๘๙๔. เราจะได้พบกันจริงๆ..หรือ?


เริ่มต้นชีวิตราชการจากงาน “ครู” เข้าสู่งานบริหารวิชาการจากตำแหน่ง “ศึกษานิเทศก์” วันนี้เป็น ผอ.ก็ยังรู้สึกว่าต้องเรียนรู้งาน ถ้าผมได้ผ่านตำแหน่งครูใหญ่มาตั้งแต่แรกก็คิดว่าชีวิตน่าจะแกร่งและครบเครื่องมากกว่านี้...

         ผมก็เหมือนผู้บริหารโรงเรียนหลายๆคน ที่ไม่รู้สึกรู้สากับชื่อตำแหน่งสักเท่าไร เพียงแต่แปลกใจว่าทำไม?เด็กรุ่นใหม่ถึงมีโอกาสจะได้สัมผัสกับตำแหน่งนี้ และอีกไม่กี่ปีผมจะเกษียณ ผมกลับต้องย้อนยุคไปเกษียณในตำแหน่ง “ครูใหญ่”ที่ผมจากมาเมื่อกว่า ๒๐ ปี...

    วันที่เป็นครูจบ ป.โท..วันที่เขาสอบเป็นครูใหญ่..ผมก็อยากเป็นแต่ไม่กล้า เพราะไม่ได้จบเอกบริหารฯ วันนั้นจึงเลือกสอบอีกห้องหนึ่ง คือสอบเป็นศึกษานิเทศก์...

    ครูใหญ่สมัยนั้น ซี ๕ – ๖ โรงเรียนจะเล็กๆและอยู่ห่างไกล ผมยังไม่พร้อมถึงขนาดนั้น..พอสอบศึกษานิเทศก์ได้ที่ ๑..นึกว่าจะได้อยู่เมือง กลับต้องอยู่สำนักงานในท้องถิ่นกันดาร ณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

        ผมได้ทำงานวิชาการเคียงบ่าเคียงไหล่กับครูใหญ่หลายคน ทุกคนล้วนสมบุกสมบันจนผมยอมรับนับถือหัวใจ..ดีแล้วที่ไม่ได้เป็น..เพราะเดินทางสาย ศน.เสียแล้ว

        วันประชุมผู้บริหารฯ เห็นครูใหญ่เดินมา..ผมจะนึกถึง “ครูใหญ่” ในดวงใจของผมเสมอ..ครูใหญ่คนแรกที่ผมเรียกพ่อจนติดปาก..ในโรงเรียนแรกที่ผมบรรจุเป็นครู

        เคยฝันหวานว่า..จะเป็นครูใหญ่ที่ดีอย่างพ่อให้ได้..แต่ก็ไม่ได้เป็น ต้องมาเป็นนักวิชาการแจ้งข้อราชการให้ครูใหญ่รับทราบ...

        สมัยนั้นงานศึกษานิเทศก์หนักมาก ต้องทำงานให้เป็นที่ยอมรับของครูและผู้บริหาร..กลางวันออกนิเทศติดตามการเรียนการสอน กลางคืนขึ้นทำงานเพื่อสะสางงานไม่ให้คั่งค้าง..กลับเข้าบ้านพักสามสี่ทุ่มทุกคืน

        และแล้วกาลอวสานก็เกิดขึ้น..ผมเป็นไข้อย่างรุนแรง หมอบอกผมเป็นมาลาเรียเกือบขึ้นสมอง..ต้องรีบจรออกจากป่าได้แล้ว..

        ผมเลยไปสอบเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียน..เพราะอยากเรียนรู้งาน และคิดว่ายังไงก็ต้องเป็นโรงเรียนใหญ่ในเมืองและเด็กเยอะแน่ๆ..พอสอบได้ที่ ๑..ก็จึงได้อยู่โรงเรียนใหญ่สมใจนึก...

        โรงเรียนใหญ่ครูก็เยอะ งานก็เป็นระบบ..ผอ.ก็ไม่ค่อยจะมอบอะไรให้ทำ..ผมก็เลยดูหนังสืออย่างเพลิดเพลิน..สมัยนั้นอ่านอะไรก็จำ..๑ ปีผ่านไป..เขาเปิดสอบอาจารย์ใหญ่ คิดว่ายังไงก็ต้องสอบติด แล้วก็ติดจริงๆ..ได้ที่ ๑ เหมือนเดิม..

        ผมเป็นอาจารย์ใหญ่ ซี ๗ ได้ไม่นาน..ทางราชการก็ปรับเปลี่ยนชื่อกำหนดตำแหน่งให้ใหม่..โดยไม่ต้องสอบ โรงเรียนเล็กหรือใหญ่ได้เป็น “ผู้อำนวยการ”เหมือนกันหมด

        ได้เป็นผู้อำนวยการวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ (ซี ๘)ในโรงเรียนขนาดเล็ก ก็รู้สึกดีใจที่ก้าวมาได้ไกลถึงเพียงนี้ ถึงแม้จะทำงานหลายหน้าที่ แต่ก็ช่างเถอะถือว่าได้กำไรก็แล้วกัน...

        เริ่มต้นชีวิตราชการจากงาน “ครู” เข้าสู่งานบริหารวิชาการจากตำแหน่ง “ศึกษานิเทศก์” วันนี้เป็น ผอ.ก็ยังรู้สึกว่าต้องเรียนรู้งาน ถ้าผมได้ผ่านตำแหน่งครูใหญ่มาตั้งแต่แรกก็คิดว่าชีวิตน่าจะแกร่งและครบเครื่องมากกว่านี้...

        วันนี้เขาจะรื้อฟื้นตำแหน่ง “ครูใหญ่”ให้กลับมา และอีก ๔ ปีผมจะเกษียณอายุราชการ..คุณพระช่วย..ผมจะได้เป็นครบสามตำแหน่งในชีวิตผู้บริหารโรงเรียน..หรือนี่..?

        ยังเป็นงงสงสัย คำว่า “ครูใหญ่”เราจะได้พบกันจริงๆหรือ? ใครจะไปเชื่อว่าเราจะได้พบกันในยุคนี้..แล้วพบกันไปเพื่ออะไร..?มันจะเกิดคุณูปการต่อเด็กอย่างไรบ้าง..?

        ใครก็ได้..ช่วยตอบหน่อยได้ไหม?

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๖  กุมภาพันธ์  ๒๕๖๒

หมายเลขบันทึก: 660125เขียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2019 20:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2019 22:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

โอ้ววววว 3  ตำแหน่งในช่วงชีวิตนะครับคุณครู

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท