เที่ยวเชียงรายกับสุภัชชา.กับตำนานเมืองเชียงรายที่ปรากฎในคัมภีร์ชินกาลมาลีปกรณ์
โดยอาจารย์สุภัชชา.พันเลิศพาณิช์
ซึ่งในชินกาลมาลีปกรณ์ ได้กล่าวถึงการสร้างเมืองเชียงรายไว้ว่า
“เล่ากันว่า ในกาลก่อน มีสัตว์ตนหนึ่งได้ทำบุญไว้มากเกิดขึ้นด้วยอุปปาติกปฏิสนธิ สัตว์ตนนั้น เพราะได้กระทำไว้มาก จึงเป็นผู้มีเดช มีฤทธิ์ ประกอบด้วยเรี่ยวแรง ความว่องไว ความบากบั่น
บึกบึน มีวาจาคนเชื่อถือ และมีตะบะคือเคร่งครัดต่อหน้าที่ เพราะประกอบด้วยคุณสมบัติ ๗ อย่าง ดังนี้ จึงเป็นหัวหน้าของมหาชน ได้สร้างนครยางคปุระขึ้น เป็นกษัตริย์องค์ต้นครองราชย์สมบัติอื่นในนครนั้น พระองค์ปรากฏทั่วแคว้นโยน(โยนก) ว่า ลาวจังคราช ได้ยินว่า ลาวจังคราชนั้น มีพระราชบุตร พระราชนัดดา พระราชปนัดดา สืบต่อกันมา ๒๓ พระองค์ ครองราชย์สมบัติโดยลำดับ ในจำนวนกษัตริย์เหล่านี้ กษัตริย์องค์สุดท้ายทรงพระนามว่า มังราย ประสูติ ปีกุน จุลศักราช ๖o๑ (พ.ศ.๑๗๘๓ เมื่อพระบิดาล่วงลับแล้ว พระองค์ทรงกระทำราชาภิเษก เมื่อพระชนม์พรรษาได้ ๒๒ ปี ทรงสร้างเมืองเชียงราย เมื่อจุลศักราช ๖๒๔(พ.ศ.๑๘o๖)”
ตำนานเมืองเชียงรายฉบับคำกลอน
สุภัชชา.
ชินกาลมาลีปกรณ์เขียนเล่าเอาไว้ว่า
กาลก่อนมาปฐมกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
ชื่อว่าลาวจังคราชเก่งเกินใคร
เคยเป็นสัตว์แต่ทำบุญโขไว้
เป็นผู้มีฤทธิ์เดช ว่องไวและบากบั่น
รู้ทั่วกันมีตบะยิ่งใหญ่จึงเกิดผล
มีวาจาคนเชื่อเถือลือกันจน
เป็นหัวหน้ามหาชนแต่นั้นมา
ลาวจังคราชมีคุณสมบัติครบ๗อย่าง
และได้สร้างนครยางคปุระรู้ไหมหนา
จึงเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์มังรายแต่นั้นมา
มีพระโอรส-ราชธิดา ๒๓ พระองค์
ชื่อนามกษตริย์องค์สุดท้าย
พระนามว่า มังราย ผู้สูงส่ง
เมื่อพระบิดาม้วยดับล่วงลับลง
พระเจ้ามังรายทรงขึ้นครองเมือง
ครองเมืองเมื่อชนม์มายุ๒๒พรรษา
เป็นราชารบเก่งกาจจนลือเลื่อง
ในพ.ศ.พ.ศ.๑๘o๖ทรงสร้างเมือง
นามกระเดื่องชื่อเชียงรายแห่งล้านนา
ไม่มีความเห็น