้ว่า ในปี ๒๕๕๔ มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับงบวิจัยจากงบประมาณแผ่นดินน้อยกว่าตอนไม่มีโครงการ NRU เสียอีก เพราะสำนักงบประมาณตัดงบวิจัยที่เคยได้ออกหมด บอกว่าให้ไปเอางบ NRU
โจทย์ของการเสวนาในวันนี้คือ โครงการ NRU ทำให้ประเทศไทยพัฒนามหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่ง (๙ มหาวิทยาลัย) เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยระดับโลก เพื่อเป็นหัวรถจักรยกระดับคุณภาพของอุดมศึกษาไทย ได้ตามเป้าหมายโครงการหรือไม่
คำตอบของ ศ. ดร. วิชัยคือ เราไปไม่ถึง เพราะตอนเริ่มดำเนินการก็ไม่ได้ทำตามแผนเสียแล้ว ยุทธศาสตร์จัดลำดับความสำคัญของทรัพยากรไม่เป็นจริงตามแผน เพราะมีปัจจัยทางการเมืองภายในระบบอุดมศึกษาเข้ามาเบี่ยงเบนตั้งแต่โครงการยังไม่คลอด
ศ. ดร. วิชัย ได้รับเชิญไปเป็นผู้อำนวยการโครงการทั้ง NRU และ HERP ต้องเผชิญปัญหาอุปสรรคของระบบราชการมากมาย เงินจากงบประมาณแผ่นดินออกช้ามาก ผู้ทำงานในโครงการบางคน (เช่น ศ. ดร. วิสุทธิ์ ใบไม้) ไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นปี ศ. ดร. วิชัยเอง ต้องออกเงินส่วนตัวทดรองจ่ายค่าใช้จ่ายหลายอย่างล่วงหน้าเป็นเวลา ๖ เดือน รวมทั้งจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่ด้วย ยิ่งกว่านั้น
โครงการที่มีข้อท้าทายภายในมหาวิทยาลัยในโครงการเองมากยิ่งกว่า คือ HERP เพราะมีมหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่งมีวัฒนธรรมเล่นพรรคเล่นพวก ไม่ได้ทำงานจัดการทุนวิจัยตามคุณภาพของข้อเสนอโครงการ
โครงการวิจัยในโครงการ HERP ต้องไปผ่านการพิจารณาของสภาวิจัย ทำให้ช้าและไม่เป็นกลไกกรองคุณภาพอย่างที่อ้าง
เอกสารรายงานทั้งสองชิ้น เขียนแบบเป็นทางการ ในส่วนระหว่างบรรทัดอยู่ในการเสวนาในกลุ่มสี่สหาย ทำให้ผมได้ความคิดว่า หากจะให้ประเทศได้รับประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการริเริ่มที่ดียิ่งนี้ ต้องมีการประเมินแบบเจาะลึกจริงจัง หาประเด็นเรียนรู้ว่าในโอกาสข้างหน้า หากจะมีการริเริ่มโครงการก้าวหน้าในทำนองนี้อีก จะต้องวางยุทธศาสตร์เอาชนะความท้าทยที่สำคัญอะไรบ้าง
นอกจากนั้น การประเมินแบบเจาะลึกนี้ ยังจะช่วยบอกข้ออ่อนแอหรือข้อด้อยของวัฒนธรรมในวงการอุดมศึกษาไทย ที่เป็นอุปสรรคภายในสถาบันและในวงการอุดมศึกษาบางกลุ่ม ที่หากไม่มีการปรับปรุงแก้ไขจริงจัง อาจเป็นปัจจัยลบต่อความอยู่รอดของสถาบัน
วิจารณ์ พานิช
๒๘ ก.พ. ๖๒
1 เห็นกระเพาะปลาทำเองตากอยู่ จึงสั่งกระเพาะปลาผัดแห้ง
2 สามสหายไปถึงก่อนไปเยี่ยมร้านกาแฟข้างๆ และสั่งกาแฟมากิน
3 อาหารซิกเนเจอร์ของผ่านฟ้าภัตตาคาร
4 สามสหายกำลังมีความสุขกับการกิน
ไม่มีความเห็น