ระบบการจัดการความรู้ที่แข็งแรงขององค์กรนั้น ต้องมีการไหลเวียนของความรู้ที่มีความสำคัญยิ่งยวด (critical knowledge) ไปทั่วทั้งองค์กร ความรู้ที่สำคัญยิ่งยวดอย่างหนึ่งคือ ความรู้เกี่ยวกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร ซึ่งมักจะรู้หรือเอาใจใส่กันเฉพาะในกลุ่มผู้บริหาร
แต่จริงๆ แล้ว องค์กรจะเข้มแข็งได้ ความรู้นี้ต้องไหลเวียนไปถึงคนระดับหน้างานด้วย
กระบวนการ KM ที่ดีจะทำให้ความรู้เกี่ยวกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร ไหลเวียนจากผู้บริหารลงสู่พนักงานระดับปฏิบัติการ และไหลวนจากระดับปฏิบัติการ ขึ้นสู่ระดับบริหารและระดับนโยบาย
ทีมจัดการความรู้ขององค์กร สามารถทำหน้าที่จัดให้ความรู้ดังกล่าวไหลวนจากบนลงล่าง และจากล่างขึ้นบนได้
เมื่อมีการตั้งวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานที่น่าภาคภูมิใจ กำหนดให้ทีมเจ้าของผลงานระบุด้วย ว่างานสร้างสรรค์ของตน ช่วยการบรรลุวิสัยทัศน์และเป้าหมายองค์กรข้อไหน อย่างไร คือกำหนดให้เจ้าของผลงานตีความคุณค่าของผลงานด้วย แล้วทีม KM ช่วยเสริมหรือขยายความคุณค่าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และนำเอาเรื่องราวขึ้นระบบไอทีขององค์กร เพื่อการและเปลี่ยนเรียนรู้ที่กระจายไปทั่วทั้งองค์กร ที่ความรู้สำคัญมี ๒ ด้าน คือด้านคุณค่าต่อวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร กับคุณค่าในฐานะความรู้เชิงเทคนิค
ทุกเดือน ทีม KM รวบรวมผลงานสร้างสรรค์ดีเด่นอันดับ ๑, ๒, ๓ ของเดือน รายงานแก่ผู้บริหารระดับสูง (สุด) พร้อมกับการตีความคุณค่าต่อการหนุนวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร โดยที่องค์กรอาจจัดให้มีระบบรางวัล นี่คือ bottom-up KM ว่าด้วยความรู้ความเข้าใจวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร
เมื่อผู้บริหารไปประชุมพนักงานในโอกาสต่างๆ และกล่าวถึงวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร ก็ยกเอาผลงานสร้างสรรค์ดีเด่นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาเป็นตัวอย่างรูปธรรม ว่าพนักงานระดับปฏิบัติการสามารถใช้ความสร้างสรรค์เพื่อหนุนวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กรได้อย่างไร นี่คือ top-down KM ในเรื่องความรู้เกี่ยวกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายขององค์กร
วิจารณ์ พานิช
๑ ต.ค. ๖๑
ไม่มีความเห็น