วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ผมและทีมผู้ประสานงานรายวิชา ๐๐๓๕๐๐๑ หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน ขอเข้าพบเพื่อเรียนรู้จาก จ.อ.บัวทอง หาญสุโพธิ์ ปลัดเทศบาลขามเรียง ขณะนี้ท่านปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลขามเรียง เราได้รับการตอนรับอย่างอบอุ่นและให้เกียรติมาก ๆ ... ขอขอบพระคุณท่านมากที่ให้ข้อมูลการจัดการขยะและยังจะสนับสนุนแนวทางการรณรงค์ให้แยกขยะในมหาวิทยาลัย นี่คือความสุขที่ได้จากการทำงานเพื่อนชุมชน เพราะเราเจอแต่คนที่หวังดีต่อกันและกัน
ข้อมูลเบื้องต้นของเทศบาลขามเรียง
จากการสืบค้นข้อมูลทุติยภูมิทางเว็บไซต์ พบข้อมูลที่เผยแพร่อย่างเปิดเผย โปร่งใสดีครับ ผมจับเอาเฉพาะข้อมูลที่อาจเกี่ยวข้องกับการศึกษาชุมชนของนิสิต มมส. ในบริบทของรายวิชาฯ มาไว้ดังนี้ครับ
- เทศบาลขามเรียง มีประชากรทั้งหมดประมาณ ๑๕,๐๐๐ กว่าคน เป็นผู้หญิง ๙,๐๐๐ ผู้ชาย ๖,๐๐๐ คน เทศบาลได้เผยแพร่แผนพัฒนา ๔ ปี (๒๕๖๑-๒๕๖๔) ทางเว็บไซต์ ผมคัดลอกมาไว้เฉพาะตารางประชากร คลิกที่นี่ครับ
- ข้อมูลที่น่าสนใจแสดงดังตารางด้านล่างครับ จำนวนประชากรส่วนใหญ่ อยู่ในช่วงวัย ๑๘ - ๖๐ ปี ถึงกว่าร้อยละ ๘๐ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะมหาวิทยลัยตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลขามเรียง ดังนั้นจำนวนประชากรจึงรวมถึงนิสิตทุกคนที่ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยด้วย
| | | |
| | ๑,๑๗๘ | |
| | | |
| ๔๙๙ | ๖๕๓ | |
| | ๑๐,๒๑๐ | ทั้งสิ้น ๑๖,๗๕๘ |
- เทศบาลขามเรียงมีทั้งหมด ๒๑ หมู่บ้าน ดังแผนที่นี้
- สังเกตว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตั้งอยู่บนพื้นที่รอยต่อระหว่างตำบลขามเรียงและตำบลท่าขอนยาง นิสิตจำนวนมากอาศัยอยู่ทั้งในเขตพื้นที่ของสองเทศบาลในลักษณะของประชากรแฝง ถ้าคำนวณง่ายๆ เรารู้ว่าประชากรแฝงที่เป็นนิสิตและบุคลากรในมหาวิทยาลัยรวมแล้วประมาณ ๕๐,๐๐๐ คน ประชากรแฝงของเทศบาลท่าขอนยางมีประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน แสดงว่าที่เหลืออยู่ ๒๐,๐๐๐ คน เป็นประชากรแฝงของเทศบาลขามเรียง นั่นแสดงว่า มีประชากรแฝงที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนราษฎร์จำนวนกว่า ๑๐,๐๐๐ คน.... น่าเสียดายที่ประชากรแฝงเหล่านี้ไม่ย้ายทะเบียนราษฎร์เข้ามา โดยเฉพาะในเขตเทศบาลท่าขอนยาง
การจัดการขยะของเทศบาลขามเรียง
- ขณะนี้ (พ.ย. ๖๑) เทศบาลขามเรียง มีระบบการคัดแยกขยะอินทรีย์แยกจากขยะอนันทรีย์อย่างชัดเจน โดยใช้คำแยกง่าย ๆ ว่า "ขยะเปียก" และ "ขยะแห้ง" ... นี่น่าจะเป็นคำตอบว่า ปริมาณขยะจากขามเรียงที่ไปทิ้งที่บ่อหนองปลิงประมาณวันละ ๕ ตัน
- วิธีการแยก "ขยะเปียก" มี ๒ แนวทาง ได้แก่
- ขยะเปียกจากบ้านเรือน ครัวเรือนใจชุมชน ในหมู่บ้านพื้นที่รอบมหาวิทยาลัย เทศบาลได้ส่งเสริมให้ทำปุ๋ยด้วยหมักด้วยการทิ้งลงในถังดำก้นกลวงปิดฝา โดยสนับสนุนถังดำที่มีฝาปิดสนิทขนาด ๑๐๐ ลิตร
- จากการลงพื้นที่สอบถาม เทศบาลเริ่มจากกลุ่มตัวแทนชาวบ้านส่วนหนึ่งก่อน ตอนนี้ได้จัดอบรมให้ความรู้ไปแล้ว
- ครัวเรือนหนึ่งที่ผมได้ไปเยี่ยมสัมภาษณ์ บอกว่า เศษอาหารจากครัวเรือนของตน เพียงแค่เอามาเลี้ยงไก่ก็ไม่พอแล้ว จึงไม่มีเศษอาหารเหลือที่จะทิ้งลงถัง
- จากการสอบถาม สอง-สาม ครัวเรือน พอจะสรุปได้ว่า ปัญหาเรื่องขยะเปียกไม่ได้มาจากครัวเรือน
- ขยะเปียกจากร้านอาหารหรือหอพัก ทุก ๆ วัน จะมีรถเก็บขยะเปียกตระเวนเก็บขยะเปียกจากถังหน้าร้านค้าหรือจุดนัดหมายที่แต่ละหอพักที่แม่บ้านแต่ละหอพักทราบดี นำไปขุดหลุดดินฝังกลบ ณ พื้นที่ที่กำหนด
- ถังที่ใช้เก็บเศษอาหารจากหน้าร้านจะเป็นพังขนาดกลางดังรูป มีฝาปิดมิดชิด และทางเทศบาลจะใส่น้ำหมักอีเอ็มรองก้นไว้ จึงทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็น
(เห็นไหมครับ ถังอยู่ใต้ต้นมะยมนั่นไง ดูสภาพก็จะประเมินได้ว่าใช้มาหลายเดือนหลายปีเลยครับ)
- ขยะเปียกในแต่ละวันจะได้ประมาณ ๓-๔ ถังขนาด ๒๐๐ ลิตร (น่าจะประมาณ ๑ ตัน)
- พื้นที่ฝังกลบอยู่ห่างไปทางทิศเหนือของที่ทำการฯ ประมาณ ๔ กิโลเมตร เป็นพื้นที่โนนขนาด ๓ ไร่ ... ผมตามไปดูและได้สัมภาษณ์คุณตาที่ดูแลอยู่แถวนั้นมาฝากท่านด้วยครับ
(สังเกตว่า แทบจะมองไม่ออกว่าเป็นพื้นที่ฝังกลบขยะ ขยะจะกลายเป็นปุ๋ยภายในเวลาประมาณ ๔-๖ เดือน)
ความเห็นท่านปลัดเกี่ยวกับแผนการส่งเสริมการแยกขยะของรายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน
ผมแจ้งท่านปลัดบัวทอง และเล่าให้ท่านฟังว่า
- การเข้าพบท่านเพื่อที่จะมาศึกษาหาความเป็นไปได้ในการจัดการขยะร่วมกัน บูรณาการกัน ด้วยเราตระหนักดีว่า ผู้ที่ทิ้งขยะส่วนใหญ่ไม่ใช่ใคร ก็คือนิสิตและบุคลากรของมหาวิทยาลัยเข้าไปมีส่วนไม่มากก็น้อย ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ทั้งกับร้านค้า อาหาร และกิจการหอพัก
- ปีการศึกษาหน้าจะมีนิสิตลงทะเบียนเรียนรายวิชา ๐๐๓๕๐๐๑ หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชนประมาณ ๗,๐๐๐ คน ... ทีมเรากำลังเตรียมข้อมูลเรื่องปัญหาขยะและการจัดการขยะในพื้นที่รอบๆ มหาวิทยาลัย เพื่อนำเสนอให้อาจารย์ผู้สอนฟัง และจะขอความร่วมมือให้ร่วมกันกำหนดมาตรการหรือวิธีการ หรือกลไกในรายวิชา เพื่อส่งเสริมให้นิสิตคัดแยกขยะ และช่วยกันขับเคลื่อนเรื่องการแก้ไขปัญหาขยะ
- ถ้าสมมตินิสิตเริ่มแยกขยะ ห้างร้านต่างๆ เริ่มแยกขยะ สิ่งที่เราต้องเตรียมก็คือ ต้องมีรถจากเทศบาลทั้งสองแห่งไปไปเก็บขยะเปียกในตอนเช้าตามจุดที่กำหนด นำไปฝังกลบ และจัดทำตารางเวลาจัดเก็บขยะประเภทอื่นๆ หรืออาจมีแนวคิดอื่นๆ จากอาจารย์ผู้สอน ผู้เชี่ยวชาญ
ท่านเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ และได้มอบเบอร์โทรศัพท์ให้ผมเพื่อติดต่อท่านโดยตรงด้วย และได้แนะนำให้พบกับท่าน ผอ.กองสาธารณสุขฯ เสียดายที่ท่านไม่อยู่ที่ทำการฯ ขณะนั้น ... เดี๋ยวค่อยขอเข้าพบท่านอีกที
หากท่านอาจารย์ผู้สอนเข้ามาอ่านถึงตรงนี้ ท่านมีความเห็นดีด้วยกับแนวทางนี้ไหมครับ