บอกแล้ว ว่าเมื่อถึงวันอาทิตย์ทีไร ลูกเมียก็จะมีอาการอกสั่นขวัญแขวนกันเสียทุกที นั่นเพราะพี่แป๊ะอยากจะทำกับข้าวเลี้ยงดู
ซื้อน่องไก่ได้มา ๓ ชิ้น (ทำไมมันไม่ทำแพ็คละ ๔ ชิ้นวะ) เลยต้องใส่อกชิ้นเล็กๆเพิ่มลงไป ๒ ชิ้น (ทำไมต้องอกเล็กๆด้วยวะ)
คนบางคนชอบกินไก่ส่วนน่อง บางคนชอบอก บางคนชอบตีน
ผมน่ะเหรอ ต้องส่วนน่อง เพราะเนื้อมันแน่นดี
ล้างไก่สักหน่อย แล้วโรยเกลือที่ผิวของเนื้อไก่ นวดนวดนวด แล้วโยนลงรังถึงซึ้งใจ นึ่งไว้ให้น้ำมันของมันหยดลงติ๋งๆลงไปในน้ำเบื้องล่างนั้น
ระหว่างรอ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาหายใจทิ้ง
ผมหันมาปอกกระเทียม ปอกขิงแก่ๆ ทุบทุบทุบ จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันงา เปิดไฟอ่อนๆจนควันมันเริ่มฟุ้ง โยนไอ้ที่ทุบทุบทุบนั้นลงไปแล้วกระโดดหนี
บ้าเอ๊ย..ค่อยๆหย่อนก็ได้
เตรียมข้าวสารลงไปคั่วๆ
ตาย..ไม่มีข้าวขาวเหลืออยู่เลย ไอ้ที่ที่มีอยู่คือ “ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง” เท่านั้น
เอาวะ สังข์หยดก็สังข์หยด
ผมสาดข้าวสารลงไปในกระทะ ทำท่าให้เหมือนโยนข้าวสารเสก
“ซู่มมมมม” มันดังอย่างนั้น เพราะข้าวสารนั้นผมล้างน้ำทิ้งๆแบบหมาดๆ เจอน้ำมันเข้าให้ เล่นเอาน้ำตาผมร่วง
มันกระเด็นโดนเนื้อเข้านิดหนึ่ง
ผัดผัดผัด คั่วคั่วคั่ว คลุกให้พอมันๆ แล้วหยุดไฟ ตักข้าวสารลงใส่หม้อหุงข้าว แล้วเอาน้ำที่ได้จากการนึ่งไก่ใส่ลงไปให้ท่วมข้าวสารนั้นราวข้อนิ้วครึ่ง
น้ำตาหยดอีกรอบ เพราะลืมไปว่าน้ำร้อน
“ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงมันไก่น่องสามอกสอง” ก็เลยออกมาหน้าตาแบบนี้
ไก่น่ะอร่อย แต่ข้าวมันแข็งๆเพราะใช้ข้าวกล้อง ส่วนน้ำจิ้ม ไม่ขอวิจารณ์ เพราะเมียทำ
ธนพันธ์ ชูบุญชอบกินข้าวมันไก่ไก่ไก่ (โคตรจะเอ็กโค่)
๑๒ พย ๖๑
บรรยายซะเห็นภาพเลยแม้ว่าจะไม่มีภาพประกอบ ผมเพิ่งรู้ว่าต้องผัดข้าวก่อนจะนำไปหุง ขอบคุณความรู้ใหม่ที่ได้ค้นพบครับ