นอนเพื่อเรียนดี

บทความ The One Change that Boosts High School’s Academic Performance (1)  ลงในเว็บไซต์ของนิตยสาร Scientific American  บอกว่าสภาพสังคมทำให้วัยรุ่นนอนน้อยลง    ผลงานวิจัยบอกว่า การนอนไม่พอ มีผลให้ผลการเรียนตกต่ำลง     รวมทั้งมีผลต่อสุขภาพ   และพัฒนาการทางสังคม  

มีการทดลองในหลายประเทศ ร่นเวลาเข้าเรียนของแต่ละวันออกไป    เพื่อไม่ให้เด็กต้องตื่นแต่เช้า    ทำให้มีเวลานอนไม่พอ    พบว่าการร่นเวลาเข้าเรียนช่วยให้วัยรุ่นนอนมากขึ้นจริง     เป็นเวลาวันละ ๑๐ นาทีบ้าง  ๒๐ นาทีบ้าง   

การวิจัยในวัยรุ่นอายุ ๑๕ ปี  ๑๒๐,๐๐๐ คนในสหราชอาณาจักร    ยืนยันว่าระยะเวลาการนอนหลับมีผลต่อสุขภาพ    การนอนไม่พอ ทำให้เสียสุขภาพ   

มีการวิจัยชิ้นใหญ่ ที่เขตการศึกษาแห่งหนึ่ง ในนคร ซีแอตเติล สหรัฐอเมริกา    ในโรงเรียนมัธยม ๒ แห่ง    โดยนักวิจัยด้านประสาทวิทยาศาสตร์ และนักชีววิทยา     มีการเก็บข้อมูลก่อนและหลังการทดลองเป็นเวลา ๒ ปี    ทดลองเปลี่ยนเวลาเข้าเรียนจาก ๗.๕๐ น.  เป็น ๘.๔๕ น.   ร่นช้าลง ๕๕ นาที   

พบว่าเด็กนักเรียนนอนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยคืนละ ๓๕ นาที    จากคืนละ ๖ ชั่วโมง  ๕๐ นาที  เป็น ๗ ชั่วโมง  ๒๔ นาที    โครงการนี้ชื่อว่า Sleepmore in Seattle (2)    รายงานว่า ผลการเรียนของนักเรียนดีขึ้น   ลดความง่วงเหงาหาวนอน   เพิ่มอัตราเข้าเรียน   และเพิ่มการมาโรงเรียนตรงเวลา   

งานวิจัยชิ้นนี้มีรายละเอียดมาก    ท่านที่สนใจอ่านรายละเอียดเอาเองนะครับ    ผมอ่านแล้วคิดถึงเด็กไทย โดยเฉพาะเด็กกรุงเทพ    ที่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามืดเพื่อฝ่ารถติดไปโรงเรียน    ไม่ทราบว่ามีผลให้นอนไม่พอหรือไม่    และมีผลลบต่อการเรียนรู้แค่ไหน   และคิดถึงเด็กในฟินแลนด์ ที่เรียนในโรงเรียนใกล้บ้าน    เดินไปโรงเรียน   น่าจะได้นอนเต็มอิ่ม    ได้รับผลดีต่อการเรียน    เหมือนกับผมสมัยเป็นเด็กบ้านนอก เดินไปสิบนาทีก็ถึงโรงเรียนวัด (ชั้นประถม)    หรือขี่จักรยานไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงโรงเรียน (ชั้นมัธยม)              

วิจารณ์ พานิช

๑๔ ก.พ. ๖๒