วิชาชีวิต Life Lessons.....
-ด้วยติดภารกิจของงานประจำที่ต้องถือปฏิบัติตามหน้าที่รับผิดชอบให้แล้วเสร็จ วันนี้จึงเข้ามาบันทึกเรื่องราวของบ้านไร่ในยามดึก(22.30 น.) แต่ก็มิใช่ปัญหาหรืออุปสรรคที่ทำให้ความตั้งใจนั้นหดหายไป เพราะนี่คือ"ความสุข"อีกอย่างหนึ่งที่ได้ก่อเกิดขึ้นในทุกครั้งที่ได้กลับมานั่งทวนทบความทรงจำดี ดี ที่เกิดขึ้นบนพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ ที่ ที่เราเรียกว่า"บ้านของเรา"ครับ...สำหรับวันนี้จะมีเรื่องราวอะไรที่น่าประทับใจบ้างนั้น พร้อมแล้วตามผมไปพบกับบันทึกนี้"วิชาชีวิต Life Lessons..."ได้แล้วคร้าบ....
- หลังจากที่ได้รับการประสานงานจาก"คุณแม่น้องพราว"อีกครั้งหนึ่งกับการแจ้งกำหนดการจะพาเด็กๆ มาทำกิจกรรมที่บ้านไร่ของเราในวันอาทิตย์ ที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งถือเป็นการมาทำกิจกรรมเป็นครั้งที่ 2 ของครอบครัว"น้องพราว"ครับ แต่สำหรับคราวนี้ทีมผู้ปกครองและเด็กๆ ที่จะมาร่วมกิจกรรมจะเป็นกลุ่มใหม่ที่หลังจากได้เห็นภาพกิจกรรมที่"น้องพราว"และ"เดอะแก๊งค์"ได้มาสัมผัสและเรียนรู้วิถีพื้นถิ่น ณ บ้านไร่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา และเพื่อเตรียมการต้อนรับเด็กๆ ที่จะมาเยี่ยมยามกันในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ในวันเสาร์ทีมงานบ้านไร่จึงต้องมีการจัดเตรียมสถานที่กันสักหน่อย ทั้งนี้ก็เพื่อจะสร้างพื้นที่ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และสัมผัสกับประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ให้มากที่สุดนั่นเองครับ และสำหรับวันนี้ทีมงานบ้านไร่จึงได้ช่วยกันสร้าง"บ้านต้นไผ่"และ"บ้านใบไม้"เอาไว้ต้อนรับเด็กๆ ด้วยล่ะครับ...
2.นอกจากนี้ทีมงานของบ้านไร่ ยังช่วยกันจัดเตรียมกิจกรรมต่างๆ อีกหลายอย่างครับ โดยเฉพาะการสืบทอดประเพณีอันดีงามของไทย และในก่อนที่จะถึงเทศกาล"ลอยกระทง"วันนี้เราจึงได้จัดเตรียมฐานการเรียนรู้"การทำกระทงใบตอง"เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้อีกด้วยครับ และการละเล่นแบบไทยๆ ก็ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสอีกหลายชนิดเลยล่ะครับ 5555
3.และในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ตัวผมเองก็ได้ออกไปตลาดเพื่อจัดซื้อของมาต้อนรับเด็กๆ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่/กิจกรรม และอาหารมื้อกลางวัน เราก็ตั้งหน้ารอทีมเด็กๆ และผู้ปกครองที่จะมาทำกิจกรรมร่วมกันในวันนี้ด้วยความยินดีครับ...
4.เมื่อถึงเวลานัดหมาย บ้านไร่ของเราก็ได้พบกับทีมงานของเด็กๆ ที่วันนี้มีผู้ร่วมกิจกรรมมากเป็นพิเศษครับ นับรวมๆ กันแล้วก็ประมาณยี่สิบกว่าคนครับ ดูๆ แล้วผู้ที่มาร่วมกิจกรรมกับบ้านไร่ของเราก็จะเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ครับ และเมื่อมาถึงแล้วเด็กๆ ก็ได้เริ่มเรียนรู้และเลือกกิจกรรมตามความสนใจของตนเองก่อนครับ ทั้งนี้ได้ข้อมูลจาก"คุณแม่น้องพราว"ว่าเด็กบางส่วนยังไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าให้เวลาเด็กๆได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยกันสักพักหนึ่ง แล้วค่อยเริ่มกิจกรรมต่อๆ ไปก็แล้วกันนะครับ..
5.ฐานวิชาที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษนั้นก็คงจะเป็น"การทำกระทง"ครับ งานนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองได้สอนให้เด็กๆ ได้หัดทำกระทงด้วยล่ะครับ เนื่องด้วยทีมงานบ้านไร่มีไม่มากนัก ดังนั้นการเรียนรู้จากผู้ปกครองจึงเป็นกิจกรรมที่ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นใจมากๆ เลยล่ะครับ ทั้งนี้ก็จะทำให้เด็กๆ ได้มีกิจกรรมร่วมกับผู้ปกครองด้วยนั่นเองครับ เก็บดอกไม้สดๆ จากสวนมาทำกระทงด้วยตนเอง เอาเป็นว่าไม่ขอบรรยายให้มากความ ขอบรรยายผลงานของเด็กๆด้วยภาพแห่ง"ความสุข"ก็แล้วกันนะคร้าบ!!!!
6.เสร็จจากกิจกรรมทำกระทงแล้ว ต่อไปก็เป็นฐานกิจกรรมการ"ทำพิซซ่าเตาถ่าน"กันต่อครับ สำหรับวันนี้"พิซซ่าเตาถ่าน"มีการจองเอาไว้หลายชุดมากๆ ครับ ดังนั้นเด็กๆ จึงทยอยกันมาเรียนรู้ โดยมีผู้ปกครอบคอยให้คำแนะนำและช่วยส่งต่อความรู้ต่างๆ ให้กับเด็กๆ อีกด้วย วันนี้ได้เรียนรู้ตั้งแต่การก่อไฟ และการอบพิซซ่าแบบบ้านทุ่งด้วยล่ะครับ เห็นผลงานแบบนี้แล้วใครจะอดใจไหวล่ะครับนี่ 555
7.ทำพิซซ่าเตาถ่านเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ชวนเด็กๆ มาเรียนรู้วิธีการทำ"ไข่เค็มศิลา"กันต่อครับ วันนี้คนข้างกาย"มดตะนอย"และ"พี่ประนอม"ก็ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กๆ แต่วันนี้แม้ว่าเด็กๆ จะมากันหลายคนแต่ก็เบาแรงไปได้มาก ทั้งนี้ก็เพราะว่า"น้องพราว"ผู้ที่เคยมาสัมผัสและเรียนรู้ก่อนใคร ๆ ได้ช่วยสอนให้กับเพื่อนๆ ปั้นไข่เค็มด้วยความมั่นใจและบอกกับเด็กๆ ว่า ใครๆ ก็ปั้นไข่เค็มศิลาได้ค่ะ...
8.เวลามีน้อย ดังนั้นจึงต้องไปทำกิจกรรมอื่นๆ กันต่อครับ และกิจกรรมที่น้องๆ ตั้งหน้ารอคอยมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็มาถึงแล้วล่ะครับ "นั่งรถอีต๊อก"ลัดเลาะไปตามทางลูกรัง ชมทุ่ง ชมบรรยากาศแบบบ้านไร่ ทิวทัศน์แบบนี้ถือเป็นสิ่งที่ทำให้น้องๆ รู้สึกตื่นเต้นและมีความสนใจในวิถีแบบพื้นถิ่นแห่งนี้อย่างน่าประทับใจเลยล่ะคร้าบบบบบบ!!!
9.ใช้เวลาในการ"นั่งรถอีต๊อก"ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เดินทางมาถึง ณ บ้านไร่ของเราในเวลาประมาณ 11.30 น. ครับ ดังนั้นเวลาในช่วงนี้จึงให้เด็กๆ ลงไป"ลอยกระทง"ครับ กิจกรรมนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครองให้มีส่วนในการดูแลเด็กๆ ที่ลงไปบนแพด้วย ทั้งนี้ก็เพราะว่าไม่ได้ให้เด็กๆ สวมเสื้อชูชีพครับ กิจกรรมลอยกระทงจึงได้ให้เด็กๆ ลงมาทีละสามสี่คน พอที่เราจะดูแลให้น้องๆ ได้ลอยกระทงอย่างปลอดภัยนั่นเองครับ และหลังจากนั้นน้องๆ บางคนก็ได้สวมเสื้อชูชีพและลงเล่นน้ำโดยมีผู้ปกครองคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะว่า"ความปลอดภัยในชีวิต"ต้องมาก่อนเสมอครับ สนุกได้แต่ต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยนะครับเด็กๆ
10.เล่นน้ำกันจนเหนื่อยแล้ว เลยเวลาพักกลางวันมาเกือบชั่วโมง งานนี้"ความหิว"จึงไม่ปราณีใครครับ เด็กๆ และผู้ปกครองบางส่วนได้ชวนกันเข้าครัวไทย ทำส้มตำกินกันอย่างอร่อยเลยล่ะครับ สำหรับบ้านไร่ของเราวันนี้ได้จัดเมนูอาหารตามที่ได้สั่งเอาไว้ มีเมนูหลากหลายให้ได้ลิ้มลองกัน วันนี้ขอนำเอามาให้ชมเพียงบางส่วน เอาเป็นว่าขอฟ้องด้วยภาพก็แล้วกันนะคร้าบ 5555 อ้อ...(ไม่พูดมาก เจ็บคอ 555)
11.รับประทานอาหารกลางวันกันเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ให้เวลาเด็กๆ ได้สัมผัสและเรียนรู้กับ"วิชาชีวิต"ต่างๆ ตามความสนใจครับ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการเยี่ยมชมแปลงการเกษตร การป่ายปีนบ้านต้นไผ่ การละเล่นพื้นบ้านในบ้านใบไม้ กิจกรรต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ให้กับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะครับ นอกจากนี้ผู้ปกครองก็ได้ย้อนวันวานกับกิจกรรมที่เราจัดเอาไว้ให้อย่างน่าประทับใจมากๆ เลยล่ะครับ
12.และแล้ว ผลงานจากฝีมือของเด็ก ๆ ที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ ก็ได้ถูกนำบรรจุกล่องเพื่อนำไปฝากผู้ที่เฝ้ารออยู่ทางบ้านครับ วันนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ในการช่วยดูแลเด็กๆ และช่วยอำนวยความสะดวกในกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งยังช่วยจัดเตรียมชุดผลงานของเด็กๆ เพื่อนำกลับบ้านอีกด้วย สำหรับตัวผมเองแล้ว เมือเคลียร์งานในส่วนของการดูแลอาหารสำหรับผู้มาเยือนแล้ว วันนี้ก็ถือโอกาสลงมาทำความคุ้นเคยกับเด็กๆ และขอเก็บภาพแห่งความประทับใจและมิตรภาพดีๆ แบบนี้เอาไว้กันสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ...
13ถึงแม้ว่างานจะจบแต่เรื่องราวและภาพแห่งความประทับใจยังไม่จบครับ ดังนั้นบันทึกนี้จึงเป็นสิ่งที่ตอกย้ำ"ความสุข"ที่ได้ก่อเกิดขึ้น ณ บ้านไร่ของเราครับ กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากผู้ปกครอง ที่มีส่วนในการวางแผนกิจกรรมร่วมกันกับทีมงานบ้านไร่ ที่วันนี้อาจจะมีกิจกรรมหรือการดูแลทีไม่อาจจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาเยือนได้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้รับมากกว่าสิ่งอื่นใด นั่นก็คือ"กำไรของชีวิต"ที่เรียกว่า"ความสุข"นั่นเองครับ...
สำหรับวันนี้ ขอขอบคุณมิตรภาพดี ดี และยินดีที่ได้ต้อนรับผู้ปกครองและเด็กๆ ที่ตั้งใจมาเรียนรู้และสัมผัสวิถีแบบพื้นถิ่น บนพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ด้วยนะครับ....หวังใจเอาไว้ว่าเราจะได้พบกันอีกนะครับเด็กๆ
สวัสดีครับ
เพชรน้ำหนึ่ง/มดตะนอย
Hi Hug House
12/11/2561
23.30 น.
ความเห็น (6)
ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจที่ได้ทุ่มเทใหัความรู้ต่อสาธารณะ ผู้เข้าร่วมได้ประสพการณ์และเพิ่มแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์และมีนวัตกรรมใหม่ๆ
ช่วงนี้ จีจ้อ ย้ายไปอยู่ประจวบฯแล้ว พี่มะเดื่อคงไม่ค่อยมีโอกาสขึ้นเหนือบ่อยเหมือนก่อน ๆ แล้ว แต่ก็หวังว่า สักวันคงได้มาชื่นชมงานของน้องเพชร น้องมดจ้ะ คิดถึงจัง
เห็นไผ่แล้วนึกถึงความเบ็ดเตล็ดของต้นไผ่เลยครับใช้ประโยชน์ได้หลากหลายยิ่ง แม้กระทั่ง “ไม้เรียว” 555
-สวัสดีครับอาจารย์จำรัส-ขอบคุณสำหรับกำลังใจและพลังใจที่มอบให้กับบันทึกนี้ด้วยนะครับ-ด้วยความระลึกถึงท่านอยู่เสมอครับ
-สวัสดีครับพี่ครูมะเดื่อ-ต้องมีโอกาสได้พบกันแน่ๆ ครับพี่ครู-สบายดีนะครับ-ติดตามความเป็นไปผ่าน Fb-ขอยคุณครับ
-สวัสดีครับอาจารย์แผ่นดิน-ไม้เรียวสร้างคนนะครับอาจารย์-ยินดีที่ได้ร่วมรำลึกถึงความหลังกับบันทึกนี้ครับ-ขอบคุณครับ