บันทึกใน gotoknow นอกจากจะให้สาระความรู้ มิตรภาพแล้ว ยังทำให้ผู้อ่านคิดเป็น วิเคราะห์เป็นอีกด้วย
..
และต่อไปนี้ คือ บทวิเคราะห์ที่ 2 ผู้ร่วมวงเสวนจานส้มตำ ได้เขียนเป็นข้อสังเกตออกมา จากการวิเคราะห์ เกาะติดคุณไมโต ครูอ้อย นายบอน บันทึกนี้จึงหยิบความคิดเห็นของผู้อ่านบล็อกมาให้อ่านกันครับ
”มิตรภาพ และเพื่อนใน gotoknow เกิดจากการปฏิสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งความขัดแย้ง ความกลมเกลียว เหนียวแน่น น้ำใจไมตรีที่เกิดขึ้น แม้ความเห็นที่ได้อ่าน จะดูเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เราก็สามารถเรียนรู้จากเรื่องส่วนตัวที่ได้อ่านได้ เพราะข้อความที่เขียนออกมา เสมือนบอกว่า พวกคุณเป็นบุคคลสาธารณะ….
การสังเกตความคิด ความขัดแย้งของ 3 blogger ใน gotoknow โดยการมองในภาพรวมตลอด 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา จับอารมณ์ ความคิดเห็นผิดปกติที่เกิดขึ้น และการจัดการกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เป็นความขัดแย้งทางความคิดในระดับต่ำ
ข้อสังเกตแรก คือ ความขัดแย้งระหว่าง ครูอ้อย กับ คุณไมโต จากการที่มีข้อคิดเห็นเรื่องตัวนับสถิติ และมีการยกตัวอย่างว่า มีผู้ชมจากญี่ปุ่นเข้ามาเปิดดูบล็อกด้วย จนนำมาซึ่งประเด็นที่ว่า ครูอ้อยไม่เคยมีเพื่อน…..อยู่ที่ญี่ปุ่น แต่หลังจากที่ได้แสดงหลักฐาน รูปภาพ คุณไมโตที่ถูกกล่าวถึง ก็เข้ามาเขียนความเห็น ทำให้ครูอ้อยรีบชี้แจงทำความเข้าใจจนเกิดความรู้สึกที่ดีดังเดิม และมิตรภาพแน่นแฟ้นมากขึ้น
ข้อสังเกตที่ 2 ความขัดแย้งระหว่างครูอ้อยกับ นายบอน ซึ่งทั้งคู่มักจะเขียนบันทึกอ้างอิงถึงกันและกันบ่อยครั้ง
ฝ่ายหนึ่งเขียนด้วยสำนวนที่ไพเราะเสนาะหู หรือหวานจับใจ แต่อีกฝ่าย เขียนในแบบคิดนอกกรอบ หักมุม ทำให้ผู้อ่านได้ประเด็นเก็บไปคิดเตือนสติได้บ้าง
ช่วงต้นเดือน พ.ย.2549 ทั้งคู่เขียนบันทึกถึงกันบ่อยมาก ฝ่ายครูอ้อยยังคงหวานจับใจอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ส่วนนายบอนยังคงนอกกรอบ หักมุมอย่างร้ายกาจถึงครูอ้อยอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงบันทึกหนึ่ง ที่นายบอนเขียนถึงครูอ้อยว่า ถึงครูอ้อยว่า เขียนพาดพิงมากเกินไปแล้วนะ อาจจะเบื่อได้ และตามด้วยความเห็นในเชิงอุปมาโวหารระหว่างกัน ที่ผู้อ่านต้องขบคิดหลายชั้นว่า หมายถึงอะไรกันแน่ ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง
หลังจากมีความเห็นเชิงอุปมาโวหารระหว่างกันเกิดขึ้นช่วงต้นเดือน ธ.ค. 49 ทั้งคู่จะไม่เข้าไปเขียนความเห็นในบล็อกของอีกฝ่าย เหมือนหยั่งดูท่าทีกันไปพลางๆ
ข้อสังเกตที่ได้กับวิธีการจัดการความขัดแย้ง กรณีครูอ้อยและคุณไมโต ใช้วิธีการยอมให้+ การประนีประนอม ซึ่ง ได้ดำเนินการแก้ไขความขัดแย้งภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
แต่กรณีครูอ้อย และนายบอน ใช้วิธีการแข่งขันเอาชนะด้วยเหตุผลในบันทึก และวิธีการหลีกเลี่ยง ซึ่งอาจจะไม่ยอมสื่อสารกันอย่างกลมเกลียวเหมือนช่วงที่ผ่านมา….
เหตุผลของการใช้ระยะเวลาของการตัดสินใจจัดการความขัดแย้ง กรณีคุณไมโตนั้น ความผิดพลาดเกิดขึ้นจากฝ่ายครุอ้อยอย่างชัดเจน จึงรีบจัดการความขัดแย้งภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่ในกรณีของครูอ้อยกับนายบอน ความผิดพลาดไม่ชัดเจน ต่างฝ่ายจึงรีรอดูท่าทีของอีกฝ่ายหนึ่ง
การตัดสินใจจัดการความขัดแย้ง ขึ้นอยู่กับความเข้าใจและการให้น้ำหนักความสำคัญของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งสามารถมองได้ว่า น้ำหนักความสำคัญของคุณไมโตต่อครูอ้อย มากกว่าน้ำหนักความสำคัญกับนายบอน ซึ่งน้ำหนักความสำคัญที่มอบให้จะมีผลต่อความกระตือรือร้นต่อการตัดสินใจแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ภายในเวลาไม่นานนัก”
.
..
…
….
…..
……
…….
นั่นคือบทวิเคราะห์จากเพื่อนร่วมวงจานส้มตำของนายบอนครับ เนื่องจากเสาร์อาทิตย์ที่ 2-3 ธ.ค.2549 นายบอนเข้า กทม. จึงไม่มีบันทึกเสวนาจานส้มตำออกมา ถ้านายบอนอยู่ที่กาฬสินธุ์ อาจจะได้อ่านบันทึกเสวนาจานส้มตำที่ให้รายละเอียดในประเด็นต่างๆมากขึ้น
บางทีครูอ้อยอาจจะไม่พอใจมากยิ่งขึ้นก็ย่อมได้
ทิ้งท้ายด้วยความเห็นของนายบอนบ้าง ความจริงไม่ได้เกิดความขัดแย้งอะไรหรอกครับ เขียนยียวนไปตามเรื่องตามราว หลายประเด็นก็แซวครูอ้อยไปแบบนั้นแหละ เช่น ที่ว่า เขียนพาดพิงมากเกินไป อาจจะเบื่อได้ เหมือนกันอาหารเมนูเดียวซ้ำกันทุกวัน
ซึ่งความจริงนายบอนก็ใช่ย่อม เขียนบันทึกถึงครูอ้อยก็ไม่น้อยเช่นกัน พาดพิงอยู่เรื่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยังไม่เบื่อที่จะเขียนเลย ซึ่งครูอ้อยก็รวบรวมลิงค์เขียนบันทึกเป็นหลักฐานไว้เรื่อยๆ ส่วนที่ว่า ไม่ค่อยเข้าไปเขียนความเห็นในบล็อกของอีกฝ่าย เพราะนายบอนกำลังพัฒนาเวบไซต์รุ่นของเพื่อนๆอยู่ ทั้ง upload รูปภาพ เขียนข้อความ ข่าวสาร ติด counter ฯลฯ เปิดหน้าจอทำหลายอย่าง คิดไม่ทันเหมือนกันครับ อ่านทั้ง gotoknow สักพักก็มา upload รูปใส่เวบอื่น ฯลฯ
<h2>ส่วนข้อสังเกตเรื่องความขัดแย้ง ดูแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรครับ ใน gotoknow มีมิตรใหม่ ให้ทำความรู้จักอีกมากมาย หลากหลายครับ สามารถที่จะสรรสร้างมิตรภาพใหม่ๆ และสานสายใยกัลยาณมิตรที่รู้จักกันมาแล้ว ให้แน่นแฟ้นได้มากยิ่งขึ้น เมื่อดูในระยะยาวแล้ว ข้อสังเกตเรื่องความขัดแย้งที่ว่ามานั้น เรื่องมันเล็กน้อยครับ </h2>
ในวันข้างหน้า เมื่อกลับมาอ่านความคิดเห็นเหล่านั้น อาจจะขำกลิ้งตัวเองก็ได้ว่า คิดแบบนั้นได้อย่างไร เมื่อให้ความรู้สึกเข้าใจผิดในช่วงเวลาสั้นๆ มาลบล้างความรู้สึกที่ดีๆ กับบันทึกที่เขียนให้เป็นพิเศษอย่างมากมาย อย่างที่ไม่เคยมีใครเขียนให้มากขนาดนี้มาก่อน หากมองในภาพใหญ่ ภาพกว้าง สัดส่วนบันทึกที่ดี มากกว่า สัดส่วนบันทึกที่ให้ความรู้สึกในแง่ลบอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
เพียงแต่ตอนนี้ ต้องให้เวลาในการที่จะมองให้เห็นภาพกว้างๆเหล่านั้น ที่ได้บันทึกไว้ด้วยตัวเองเสียก่อน
แล้วความขัดแย้งที่คิดกันนั้น ความจริงแล้ว มันไม่ใช่ความขัดแย้งอะไรเลย
<h2>เป็นเพียงแค่ บททดสอบความเข้มข้นของมิตรภาพบทหนึ่งของชีวิตเท่านั้น</h2>
สวัสดีค่ะคุณบอน....หายป่วยหรือยังคะ
การจัดการความรู้กลุ่มคำ...ความคาดหวัง..กับ....ความห่วงใย
การจัดการความรู้กลุ่มคำ....ความห่วงใย.....ความหมางเมิน
การจัดการความรู้ครูเวร.....กับนักเรียนเล่าเรื่องในอดีต
การจัดการความรู้กลุ่มคำ...ความเอื้ออาทร.....หมิ่นหยามน้ำใจ
การจัดการความรู้กับกลุ่มคำ ; ความขัดแย้ง : ไร้เหตุผล
ตอบรับด้วย บันทึกเดียวแต่เขียน 2 แบบ
(Hard version) : เส้นคั่นบางๆระหว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ของ ครูอ้อย คุณไมโต นายบอน