เทียวระนอง: ไปเกาะพยาม แช่บ่อน้ำแร่ร้อนและอิ่มอร่อยกับอาหารเมืองระนอง
ท่องเที่ยวจังหวัดระนอง เกาะพยามและเกาะสอง
(18-21 พฤศจิกายน 2561)
ดิฉันมีโอกาสไปท่องเที่ยวร่วมกับชมรมบุคลากรอาวุโส มข. มีเรื่องราวประทับใจหลายเรื่องค่ะ แต่ขอเล่าเรื่องที่อยากจะเล่าก่อนนะคะ
เรื่องแรก
การไปท่องเทียวกับชมรมบุคลากรอาวุโส มข. ดิฉันได้ร่วมท่องเที่ยวเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกไปเวียดนาม ครั้งนี้ร่วมไปทัวร์นี้ มีผู้อาวุโส มข จำนวน 38 คน อายุรวมกันมากกว่าสองทศวรรษ ทุกท่านล้วนแต่กระฉับกระเฉง สามารถดูแลตนเองได้ ขึ้นรถ ลงเรือ มีเรื่องเล่าดีๆให้พวกเราฟังประดับความรู้มากมาย แบบนี้ไปไหนไปกันค่ะ
ภาพหมู่
เรื่องที่สอง
ท่องเที่ยวเกาะพยาม พวกเรานั่งเรือ speed boat ในท้องทะเลอันดามัน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที โชคดีวันนี้ทะเลสงบ การนั่งเรือครั้งนี้ก็ไม่น่ากลัวและไม่รู้สึกเมาเรือเลยค่ะ เมื่อถึงเกาะ เราต้องนั่งรถอีแต๋นเข้าไปที่พักรีสอร์ทพยามคอทเทจ ส่วนใหญ่ที่เกาะจะใช้รถมอเตอร์ไซด์สำหรับเดินทางท่องเที่ยว สังเกตเห็นมีร้านให้เช่ามอเตอร์ไซด์หลายร้าน ตอนแรกก็คิดว่า เรามาทำไมหนอ แต่เมื่อไปถึงที่พักก็เริ่มชอบถึงบรรยากาศที่สงบ หากมานั่งเขียนหนังสือสักเล่ม คงจิตใจไม่วอกแวกเป็นแน่ และเมื่อเดินไปที่ชายหาดติดกับที่พัก เราต้องตะลึงในความสวยงามของหาดทรายที่กว้างสุดลูกหูลูกตา หาดทรายขาว น้ำทะเลใสสีน้ำเงินเข้มสวยงามเหมือน Blue sea ตอนแรกคิดว่าจะเดินเล่นชายหาด ในที่สุดพวกเราก็อดไม่ได้ที่จะลงไปแช่น้ำทะเลกันในช่วงเย็น ไกด์บอกเราว่าต้องออกเดินทางออกจากเกาะพรุ่งนี้เวลา 9.00 น. เลยนัดกันว่าตอนเช้าจะเล่นน้ำอีกครั้ง แต่เมื่อถึงชายหาด น้ำทะเลลง มองเห็นหาดทรายขาวสวย เลยเดินเล่นชายหาด พบเกาะเล็กสวยงาม รูปร่างแปลกตา เห็นภูเขามีรูที่เขาโชว์ภาพที่สนามบิน มีเกาะแก่งสวยงาม ถึงแม้มีเวลาอันน้อยนิดบนเกาะแต่ประทับใจไม่รู้ลืมค่ะ ก่อนกลับมีร้านค้าขายของสวยงามจากอินเดีย ตบแต่งร้านน่ารัก พวกเราขอสนับสนุนการท่องเที่ยวกันหน่อย โดยซื้อผ้าพันคอคนละผืน พี่ชูซื้อกระโปรง 1 ตัว สวยงามมาก พวกเราขอใส่ถ่ายภาพที่หน้าร้านก็คุ้มแล้วล่ะค่ะ
เรื่องที่สาม
การแช่น้ำแร่ร้อน น่าจะเป็นวัตถุประสงค์หลักที่อยากมาในครั้งนี้ เรามีโอกาสมาที่สวนสาธารณะกลางเมืองระนอง เรียกว่า บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะ เห็นมีหลายบ่อมีทั้งบ่อแช่ตัวและบ่อแช่เท้า บางบ่ออุณหภูมิ 45 องศา บางบ่ออุณหภูมิ มากกว่า 60 องศา พวกเราลองเอาปลายเท้าลงไปแตะน้ำแร่ดู เท้าแดงกันเป็นแถว ไม่สามารถจุ่มทั้งเท้าลงไปได้ ถึงแช่เท้าได้เป็นบางส่วน ก็ทำให้เราหายเมื่อยเท้าได้เหมือนกันค่ะ บริเวณนี้เห็นบ่อน้ำร้อนของเอกชนด้วย ซึ่งโรงแรมทินิดีเปิดบริการ เสียค่าบริการ 40 บาท เป็นบ่อกลางแจ้งแต่มีที่กั้นเป็นสัดส่วนแต่ไม่สะดวกที่จะแช่ตัว ดังนั้นเราตั้งใจว่าจะต้องลงไปแช่ตัวที่โรงแรมทินิดีให้ได้ เพราะเป็นที่พักของเราสองคืน พักวันแรกกลับดึกเลยอดค่ะ แต่เขาบอกว่าเราสามารถแช่อ่างน้ำแร่ร้อนในห้องพักที่โรงแรมก็ได้ หลายคนก็ได้แช่อ่างตั้งแต่วันแรก อย่ากระนั้นเลยวันถัดไปจะต้องแช่น้ำแร่ร้อนให้ได้ ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เราแช่น้ำแร่ทั้งในสระจากุชชี่และยังมีบ่อให้เลือกอีก 4 บ่อใหญ่ หลังจากแช่สัก 20 นาที เราไปลงว่ายน้ำในสระว่ายน้ำข้างๆกัน ช่วยให้พวกเราสดชื่นและผ่อนคลายมากเลยล่ะค่ะ
เรื่องที่ 4
เรื่องอาหารการกิน ของกินเมืองระนองอร่อยทุกอย่าง ทั้งแกงเหลืองไข่ริวกิว ใบเหลียงผัดไข่ น้ำพริกต่างๆ ปลาทูผัดกระปิ ปูผัดผงกะหรี่ กุ้งผัดซอสมะขาม คั่วกลิ้ง ฯลฯ ทุกเมนูอร่อยจัดจ้าน เห็นทีจะต้องกลับมาออกกำลังกายอย่างหนัก
น้ำพริก
ปลาทูทอดกระปิ
สาธิตการทำผัดใบเหลียงใส่ไข่ ที่ร้านคุ้นลิ้น
สรุป
การมาเที่ยวเมืองระนองครั้งนี้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เพราะได้สัมผัสทั้งทะเล ภูเขา ที่สำคัญอาหารอร่อยมาก ถึงมากที่สุด
รออ่านเรื่องเกาะสอง เมืองพม่าและล่องเรือโบราณอีกทีนะคะ
แก้ว อุบล จ๋วงพานิช
บันทึก 22-Nov-2018
..................
ความเห็น (5)
อ่านแล้ว ชวนให้ทบทนถึงภาพวาดสมัยเด็กๆ ว่าเราจะระบายสีของท้องทะเลด้วยสีใด บ้างสีน้ำเงิน บ้างสีฟ้า บ้างสีดำ ฯลฯ
ทะเลภาคใต้สวยงามมากค่ะ สี blue
หาดทรายมีรอยปูเดิน เป็นศิลปอีกแบบค่ะ