วันนี้เป็นวันสบายๆ ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบ
ตอนเช้าแอบแว็บไปทำงานนิดหน่อย แล้วกลับมาเม้าท์ต่อใน g2k จนตกบ่าย
จึงถือโอกาสกลับไปเยี่ยมเยียนสวนสวยในเมืองใหญ่ที่ผมเคยไปมาแล้วเมื่อประมาณเดือนหนึ่งที่ผ่านมา
สวนนี้ชื่อว่า Rikugien garden
เป็นสวนที่ห่างจากมหาวิทยาลัยโตเกียวไปประมาณ 2 ป้ายรถไฟใต้ดินครับ
วันนี้ผมไม่มีอะไรรีบร้อน ก็ค่อยๆเดินดูบ้านเมืองตามทางไปเรื่อยๆครับ
ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็ถึง เพียงแต่ประหลาดใจนิดหน่อย
ทำไมวันนี้คนมาเที่ยวสวนเยอะจัง
แตกต่างจากครั้งก่อนที่ผมมาลิบลับ
จากการเดินชมสวนที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก
น่าจะสักครึ่งหนึ่งของสนามหลวงบ้านเราครับ
ผมประมาณว่าน่าจะมีคนอยู่ในสวนนี้ประมาณสักพันคนได้ครับ
สวนนี้เก็บค่าเข้าชมด้วยครับ เมื่อคราวก่อนผมจ่ายค่าเข้าชม 150 เยน
ตกเป็นเงินไทยประมาณ 50 บาทครับ คราวนี้ลูกค้าแน่น เขาขึ้นราคาเป็น
300 เยน ก็ประมาณ 100 บาทครับ คราวก่อนที่ผมมานั้น
ใบไม้ยังเป็นสีเขียวอยู่ครับ และสวนนี้มีต้นเมเปิลอยู่พอสมควร
ตอนนั้นคิดไว้ว่าถ้าเมเปิลเปลี่ยนสี สวนนี้ก็น่าจะสวยมาก
จึงเป็นแรงจูงใจให้กลับมาอีกครั้ง
ซึ่งก็พบว่าเมเปิลเริ่มเปลี่ยนสีแล้ว แต่ยังไม่มากนัก
บางส่วนยังเป็นสีเขียวอยู่ครับ เอาล่ะ
ผมขอถือโอกาสพาชมสวนก็แล้วกันครับ
จากประตูเข้าไปภายในจะเห็นบึงน้ำใหญ่ครับ
มองไปอีกฝั่งเป็นภาพที่สวยงามครับ วันนี้ท้องฟ้าเป็นใจ
มีเมฆบ้างเล็กน้อย สวยงามไปอีกแบบ ก็เลยขอบันทึกภาพมาฝากครับ
มองภาพมุมกว้างบ้างนะครับ
ผมยืนมองมุมนี้อยู่นานครับ มีเพื่อนร่วมมองกับผมเยอะแยะครับ
นี่เป็นกลุ่มเพื่อนๆที่ยืนมองชื่นชมความสวยงามด้วยกันครับ
ไม่น่าเชื่อว่าคนเยอะขนาดนี้ แต่ก็ไม่มีเสียงดังอื้ออึงครับ
ทุกคนใช้เสียงเพียงเบาๆ ไม่รบกวนผู้อื่น
การถ่ายรูปก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีครับ
หนุ่มสาวคู่นี้เดินจู๋จี๋กันข้ามสะพานครับ เป็นที่น่าอิจฉาของผมมาก
ก็เลยเผื่อแผ่มาให้คนบน g2k ทางเมืองปาย ตาร้อนผะผ่าวบ้างครับ
เวลาถ่ายรูป
เขาก็รุมกันถ่ายอย่างที่เห็นในภาพนี่ครับ
แต่ละคนหามุมของตัวเองถ่ายกันตามสบายครับ
ในภาพกำลังถ่ายใบเมเปิลกันครับ
ผมก็ได้ภาพใบเมเปิลใกล้ๆ
มาฝากเหมือนกันครับ
ภาพนี้ถ่ายจากกลางสะพานเล็กๆ
เหมือนที่หนุ่มสาวคู่เมื่อกี้เดินข้าม แต่เป็นคนละสะพานครับ
ก็เลยบันทึกภาพอาทิตย์ยามบ่ายไว้ให้ชมกันครับ
เมเปิลต้นนี้อยุ่ตรงทางออกจากสวนครับ
มองยังไงก็สวย จึงไม่น่าแปลกใจครับ
ที่เมเปิลจะเป็นไม้ในดวงใจของใครหลายคน