คติการกินเนื้อมนุษย์ จากความเชื่อดั่งเดิมสู่โลกภาพยนตร์


#บทความ

คติการกินเนื้อมนุษย์ จากความเชื่อดั่งเดิมสู่โลกภาพยนตร์

โดย วาทิน ศานติ์ สันติ (18/1/2562)

ในโลกของภาพยนตร์มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่นำเสนอการกินเนื้อมนุษย์แบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ ส่วนในโลกของความจริงนั้นก็ยังเห็นอยู่บ่อยครั้งกับพฤติกรรมของบางคนที่กินเนื้อมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของวัฒนธรรม ความเชื่อ หรืออาการทางจิตก็ตาม วันนี้ลองมาอ่านกันว่า คติการกินเนื้อมนุษย์ในมุมมองของคติชนวิทยานั้นเป็นอย่างไร

ฮันนิบาล เล็กเตอร์ (Hannibal Lecter) ฆาตกรอัจฉริยะจากนิยายแนวอาชญากรรม ของ โทมัส แฮร์ริส ซึ่งถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลายภาค ชีวิตในวัยเด็กช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ครอบครัวของเขาแตกแยก ดำรงชีวิตด้วยความอดอยาก อาหารขาดแคลน เขาจึงต้องดำรงชีพโดยการกินศพของคนตายเพื่อประทังชีวิต เมื่อเขากลายเป็นฆาตกรผู้โด่งดังเขาก็มีแนวทางการกินเนื้อมนุษย์เป็นเอกลักษณ์ มีพัฒนาการมาจากการกินเพื่อความอยู่รอดสู่การกินเพื่อความเอร็ดอร่อย

วันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1972 เครื่องบินสายการบินอุรุกวัยเดินทางไปประเทศชิลีประสบอุบัติเหตุตกบริเวณเทือกเขาแอนดิส ที่มีความสูง 10,300 ฟุตจากน้ำทะเล มีผู้เสียชีวิตทันที 45 คน ผู้อยู่รอดต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นกับเทือกเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ หนึ่งในผู้อยู่รอดนั้นมีนักกีฬารักบี้ทีมโอลด์คริสเตียนส์ ของมหาวิทยาลัยสเตลล่ามาริส รวมอยู่ด้วย ขาดการติดต่อและการช่วยเหลือนานวันเข้าอาหารมี่มีหมดลง ผู้ที่เหลือรอดชีวิตก็ตกลงกันว่าหากมีใครตายลงไปจะอนุญาตให้เพื่อนที่เหลือสามารถกินเนื้อของตนเองเพื่อประทังชีวิตได้ จนผ่านไปกว่า 2 เดือนพวกเขาจึงเดินทางลงจากภูเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ เหตุการณ์จริงครั้งนี้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง ALIVE

ช่วงปี พ.ศ. 2497 ถึง 2501 มีข่าวการหายตัวไปของเด็กหลายคน ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นครปฐม ระยอง หลายคนเชื่อว่าเกิดจากชาวจีนคนหนึ่งชื่อซีอุยฆ่าเด็กเหล่านั้น เพื่อนำตับมาต้มกินเป็นยาให้ร่างกายแข็งแรง จนกลายมาเป็นตำนานอันเลื่องลือของซีอุยกินตับเด็กในประเทศไทย

เว็บไซต์ข่าววอชิงตันโพสต์ของสหรัฐอเมริกา รายงานข่าวเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2017 ว่า นาย ดีมิตรี บาคแชฟ อายุ 35 ปี และ นางนาตาเลีย อายุ 42 ปี ภรรยา ใช้ชีวิตในเมืองกราสโนดา ทางภาคใต้รัสเซียถูกตำรวจบุกค้นบ้านพบชิ้นส่วนร่างกายของมนุษย์ เนื้อและหนัง เก็บในตู้เย็น ตู้แช่ และซุกซ่อนไว้ตามจุดต่าง ๆ ทั่วบริเวณบ้าน ทั้งสองยอมรับสารภาพว่าในช่วงเวลากว่า 18 ปีนับตั้งแต่ ค.ศ. 2003 ถึง ค.ศ. 2017 พวกตนได้ฆ่าคนและกินศพแล้วอย่างน้อย 31 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นหญิงสาวอายุระหว่าง 17 ถึง 38 ปี เจ้าหน้าที่เชื่อว่าทั้งสองคนใช้วิธีวางยาสลบเหยื่อแล้วค่อยถลกหนังเหยื่อทั้งเป็นก่อนจะทำและศพออกเป็นชิ้น ๆ อัยการมีหลักฐานภาพถ่ายเช่น ภาพหัวกะโหลกมนุษย์ตั้งไว้บนจานเปล ตกแต่งด้วยผลส้มวางเรียงโดยล้อมรอบ ภาพโชว์ผู้ต้องหาคาบมือของเหยื่อในสภาพขาดรุ่งริ่ง ภาพโชว์ชิ้นส่วนร่างกายคนถูกดองสารเหลวบรรจุไว้ในขวดโหล นอกจากนั้น ภาพหนังคน 19 ผืน นับเป็นหนึ่งในคดีกินเนื้อมนุษย์ที่สยองขวัญที่สุดคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์

ที่อุโบสถวัดคงคาราม จังหวัดราชบุรี มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเลื่องชื่อ ถูกเขียนขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายและเขียนซ่อมในสมัยรัตนโกสินทร์ คือภาพการย่างศพที่ถูกตัดออกเป็นชิ้น ๆ โดยมีเพียงศรีษะและท่อนแขนวางบนตระแกรงที่สุมด้วยกองไฟจากด้านล่าง มีคนใส่ฟืนเพิ่งเร่งไฟ แต่ไม่เห็นภาพการกินชิ้นส่วนเนื้อมนุษย์ ที่ด้านขวาตอนบนของภาพ ชายสูงศักดิ์ใช้พระขรรค์กรีดพระชานุ (เข่า) เพื่อให้หญิงผู้หนึ่งดื่มพระโลหิตต่างน้ำดับกระหาย นั่นคือภาพ จุลปทุมชาดก เรื่องย่อคือ พระเจ้าพรหมทัตแห่งกรุงพาราณสี มีพระราชบุตรพระนามว่า ปทุมราชกุมาร และมีพี่น้องรวมกันเจ็ดพระองค์ ต่อมาพระเจ้าพรหมทัตเกรงว่าราชบุตรจะชิงเอาราชสมบัติ จึงออกอุบายให้พี่น้องทั้งเจ็ดออกจากเมือง พี่น้องทั้ง 7 พร้อมกับพระชายาทุกพระองค์เดินทางไปยังป่าที่กันดาร ขาดอาหารพากันหิวโหยอดข้าวอดน้ำ จึงตกลงกันว่าจะสละพระชนม์ของพระชายาของตนไปทีละคน แล้วแบ่งเนื้อออกเป็นสิบสามส่วน ปทุมราชกุมารเก็บส่วนที่ตนและพระชายาเสวยเพียงส่วนเดียว อีกส่วนเก็บไว้ เมื่อถึงคิวพระปทุมราชกุมาร พระองค์ไม่ได้ทำการปลงพระชนม์พระชายา แต่ทรงนำเนื้อในส่วนที่เก็บไว้หกส่วนให้กับน้อง ๆ วันรุ่งขึ้นพระองค์ก็พาพระชายาหนีไป

นี่คือตัวอย่างภาพยนตร์ เหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจริง และงานวรรณกรรม ที่มีอนุภาคของเรื่องเหมือนกันคือ "การกินเนื้อมนุษย์" วันนี้ผมจึงขอเล่าเรื่องคติการกินเนื้อมนุษย์ให้กับท่านทั้งหลายได้อ่านกันครับ

คติการกินเนื้อมนุษย์ (cannibalism) หมายถึงมนุษย์กินเนื้อมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าจะกินเพื่อเป็นอาหารกิน เพื่อล้างแค้นศัตรู กินเพื่อปฏิบัติตามพิธีกรรมทางศาสนา The encyclopedia of Religion อธิบายถึงการกินเนื้อมนุษย์ว่า แต่เดิมอาจกินเพราะความหิวโหย บางวัฒนธรรมกินเนื้อมนุษย์เพราะเป็นการรักษาพลังอำนาจของบุคคลที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมกับตนหรือไว้ในกลุ่มเครือญาติของเขา แต่หากเป็นศัตรูผู้ที่กินเนื้อจะพอใจมากถ้าเป็นเนื้อของคนที่คุกคามตน ในขณะเดียวกันการกินเนื้อถือเป็นการสังเวยเทพพระเจ้าของเขา ผู้คนในชนเผ่าก็จะรุมกินเนื้อมนุษย์ซึ่งเหมือนกับได้กินเนื้อของเทพเจ้าพระเจ้าที่นับถือ ซึ่งอาจหมายถึงความอุดมสมบูรณ์และความเจริญงอกงาม

อี.แอดัมสัน โฮเบล นักคติชนวิทยานามอุโฆษได้จำแนกคติการกินเนื้อมนุษย์เป็น 3 ประเด็นดังนี้

1. คติการกินเนื้อมนุษย์ในพิธีกรรม (ritualistic cannibalism) และ คติการกินเนื้อมนุษย์เพื่อการรวมตัวเข้าด้วยกัน ( incorporative cannibalism) เชื่อว่าคุณสมบัติพิเศษของผู้ถูกกินจะเข้ามาอยู่ในร่างกายของผู้ที่กินเนื้อผู้นั้น หรือเป็นการย้ายพลังอำนาจจากคนที่ตายแล้วมาสู่คนที่กินเนื้อผู้นั้นแทน

คติการกินเนื้อที่เป็นสัญลักษณ์ว่า "เลือดและเนิ้อ" เป็นดั่งพระวรกายของพระผู้เป็นเจ้าปรากฏในพิธีกรรมของศาสนาคริสต์ อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญหมายถึงการรับพระผู้เป็นเจ้าเข้ามาไว้กับตนเอง หรือระลึกถึงพระคุณของพระผู้เป็นเจ้า เป็นการประกาศยอมรับว่าพระผู้เป็นเจ้าได้สถิตย์อยู่ในกายตน เรียกว่า พิธีมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์ หรือพิธีมหาสนิท ผู้นับถือศาสนาคริสต์จะรับขนมปังจากบาทหลวงมากิน ซึ่งขนมปังเป็นสัญลักษณ์แทนพระกายของพระองค์ และดื่มไวน์ เป็นสัญลักษณ์แทนพระโลหิตของพระองค์

นอกจากนี้ในวัฒนธรรมธิเบต ช่วงราวคริสต์ศตวรรษที่ 7 มีการละเล่นที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ถึงการกินเนื้อมนุษย์ ผู้ที่ถูกบูชาอย่างนั้นไม่ใช่คนจริงแต่เป็นการนำแป้งมาผสมน้ำปั้นให้เป็นร่างมนุษย์ ผู้ประกอบพิธีจะสวมหน้ากากรูปวัวซึ่งถือว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา จะตัดแขน ตัดขา ผ่าอก ดึงเอาหัวใจและเครื่องในเทียมออกมา นำมาแจกจ่ายกันกิน วิธีการดังกล่าวอาจมีความเกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์ก็เป็นได้

2. คติการกินเนื้อมนุษย์เพื่อรสชาติ (gustatory cannibalism) เพราะคิดว่าเนื้อมนุษย์เป็นเนื้อที่มีรสเลิศกว่าเนื้อชนิดอื่น บางชนเผ่าผู้คนที่จะถูกนำเนื้อมากินนั้นจะต้องถูกขังและเลี้ยงให้ดีมีความสมบูรณ์ จากนั้นจึงนำมาสั่งหารและค่อยกิน คติความเชื่อนี้แพร่กระจายอยู่ในหมู่เกาะตอนกลางและตอนใต้ในมหาสมุทรแปซิฟิก มาเลนีเชีย บางส่วนของแอฟริกา รวมถึงชนเผ่าคองโก

หากใครได้ชมภาพยนตร์เรื่อง "เชือดก่อนชิม" ปี พ.ศ 2552 ที่นำแสดงโดยใหม่ เจริญปุระ หนังแสดงถึงหญิงสาวคนหนึ่งเนื่องจากประสบปัญหาภาวะหนี้สินอย่างหนัก รวมถึงมีภาวะทางด้านจิตใจ เธอจึงนำเนื้อมนุษย์มาทำเป็นเนื้อใส่ลงไปในก๋วยเตี๋ยวที่เธอขาย ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้กินเป็นอย่างมาก หากย้อนไปเก่ากว่านั้นในปี พ.ศ. 2536 ฮ่องกงได้ทำหนังเรื่อง "ซาลาเปาเนื้อคน" ออกมาสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะตัวเอกของเรื่องได้นำเนื้อคนมาทำเป็นไส้ซาลาเปาขาย เอร็ดอร่อยขายดิบขายดีจนไม่พอขายเลยทีเดียว จากประสบการณ์ส่วนตัวจับได้ว่าช่วงที่หนังฉายเล่นเอาคนไม่กล้ากินซาลาเปาไปพักใหญ่

3. คติการกินเนื้อมนุษย์เพื่อการอยู่รอด (survival cannibalism) กรณีนี้กินเพื่อการดำรงชีวิตเนื่องจากการขาดแคลนอาหาร ดังนั้นการกินจึงเป็นไปอย่างไม่เต็มใจ ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็คือ 3 ตัวอย่าง จากภาพยนตร์และงานวรรณกรรมข้างต้นที่ผมเขียนก่อนเอาไว้ก่อนแล้วหน้านี้นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีข่าวฆาตกรรมจำนวนมากที่พบว่ามีการฆ่าเหยื่อแล้วนำเนื้อมากิน ซึ่งผมจะไม่สรุปว่าเขากินเพื่ออะไรหรือว่ามีจิตใจอย่างไร เพราะผมไม่มีความรู้สามารถวิเคราะห์เรื่องนี้ได้ ส่วนเนื้อมนุษย์นั้นแท้จริงแล้วจะมีรสชาติอย่างไร สำหรับผมไม่อยากรู้และไม่อยากลองเลยครับ

วาทิน ศานติ์ สันติ

18 มกราคม 2562

หนังสือประกอบการเขียน

เสาวลักษณ์ อนันตศานต์. (2546). คติชนกับศาสนา. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

เดลินิวส์. (2560). รัสเซียรวบผัวเมียซีอุยฆ่ากินเนื่อคนกว่า 30 ศพ. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2563. จาก https://www.dailynews.co.th/fo...

สยามดารา.(2560). ผัวเมียโหดสัสรัสเซีย ฆ่าสยองกินคนกว่า 30 ราย. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2563. จาก http://www.siamdara.com/hot-ne...

.





หมายเลขบันทึก: 659355เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2019 05:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 สิงหาคม 2020 21:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท