เสริมแรงสร้างความรู้ "จากขนมสู่การอ่านค่าตัวต้านทาน"


          ในภาคเรียนนี้มีคาบพิเศษ ๑ คาบที่ครูนกต้องลงไปดูแลนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาโดยมีโจทย์ที่ได้รับมอบหมายจากครูวิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ คือ ทบทวนเรื่องไฟฟ้า  ในครั้งแรกครูนกให้เด็กๆได้ทำการทดลองเรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี เพื่อให้นักเรียนได้เข้าใจกลไกการทำงานของเซลล์ไฟฟ้าเคมีในระดับของเด็กม.ต้น ส่วนศุกร์นี้ครูนกตั้งใจจะทบทวนเรื่อง การอ่านค่าความต้านทานในลักษณะ 4 แถบสี 


          ครูนกได้เตรียมตัวต้านทานจริงๆ ให้นักเรียนโดยใช้ 1 ชุดมีตัวต้านทาน 4 ตัวสำหรับ 1 กลุ่มทั้งนี้ได้มีการทบทวนการอ่านและการคำนวณเกี่ยวค่าความคลาดเคลื่อนโดยใช้ppt แต่บังเอิญก่อนหน้าสอนสัก 5 นาทีครูนกได้นัดหมายรับขนมมา 1 กล่องเพื่อนำไปของฝากผู้ใหญ่ที่ชอบขนมนุ่มๆ ปรากฎว่าขนมคงมีขนาดกล่องใหญ่เลยสะดุดตาเด็กๆ มากกว่าตัวตัวทานที่ครูนกเตรียมมาทำให้เด็กๆ สอบถามเรื่องขนม จนทำให้ครูนกต้องวางกติกาว่า ถ้ากลุ่มใดสามารถทำให้สมาชิกทุกคนอ่านค่าความต้านทานและคำนวณค่าความต้านทานต่ำสุดและสูงสุดได้ถูกต้องทุกตัวต้านทานและทำได้ทุกคน กลุ่มนั้นก็จะได้รับขนมไปคนละชิ้น  สังเกตทุกคนตั้งใจมากๆ แต่สุดท้ายกลุ่มสาวน้อย 5 สาวประสบความสำเร็จก่อนกลุ่มอื่นๆ เลยได้ทานขนมที่เด็กๆ บอกว่า "อร่อยมากเลยครู ละลายในปากเลยค่ะ"  บรรดาหนุ่มน้อยพยายามอ้อนวอนจนครูนกอยากจะเสกขนมให้มีครบทุกคนแต่ก็เกินความสามารถ  แต่พบว่าการให้เล็กๆน้อยๆ ก็สามารถเสริมแรงให้เด็กๆทำในสิ่งที่เขามองว่า ยาก และใช้เวลาพอสมควรจึงจะเสร็จ แต่ก็มีแรงเสริมดีจึงมีแรงจูงใจจะทำ


          สรุปการให้รางวัลสำหรับนักเรียนในสิ่งที่เขาทำได้ คิดได้ หรือได้พยายาม  จะทำให้เด็กๆ มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์มากขึ้น ในขณะเดียวกันต้องไปด้วยกันเป็นทีมหรือเป็นกลุ่มให้คนเก่งช่วยคนอ่อนเพราะบางทีครูก็ไม่สามารถดูแลรายละเอียดในการเรียนได้ทั่วถึงหากจำนวนนักเรียนต่อห้องยังคงเกิน 40 คน
          

หมายเลขบันทึก: 649488เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2018 22:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม 2018 22:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท