ชื่อเรื่องนี้เป็นคำพูดของแจ็คหม่า เมื่อถูกถามว่าลาออกจากงานที่อาลีบาบาแล้ว จะไปทำอะไร แจ็คหม่าตอบว่า "สักวันหนึ่ง ในไม่ช้านี้ ผมจะกลับไปสอน กลับไปทำเรื่องการศึกษา นี่เป็นเรื่องที่ผมมีความเชื่อมั่นว่า ผมจะทำได้ดีกว่าการเป็นซีอีโอของอาลีบาบา นี่เป็นเรื่องที่ผมจะให้เวลามากที่สุดหลังจากลาออกแล้ว" เป็นประเด็นที่คุณครูทั้งหลายน่าจะให้ความสนใจ จะได้ภูมิใจกับความเป็นครูมากยิ่งขึ้น
แจ็คหม่าชอบเล่าเรื่องความล้มเหลวในอดีตให้คนฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความพยายามในการหางานทำ เช่นไปสมัครเป็นตำรวจ มีผู้สมัคร 6 คน เขารับ 5 คนไม่มีแจ็คหม่า สมัครเป็นพนักงานร้าน KFC 23 คน เขารับ 22 คนก็ไม่มีแจ็คหม่า สมัครเป็นพนักงานโรงแรม 2 คนกับลูกพี่ลูกน้อง เขารับลูกพี่ลูกน้องคนนั้น (ทุกวันนี้ก็ยังเป็นพนักงานโรงแรมนั้นอยู่) แจ็คหม่าผิดหวังตามเคย ในระยะหลังก็ยังถูก Harvard Business School ปฏิเสธแม้จะพยายามถึง 10 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม แววความสำเร็จแรกๆของแจ็คหม่าอยู่ที่เรื่อง การเรียนการสอน แม้ว่าในระดับประถมและมัธยมผลการเรียนไม่สู้จะดีนัก เมื่อจบแล้วแจ็คหม่าเริ่มเรียนภาษาอังกฤษด้วยการรับอาสาพานักท่องเที่ยวฝรั่งชมเมือง ทำอย่างต่อเนื่องถึงเก้าปี นอกจากทำให้ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องราวที่แตกต่างไปจากที่ได้จากโรงเรียนและช่องทางอื่นๆในประเทศ ซึ่งแจ็คหม่าบอกว่าสำคัญกว่าเรื่องได้ภาษาอีก หลังจากที่พยายามสอบแอดมิชชั่นเข้ามหาวิทยาเป็นครั้งที่สามจึงสอบติดสถาบันฝึกหัดครูโรงเรียนมัธยม น่าสังเกตว่าในระหว่างเป็นนักศึกษาแจ็คหม่าเป็นนายกสโมสรนักศึกษาอยู่สามปี รวมทั้งได้เป็นประธานสมาพันธ์นักศึกษาเมืองหางโจวที่มีนักศึกษาร่วมแสน จึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อจบการศึกษา แจ็คหม่าเป็นคนเดียวจากนักศึกษารุ่นเดียวกัน 500 คนที่ได้รับเลือกให้อยู่เป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย อธิการบดีขอสัญญาให้อยู่อย่างน้อยห้าปี (เงินเดือนๆละเท่ากับ 12 ดอลลาร์) แจ็คหม่าก็อยู่เป็นครูถึงหกปี
ในการทำงานที่อาลีบาบา แจ็คหม่าก็เน้นเรื่องการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเรียนรู้จากความผิดพลาด และพูดถึงประเด็นนี้บ่อยๆ รวมทั้งเปรยๆว่าจะเขียนหนังสือเรื่อง "ความผิดพลาด 1001 ประการของอาลีบาบา"
ถ้าอยากรู้แนวคิดของแจ็คหม่า น่าจะฟังคำบรรยายของแจ็คหม่าที่ มหาวิทยาลัยไนโรบี
อำนาจ ศรีรัตนบัลล์
8 ตุลาคม 2561
ไม่มีความเห็น