๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๑
วันนี้ฟ้าสว่าง แดดจ้า อุณหภูมิตอนเช้า ๒๐ บ่ายขึ้นไปถึง ๒๖
ช่วงเช้า
ศ. ดร. ปิยะมิตร ศรีธรา เป็นประธาน หารือกันเรื่อง PMAC 2019 ต่อในเรื่อง พิธีเปิด, ผู้กล่าว keynote speech, PL 0, คำประกาศนโยบายจากการประชุม
Keynote
สาระของการประชุมคือ หาทางทำให้การประชุมส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพ political economy ของโลก และผู้แสดงบทบาทต้องไม่ใช่แค่คนในสาขาสุขภาพ มีการเสนอประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ ได้แก่ (๑) ไม่เน้นบ่นเรื่องโรค และปัจจัยเสี่ยง ให้เน้นเรื่องความสำเร็จ และความหวังในการจัดการเป้าหมายต่อไป (๒) เน้น stories ไม่เน้น theories
ตกลงกันว่า จะหาและฝึกคนรุ่นเยาว์มากล่าว keynote เป็นทีม เป็น theme หนึ่ง และมีบุคคลเด่น และพูดฟังง่าย มากล่าว keynote ด้วย รวมผู้กล่าว keynote สามกลุ่ม คือ (๑) ผู้ได้รับพระราชทานรางวัล (๒) เยาวชนนักสู้ (๓) บุคคลเด่นด้านการต่อสู้กับปัจจัยเสี่ยงด้าน political economy มีการเสนอชื่อ ๔ ชื่อ รวมทั้ง Tom Frieden อดีตผู้อำนวยการ US CDC ผู้มีประวัติผลงานการต่อสู้กับปัจจัยเสี่ยงมากมาย
PL 0
เน้นที่การบอก political economy ของ NCD determinants โดยที่เวลา ๙๐ นาที ใช้ในการบรรยายนำเพียง ๒๐ นาที ใช้อภิปราย ๖๐ นาที เน้นการทำให้ปัจจัยเสี่ยงด้าน political economy มีความชัดเจน มีคนเสนอว่า Micheal Reich จาก ฮาร์วาร์ด พูดอธิบายความหมายของ political economy ได้ชัดเจนมาก
มีการเสนอให้เชิญคนจากบริษัท ที่ส่งเสริมสุขภาพของพนักงาน มาร่วมพูด
มีการเสนอให้เชิญ รมต. คลังมาพูด เน้นที่การใช้มาตรการทางภาษี และการใช้งบประมาณสร้างสภาพแวดล้อมที่คนออกกำลังกายหรือมีกิจกรรมทางกาย (physical activities)
Statement
มีการตั้งคำถามว่า มีคำประกาศจากการประชุม PMAC เพื่ออะไร คำตอบคือเพื่อสร้าง social commitment ต่อ commercial determinants of health ในขณะที่ statement จาก UN High Level Meeting on NCD (1) เน้นสร้าง political commitment จึงเสนอให้คำประกาศจาก PMAC 2019 ใช้ภาษาคนธรรมดา เพื่อสื่อกับคนทั่วไป มีการสื่อผ่าน social media, BMJ และผมมองว่า ควรเชิญสื่อมวลชนไทยมาร่วมทำความเข้าใจความหมายของคำประกาศ ต่อชีวิตผู้คนด้วย โดยอาจนำเอาชิ้นงานศิลปะที่ได้รับรางวัลมาสื่อด้วย
Commissioned papers
Exploring the role of framing in NCD governance โดยทีม Chatham House เป็นการทำความเข้าใจ framework ในการทำงานควบคุม NCD หรือในการปกป้องผลประโยชน์ของฝ่ายตน และมีผลร้ายต่อ NCD ผมนึกถึงกรอบ 4x4, 5x5
Best Buys, Wasted Buys, and DIYs in NCD Prevention โดยทีมจาก HITAP นำเสนอโดย ดร. วรรณฤดี อิสระนุวัฒน์ชัย (มิ้งค์) นำเสนอดีจนผู้ร่วมประชุมปรบมือให้ เป้าหมายคือ เสนอ evidence package ประกอบการตัดสินใจของผู้มีหน้าที่ตัดสินใจ ที่เป็น dynamic evidence source วางไว้บน อินเทอร์เน็ต ให้ค้นได้ง่าย ผลงานเบื้องต้นจะนำไปเสนอใน PMAC 2019 เพื่อขอ feedback นำมาปรับปรุงผลงาน และจะนำเสนอเป็นผลงานสมบูรณ์ใน PMAC 2020 คำแนะนำสำคัญจากที่ประชุมคือ ในต่างบริบท Best Buy หรือ Wasted Buy อาจต่างกัน และในสถานการณ์ของ disrupted technology เทคโนโลยีที่เป็น waste buy ในสถานการณ์หนึ่ง อาจเป็น best buy ในอีกสถานการณ์หนึ่ง
ช่วงบ่าย
นพ. สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ เป็นประธาน พิจารณาโปรแกรมของ PMAC 2020 : Accellerating progress towards UHC : Lifecourse approach and innovations
ที่จริงเราเริ่มทำงานพัฒนาการประชุม PMAC 2020 มาตั้งแต่การประชุมที่โตเกียว (๑) และที่มงเทรอซ์ (๒) จึงมีข้อมูลความก้าวหน้ามานำเสนอ โดยมีหลักการว่า ยังมีการเปลี่ยนแปลงได้
ทาง WHO เสนอ Subtheme 1 : PHC towards Achieving UHC for Leaving No One Behind อ. บุ๋มนั่งข้างๆ ผม บ่นว่า ต้องรื้อใหม่หมด คือที่เสนอเป็นความคิดเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ ที่จะทำให้เกิด “accelerating progress” และเป็นการคิดจากอดีตมาสู่ปัจจุบัน โยงไปสู่อนาคต ไม่ disruptive หรือก้าวกระโดด และผมคิดว่า ต้องทิ้ง Primary Health Care ไปสู่ Local Wellbeing ตามแนวทาง พชอ. ของไทย (๓) ซึ่งมีลักษณะการดำเนินการ multi-sectoral ไม่เป็นไซโลแยกเฉพาะด้านสาธารณสุข
ผมตีความว่าเป้าหมายแท้จริงคือ WFA (Wellbeing for All) ซึ่งไปไกลกว่า HFA (Health for All) และส่อนัยยะที่ multi-sectoral WFA เป็นเป้า PHC & UHC เป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้า และผมคิดว่า อุปสรรคใหญ่อยู่ที่ political economy ของวงการสาธารณสุขหรือวงการสุขภาพ ที่อาจหลงเอาตนเองเป็นหลัก คำนึงถึงบทบาทนำของตนเอง ผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก ไม่ได้เอาชุมชนจัดการตนเองเป็นหลัก แล้วเอาระบบบริการปฐมภูมิแบบบูรณาการ ที่ไม่ใช่แค่บริการด้านสุขภาพ เข้าไปหนุน
ผมได้ความรู้ว่า ในเรื่อง UHC มีปัจจัยหลัก ๓ ด้าน คือ (๑) ระบบบริการ (๒) ระบบการเงิน และ (๓) governance ในทุกปัจจัยหลักมีประเด็นเรื่อง political economy แทรกอยู่ทั้งหมด ทำให้ผมต้องค้นทำความเข้าใจคำนี้ ค้นแล้วก็อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง จับความได้ว่า เป็นวิธีมองความซับซ้อนของปฏิสัมพันธ์ระหว่าง อำนาจ กับเงิน โดยต้องคำนึงถึงมิติทางสังคม ประวัติศาสตร์ และความเป็นมนุษย์ หากมองเป็นศาสตร์ ก็เป็นสหศาสตร์หรือสหวิทยาการ หรือศาสตร์ของความซับซ้อน (๔) ซึ่งต้องจับมาใช้ในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย ซึ่งในที่นี้คือ WFA / UHC
คิดใหม่ political economy คือศาสตร์ว่าด้วยการค้นหา “เส้นผม” ที่ “บังภูเขา” อยู่ คิดแล้วเถียงตัวเอง ว่าวิธีคิดแบบนี้ล้าสมัยแล้ว เพราะมันเป็นวิธีคิดแบบหยุดนิ่ง (static) โลกสมัยนี้มีลักษณะ hyper-dynamic ยุทธศาสตร์สำคัญจึงไม่ใช่ค้นหาทฤษฎี แต่ต้องค้นหาปัจจัยขับเคลื่อนจากสภาพจริง หากคิดแบบนี้ ต้องจับโครงประเด็นหลัก (concept frame / matrix) ให้มั่น แล้วเสาะหาเรื่องราวความสำเร็จในระดับต่างๆ เอามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใน PMAC 2020
คิดใหม่อีกที หากจะทำงานทฤษฎีหรือความรู้ ก็ต้องเน้นทฤษฎีเพื่อหนุนการปฏิบัติ ซึ่งต้องคำนึงถึงบริบทที่แตกต่างหลากหลาย และไม่หยุดนิ่ง
ในวันที่ ๒๕ – ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๑ นี้ องค์การอนามัยโลกจัดประชุม Global Conference on PHC ที่นคร Astana ประเทศคาซักสถาน เพื่อฉลอง ๔๐ ปีของกำเนิด PHC / HFA และได้ยกร่าง Astana Declaration on PHC (5) ไว้ ดังนั้น ในการประชุมเตรียมจัด PMAC 2020 ครั้งต่อๆ ไป จะมีข้อมูลจาก Astana Conference นี้เอามาดำเนินการต่อ
ยุทธศาสตร์ของการประชุมครั้งนี้จึงควรเอาบริบทที่คาดว่าจะเกิดในอนาคต ที่เป็นตัวส่งเสริมหรือปิดกั้น UHC มาเป็นตัวตั้ง คิดหาวิธีใช้ประโยชน์ตัวส่งเสริม (หรือปัจจัยบวก) และคิดหาวิธีป้องกันไม่ให้ตัวปิดกั้น (หรือปัจจัยลบ) เกิดขึ้นหรือขยายตัว ผมเรียกว่า ยุทธศาสตร์จัดการบริบท (Context Management Strategy) คิดอย่างนี้ถูกหรือผิดก็ไม่ทราบ
เข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกเปิดตำรา SDG 3 – Ensure healthy lives and promote well-being for all at all ages (6) และเสนอโครงจัดการประชุมตามนั้น ซึ่งผมมีความเห็นว่า เราต้องไปไกลกว่านั้นในทางหนุนการปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่เป้าหมายคนที่ยากไร้
Subtheme 2 : Sustainable Financing for Expanding & Deepening UHC เสนอโดยคนจากธนาคารโลก
Subtheme 3 : UHC Strategy for the Next Decade
ผมมีข้อสังเกตว่า การประชุมครั้งนี้ ประธานทุกคนทำหน้าที่แบบเดินไปรอบๆ ห้องประชุม ไม่ใช่นั่งที่หัวโต๊ะ
วิจารณ์ พานิช
๑๑ ต.ค. ๖๑
ห้อง ๕๐๑ โรงแรม Hampton Inn, Pearl Street, NY, NY
1 ห้องประชุมชั้น ๓ กว้างดีกว่า ในรูป ศ. นพ. ปิยะมิตร ศรีธรา กำลังทำหน้าที่ประธาน
2 ถ่ายจากอีกมุมหนึ่ง
3 อีกมุมหนึ่ง
4 ดร. มิ้งค์ เสนอความคืบหน้าของ commissioned paper
5 นพ. สุวิทย์ทำหน้าที่ประธานการประชุม
6 หลังกินอาหารเที่ยงเสร็จ ออกไปเดินริมอ่าว
7 มีคนมาเดินชมวิว
8 อาคาร Pier A Harbor House
9 เดินกลับ Harbor House ผ่านสวนสาธารณะ
10 ทางเดินกลับ
ไม่มีความเห็น