โรงเรียนในฝันของผม


โรงเรียนในฝันของผม

              โรงเรียนในฝันของทุกคนย่อมมีความแตกต่างกัน บางคนฝันอยากให้โรงเรียนมีแต่ครูที่ใจดี บางคนอยากให้โรงเรียนเป็นที่เที่ยวก็มี หรือบางคนอยากให้ทุกคนในโรงเรียนรักใคร่สามัคคีกัน วันนี้กระผมจะพาทุกท่าน ไปพบกับโรงเรียนในอุดมคติของผมเอง ว่าผมอยากให้โรงเรียนเป็นอย่างไร เรามาดูกันเลย

  1. ) อยากให้โรงเรียนมีรถรับส่งที่ไปทุกที่ทุกหลัง

                นักเรียนทุกๆคนต้องมาเรียนหนังสือที่โรงเรียน นั่งเรียนในห้องเดียวกัน แต่ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะมีฐานะที่เท่าเทียมกัน บางคนมีผู้ปกครองไปรับ-ส่ง บางมีมียานพาหนะส่วนตัว แต่สำหรับบางคนเขาต้องนั่งรถรับ-ส่งนักเรียน หากรถเข้าไม่ถึงบ้านก็จำเป็นต้องเดินเลยทีเดียว เพราะฉนั้นการที่ได้มีรถรับส่งนักเรียนขับไปทุกที่ทุกซอย ขับไปบ้านทุกหลังเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับนักเรียน

2.) นักเรียนทุกคนมีความรักสามัคคีกัน 

                     ความรักใคร่สามัคคีปรองดองกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกๆสังคมต้องมีโดยเฉพาะสังคมโรงเรียน เพราะสิ่งเหล่านี่จะปลูกฝังไปแก่เด็กนักเรียนทุกคนไปจนเป็นผูใหญ่ และเด็กๆบางคนรวมถึงตัวผมก็อยากเห็นทุกๆคนรักกัน สามัคคี ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน

############################################################################################################

สรุปหนังสั้น

1.)เรื่อง ครูผู้สอนด้วยหัวใจ

                     เรื่องนี้เล่าถึงความตั้งใจอย่างแรงกล้าและหัวใจของความเป็น “ครูสุรีพร”  ต้องการเข้าใจและทำให้  “เชาว์” นักเรียนภาวะออทิสติก สามารถเรียนรู้และอยู่กับสังคมปกติได้  นอกจากจะต้องสอนหนังสือปกติแล้วคุณครูจิตใจงดงามนี้ต้องค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับภาวะออทิสติกเพิ่มเติมสำหรับ “เชาว์” ด้วย  ทำให้เข้าใจถึงวิธีการสื่อสารและความพิเศษของเด็กกลุ่มนี้ในที่สุด 

                        ปัจจุบัน เชาว์ ตัวจริงได้สอบและบรรจุเป็นครูผู้ช่วยเรียบร้อยแล้วแม้ว่าการทำให้เด็กๆคนนึงเรียนและอยู่ในสังคมได้ คงไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณครูคนนึงจะร่ำรวยอะไรได้ แต่ก็ทำให้ความสุขล้นใจ  ตามพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  พระราชทานแก่ครูอาวุโส  เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2516 ที่ว่า**“งานของครูเป็นงานพิเศษ ผิดแปลกจากงานอื่นๆ กล่าวในแง่หนึ่งทีสำคัญก็คือว่า  ครูจะหวังผลตอบแทนเป็นยศศักดิ์ความร่ำรวยหรือผลประโยชน์ทางวัตถุเป็นที่ตั้งไม่ได้  ผลได้ส่วนสำคัญจะเป็นผลทางใจ  ซึ่งผู้เป็นครูแท้ก็พึงใจและภูมิใจอยู่แล้ว”**

2.)ไอ้เตี้ย โรงเรียนบ้านหลวง



                      สังคมไทยพิกลพิการ จนยากเกินเยียวยา กี่ยุคกี่สมัย ใครได้เลือก หรือ เลือกตนเอง มาปกครองไทยก็ไม่ดีขึ้น ทำให้รู้ว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง พ่อต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกก่อน  ถึงจะมีเงินมากมายก็ไม่พ้นความผิดที่กระทำไว้   ต้องใช้เงินประหยัดในวันข้างหน้าเราจะได้ไม่ลำบากในการใช้ชีวิตในวันข้างหน้า ไม่รังแกเพื่อน  เราต้องช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียนไม่เอาเปรียบผู้อื่น  ไม่ดูถูกผู้อื่นที่ยากจน ถึงจะมีเงินมากมายแต่ทำในทางที่ไม่ได้ดีสักวันก็ไม่เหลืออะไรเลย   ไอ้เตี้ยมีความแบ่งปันเพื่อน มีความน้ำใจ  ขยันในหน้าที่การงานที่บ้านและที่โรงเรียน  ประหยัดอดออม  ช่วยเหลือผู้อื่น  ไม่คิดที่เอาคืนที่ผู้อื่นทำไม่ดีกับตัวเอง




เครดิต : 


หมายเลขบันทึก: 657865เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2018 00:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2018 01:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท