Happy Body (สุขภาพดี)
มีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะมีความเชื่อว่าถ้ามนุษย์มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ก็จะมีจิตใจที่ดีพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่จะเข้ามาได้เป็นอย่างดี...
Happy Heart (น้ำใจงาม)
การมีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อกัน สิ่งที่จำเป็นที่สุดในการอยู่ร่วมกันในองค์กร คือ การเอื้ออาทรต่อกัน เพราะคนเราอยู่ตัวคนเดียวในโลกนี้ไม่ได้ ต้องรู้จักแบ่งปันอย่างเหมาะสม..
Happy Relax (ผ่อนคลาย)
รู้จักผ่อนคลายต่อสิ่งต่างๆในการดำเนินชีวิต เพราะเชื่อว่าการที่คนทำงานหากไม่รู้จักสรรหาการผ่อนคลายให้กับตนเอง จะทำให้ร่างกายและจิตใจเกิดความเครียด อันส่งผลกระทบต่อหน้าที่การทำงาน..
Hapy Brain (หาความรู้)
มีการศึกษาหาความรู้พัฒนาตนเองตลอดเวลาจากแหล่งต่างๆ นำไปสู่การเป็นมืออาชีพและความมั่นคงก้าวหน้าในการทำงาน เพราะเชื่อว่า ถ้าเราทุกคนแสวงหาความรู้ใหม่ๆมาเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ ก็จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดัน ช่วยให้องค์กรพัฒนาขึ้นด้วยบุคลากรที่มีศักยภาพ..
Happy Soul (ทางสงบ)
การมีคุณธรรมอันเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันของเราทุกคนในสังคม การสร้างความสุขให้กับตนเองนั้นต้องอาศัยความศรัทธาในศาสนา และมีศีลธรรมในการดำเนินชีวิต..
Happy Money (ปลอดหนี้)
มีเงิน รู้จักเก็บรู้จักใช้ ไม่เป็นหนี้ ปลูกฝังนิสัยอดออม ประหยัด รู้จักวิธีใช้เงิน ไม่ใช้สุรุ่ยสุร่าย ใช้จ่ายแต่เท่าที่จำเป็น ยึดหลักคำสอนการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง...
Happy Family (ครอบครัวดี)
การสร้างครอบครัวอบอุ่นและมั่นคง การให้ความสำคัญกับครอบครัวทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่นมั่นคง เกิดกำลังใจที่ดีในการทำงาน เหมือนเป็นภูมิคุ้มกันที่ช่วยให้เผชิญกับอนาคตหรืออุปสรรคในชีวิตได้..
Happy Society (สังคมดี)
สังคมดี สังคมมีสองมิติ คือ สังคมในที่ทำงานของเราเองกับสังคมนอกที่ทำงาน เราทุกคนต้องมีความรักสามัคคี เอื้อเฟื้อต่อกันและกัน การอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข การสร้างความสุขในที่ทำงานไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งในองค์กร เป็นหน้าที่ของทุกคนในองค์กร ที่ต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อสร้างความสุขให้เกิดในที่ทำงาน ทำให้ที่ทำงานเป็นเสมือนบ้านหลังที่ ๒ ของคนทำงาน...
(จากวารสาร”สร้างสุข”ของ สสส.)
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๑