สถานที่พักของสงฆ์..?

ในสมัยการเริ่มประกาศพระพุทธศาสนาเมื่อเราย้อนไปศึกษาดูจะเห็นได้ว่าพระพุทธเจ้าเลือกที่จะพักผ่อนอยู่ตามป่าเขาริมแม่น้ำอันเป็นธรรมชาติ แม้ก่อนหน้านั้นคือการค้นหาสัจธรรมเป็นเวลาหกปีพระพุทธเจ้าก็เลือกที่จะอยู่ในป่าธรรมชาติเพียงลำพังผู้เดียว แล้วป่าเขาริมแม่น้ำก็กลายมาเป็นพุทธสถานทางพระพุทธศาสนา
เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าออกประกาศพระพุทธศาสนาใหม่ ๆ นั้นก็ไปพักอยู่ตามร่มไม้อยู่ตามสวนสาธารณะต่าง ๆ เมื่อเจ้าผู้ครองแคว้นนั้นทราบก็ถวายสวนเหล่านั้นให้เป็นที่พักสงฆ์ดังพระเจ้าพิมพิสารถวายสวนไผ่ให้เป็นที่พักสงฆ์ และสวนอื่น ๆ เช่น สวนตาลหนุ่ม สวนมะม่วง สวนดอกไม้ สวนต้นไทรงาม สวนเจ้าเชตุ เป็นต้น
จากที่พักสงฆ์สมัยก่อนคือสวนสาธารณะดี ๆ นี่เองเราเห็นมุมมองอะไรบ้างเกี่ยวกับที่พักสงฆ์ในสมัยดั้งเดิม..?
ต่อมาที่พักสงฆ์ในพระพุทธศาสนากลายเป็นวัดในพระพุทธศาสนา ดูตัวอย่างวัดในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่นับถือพระพุทธศาสนา หากจะถามว่าวัดมีประโยชน์ต่อชุมชนสังคมอย่างไรบ้าง คงบรรยายไม่หมดแน่ ยกตัวอย่างเมื่อผมยังเล็ก ๆ จำความได้ว่าผมเกิดในบ้านนอกมีวัดเป็นศูนย์กลาง คืองานอะไรก็มาจัดกันที่วัด ผู้ใหญ่บ้านกำนันก็มาประชุมที่วัด ข่าวสารต่าง ๆ ก็มาฟังกันที่วัดเพราะสมภารวัดเดินทางไกลคนออกจากบ้านก็ไปพบส่งจดหมายฝากกลับบ้าน วัดเป็นโรงหนังโรงหมอลำกลอนหมอลำเรื่อง วัดเป็นสนามกีฬาทุกชนิดวัดเป็นสถานจัดงานบุญประเพณีต่าง ๆ วัดเป็นโรงพยาบาลสมภารเป็นครูเป็นหมอ วัดเป็นโรงเรียน วัดเป็นโรงแรม และวัดพัฒนาถึงขั้นเปิดเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่โด่งดังอย่างน่าชื่นชมยิ่งโดยผลิตบัณฑิต มหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตออกมาอย่างสายน้ำไหลไปไม่หวนคืนซึ่งผมเองก็เป็นคนหนึ่งดุจดังเม็ดทรายหนึ่งเม็ดเล็ก ๆ อันน้อยนิดที่ออกมาจากเบ้าหลอมของมหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย นี่คือวัดซึ่งบรรยายไม่หมด
ปัจจุบันวัดในพระพุทธศาสนาเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไรบ้างอยู่ในยุคที่ทุกคนเห็นกับตาตนเองแล้วคงตอบได้นะครับ...ฮา ๆ