เพื่อนบอกกับผมว่า...ตั้งแต่ปี 25 เราก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย มาวันนี้ ปี 62 แล้ว (นับนิ้วดู ..37 ปี ที่วันเวลาทิ้งร้างห่างไป และวันเวลาอีกเช่นกันที่สร้างประสบการณ์ชีวิตให้กับเรา
วันที่เราก้าวเท้าออกจากรั้ว “ดอกแก้ว” ถึงแม้นว่า เราต่างมีบรรพบุรุษ ที่มีถิ่นกำเนิดเดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่สาระสำคัญที่มากไปกว่า “การมีจิตสำนึกของการใช้ชีวิต.. ใช้ชีวิตอย่างไร..อยู่อย่างไร? ต่างหาก!!
และวันที่ชีวิตเราเดินทางมาพบกัน รูปลักษณ์ภายนอกอาจเป็นสิ่งที่เราคาดหวัง เพื่อนมันจะเปลี่ยนไปมั้ย!! หรือมันจะจำเราได้หรือเปล่า? แต่เอาเข้าจริง ๆ วันเวลาเพียงแค่ผ่านไป... ใจเดิม ๆ ของความเป็นเพื่อนนั้น มันไม่เคยลดน้อยถอยลงเลย เคยเห็นเช่นไรเมื่อก่อนโน้น มาวันนี้ก็เห็นเช่นนั้น รูปลักษณ์ภายนอกบอกองศาของการเปลี่ยนแปลง แต่มันก็ไม่เปลี่ยน (ฮา)..(มันนานมาก..นานจนแทบจำคืนวันที่ผ่านไปไม่ได้จริง ๆ) แต่เพื่อนก็ยังคงเหมือนเดิม คมเข้ม ใน แบบฉบับคนใต้ขนานแท้)
..........................................
แต่สิ่งหนึ่งที่เพื่อนเปลี่ยนไป หลังจากที่เราได้เสวนากัน ได้คุยกัน
มันทำให้ผมรู้สึกว่า...มุมคิดชีวิตของผมนั้น...มันแคบไปถนัดตา...เลยทีเดียว
มุมคิดของเพื่อน
การใช้ชีวิตของเพื่อนที่ผ่านมา
มันทำให้ผมรับรู้ถึง "ความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน" ในตัวเพื่อน
มันทำให้ผมได้สัมผัส...สิ่งนี้ครับ
จิตสำนึก..ที่สำนึกรักในบ้านเกิด
อนาคตที่รุ่งโรจน์...บนเส้นทางสายชีวิต
สุดท้ายเพื่อนก็ทิ้งมันไป...เพื่อนทิ้งอนาคตของตัวเอง
เพื่อนกลับบ้าน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
วันนี้ผมได้เห็นความมุ่งมั่นในแววตาของเพื่อน
แววตาคู่นี้...ที่มันตอบโจทย์ชีวิต..บางอย่างให้กับผม
เพื่อนไม่เคยฝันมากไปกว่า...การได้กลับบ้าน
กลับมาสู่อ้อมกอดของความรัก... ความอบอุ่นของครอบครัว
ซึ่งมันไม่ใช่ความคิดเดี๋ยวนี้ แต่มันนานมากเลยทีเดียวที่เพื่อนกลับมาอยู่ที่นี่
สมุยสมั้ยโน้น..มันอาจเทียบกันไม่ได้เหมือนวันนี้
..
วันนี้..วันที่ผม..ได้มองเห็น "หัวใจของเพื่อน" ที่มันไม่ใช่การทำตามกระแส
..
แต่เพื่อนได้พาหัวใจกลับบ้าน ...ด้วยหัวใจของเพื่อนเอง..ต่างหากละ!!
เพื่อนคนนี้ "เกษม พรมจันทร์"
ไม่มีความเห็น