ผมเปล่าปลุกนะครับ ผู้ปลุกคือศาสตราจารย์ Michel Serres ในหนังสือ Thumbelina : The Culture and Technology of Millennials, 2015 (1) ที่มีการแปลเป็นภาษาไทยว่า หนูนิ้วโป้ง(๒)
ข้อความในบทแรก (หนังสือเล่มนี้มี ๓ บทสั้นๆ เท่านั้น) ปลุกให้ครูอาจารย์ทั้งหลายตื่น ตื่นจากความหลงผิดว่าตนเป็นครูของศิษย์ โดยในความเป็นจริงตนได้สูญเสียตำแหน่งนั้นไปนานแล้ว เสียตำแหน่งให้แก่สื่อมวลชน ผู้เขียน (ศาสตราจารย์ มิเชล แซรร์ส) บอกว่า นักเรียนถูกจัดระบบสมองโดยสื่อมวลชน (They are formatted by the media) และถูกจัดระบบสมองโดยการโฆษณา สภาพนี้เกิดมานานมากแล้ว แต่คนในวงการศึกษาไม่รู้สึก หรือรู้สึกแต่ทำเป็นไม่รู้
ตื่นประเด็นที่สอง ตื่นจากความเข้าใจผิดว่าศิษย์เป็นมนุษย์จำพวกเดียวกับครู แท้จริงแล้ว ครูเติบโตมากับโลกของความเป็นจริง แต่ศิษย์เติบโตมาในโลกเสมือน เป็น “มนุษย์หัวแม่มือ” (Thumbelina) สำหรับใช้กดสื่อสารในโลกเสมือน และหาความรู้จากโลกเสมือน เป็นมนุษย์ที่ ความรู้มาก วิจารณญาณน้อย รู้ผิวเผิน
วิจารณ์ พานิช
๓๑ ต.ค. ๖๑
I think this “… แต่ศิษย์เติบโตมาในโลกเสมือน เป็น “มนุษย์หัวแม่มือ” (Thumbelina) สำหรับใช้กดสื่อสารในโลกเสมือน และหาความรู้จากโลกเสมือน เป็นมนุษย์ที่ ความรู้มาก วิจารณญาณน้อย รู้ผิวเผิน…” applies to a lot of people, ‘teachers’ included, not just children.
‘Emotion based influence’ is the current strategy to persuade people into certain behavior and to perpetuate them on this track for this Internet age. Why? A lot of money -global money- is involved.