มีคนเข้าไปถามใน Quora Digest ว่า What do most people not know about working as a as a college professor? (๑) และ James W. Hoover ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ ในสหรัฐอเมริกา เข้าไปตอบ ๑๐ ข้อ ดังต่อไปนี้
- 1. อาจารย์มหาวิทยาลัย มีภาระงานสอนเพียงสัปดาห์ละ ๙ – ๑๒ ชั่วโมง แต่ต้องใช้เวลาเตรียมอีกสัปดาห์ละ ๕ - ๑๐ ชั่วโมง หรือมากกว่า ในการเตรียมการสอนและให้คะแนน และยังมีงานอื่นอีกมาก เรื่องนี้สมัยผมทำหน้าที่อาจารย์ และรับผิดชอบสอนวิชาพันธุศาสตร์ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ช่วงปี ๒๕๑๘ - ๒๕๓๕) งานในส่วนนี้ ชั่วโมงสอนเพียงสัปดาห์ละ ๑ ชั่วโมง แต่ผมใช้เวลานอกเวลาราชการถึงประมาณ ๓ ชั่วโมงในการเตรียมการสอน ๑ ชั่วโมงนั้น และหลังจากการสอนผมใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง ในการฟังเทปเสียงที่อัดไว้ด้วยเทปคาสเส็ตต์ เพื่อตรวจสอบว่าควรปรับปรังการบรรยายช่วงใดบ้าง โดยผมยังมีงานอื่นด้านการพัฒนาที่ริเริ่มเอง หรืองานอื่นของภาควิชาและของคณะ หรือในบางช่วงเวลาของมหาวิทยาลัย อีกมาก
ผมคิดว่า อาจารย์มหาวิทยาลัยในปัจจุบัน ควรมีภาระงานด้านการผูกพันมหาวิทยาลัยกับสังคม (community engagement) (๒) ประมาณหนึ่งในสามของเวลาทำงาน
- 2. อาจารย์มหาวิทยาลัยต้องทำทั้งงานสอนและวิจัย โดยภารกิจทั้งสองต้องเสริมกัน และต้องตีพิมพ์ผลงานวิจัย เพื่อรักษาการจ้างงานของตนไว้
- 3. อาจารย์มหาวิทยาลัยเป็นทั้งลูกจ้าง และฝ่ายบริหาร คือต้องทำหน้าที่กรรมการต่างๆ บางครั้งทำงานบริหาร และอาจมีส่วนในการจัดการมหาวิทยาลัย
- 4. อาจารย์มหาวิทยาลัยมีเสรีภาพทางวิชาการ สามารถทำงานวิชาการได้โดยไม่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของผู้มีอำนาจทางการเมือง แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกติกาทางวิชาการ รวมทั้งกติกาจริยธรรมทางวิชาการ
- 5. อาจารย์มหาวิทยาลัยในต่างสาขาวิชา ได้รับเงินเดือนในอัตราที่แตกต่างกัน อาจารย์สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ได้รับเงินเดือนต่ำกว่าอาจารย์สาขา STEM ผมขอเพิ่มเติมว่า อาจารย์ในสาขาแพทยศาสตร์มักได้รับเงินค่าตอบแทนจากหลายทาง ตามหน้าที่ความรับผิดชอบ
- 6. อาจารย์ในสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มักต้องใช้เงินส่วนตัวเป็นค่าใช้จ่ายในการทำวิจัย โดยที่ในบางกรณีเป็นเงินระดับพันดอลล่าร์
- 7. อาจารย์มหาวิทยาลัยมักต้องทำงานในช่วงเวลา “พักร้อน” ซึ่งมักเป็นงานวิจัย เพราะเป็นช่วงที่มีสมาธิกับงานวิจัยได้ดีที่สุด ไม่มีงานอื่นรบกวน โดยที่ในหลายกรณีช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้รับเงินเดือน
- 8. อาจารย์ทำงานแบบรับผิดชอบตนเอง น้อยครั้งที่จะมีการดูแลจากหัวหน้า แต่จะมีการประเมินผลงานตามที่ตกลงกันไว้ ผมขอเพิ่มเติมว่า การบริหารงานมหาวิทยาลัยในสมัยนี้ควรจัดระบบ mentoring ให้แก่อาจารย์ใหม่ โดยมีอาจารย์อาวุโสที่มีผลงานและวัตรปฏิบัติเป็นที่ยกย่อง ทำหน้าที่ mentor ในช่วงสองสามปีแรก จะช่วยให้อาจารย์ใหม่พัฒนาตนเองได้ดร็วและถูกทาง นอกจากนั้น ยังควรจัดทรัพยากรส่งเสริมระบบ PLC ให้แก่อาจารย์ทุกคน คืออาจารย์ต้องเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต และการเรียนรู้ร่วมกันผ่านการปฏิบัติหน้าที่อาจารย์ (PLC) จะช่วยให้อาจารย์ทำงานสร้างสรรค์ผลงานได้ง่ายขึ้น
- 9. อาจารย์มหาวิทยาลัยไม่ได้หางานโดยการสมัครงาน แล้วเข้าสอบคัดเลือกหรือแข่งขันเหมือนงานอื่นๆ แต่ใช้วิธีสร้างผลงานตีพิมพ์ให้เป็นที่รู้จัก หรือมีอาจารย์อาวุโสช่วยแนะนำ การหางานใหม่อาจใช้เวลาเป็นปี
- 10. อาจารย์มหาวิทยาลัยมักมาจากครอบครัวชั้นกลาง อาศัยในเขตชานเมือง มีบ้างที่ไต่เต้าจากครอบครัวยากจน อาจารย์ไม่ได้เป็น “ชนชั้นสูงทางปัญญา” อย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ คือยังคงติดดิน อยู่กับความเป็นจริงในสังคม อาจารย์ที่เป็น “ชนชั้นสูงทางปัญญา” นั้น เป็นอาจารย์ส่วนน้อยในฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
วิจารณ์ พานิช
๑๐ ม..ค. ๖๒