บ่ายวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ผมไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ โดยคณะกรรมการชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายหน้าที่จากคณะกรรมการมูลนิธิที่มี ศ. นพ. เกษม วัฒนชัย เป็นประธาน คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เป็นรองประธาน ทำหน้าที่ดูแลรายละเอียดเชิงหลักการให้หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ มีการจัดการที่ดี คณะกรรมการชุดนี้ประชุมปีละ ๔ ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ ของปี โดยคณะกรรมการมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญประชุมปีละครั้งเดียว
สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การอ่านหนังสือเล่มลดลงไป หนังสือธรรมะที่เมื่อไม่กี่ปีก่อนเป็นหนังสือยอดนิยม ก็พลอยหย่อนความนิยมไปด้วย หอจดหมายเหตุฯ จึงต้องปรับร้านหนังสือไปด้วย จะมีการปรับปรุงพื้นที่ส่วนร้านหนังสือเป็นทั้งร้านหนังสือ พิพิธภัณฑ์ ที่อ่านหนังสือ และห้องประชุม นอกจากนั้นยังจะปรับปรุงห้องนิพพานชิมลอง และส่วนอื่นๆ ของอาคารอีกเล็กน้อย
เรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งคือการตั้งกองทุนในมูลนิธิ ให้ผู้บริจาคสามารถระบุความต้องการในการบริจาคให้ตั้งเป็นชื่อกองทุนได้แต่กำหนดวัตถุประสงค์พิเศษไม่ได้ และชื่อกองทุนจะได้รับการจารึกในแผ่นป้ายเมื่อบริจาค ๑ ล้านบาทขึ้นไป เราหวังว่า มาตรการนี้จะเป็นแรงดึงดูดให้คนอยากบริจาคมากขึ้น
ฝ่ายต่างๆ ของหอจดหมายเหตุฯได้นำเสนอแผนปฏิบัติการ ปี ๒๕๖๑ – ๒๕๖๒ เพื่อขอความเห็นชอบ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นระบบมากขึ้น ฝ่ายอื่นๆ ได้รับรู้แผนเพื่อให้งานประสานสอดคล้องกัน
การบัญชี ซึ่งประดักประเดิดมานานบัดนี้เข้าร่องเข้ารอย รู้ฐานะทางการเงินชัดเจนและล่วงหน้า สามารถนำเงินกองทุนส่วนหนึ่งไปให้ธนาคารจัดการเพื่อให้ได้รับดอกผลมากกว่าดอกเบี้ยฝากประจำได้โดยมีความเสี่ยงน้อยมาก ในคณะกรรมการมีคุณบรรยง พงษ์พานิช ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคอยให้คำแนะนำเรื่องนี้ และมีหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศมาทำงานประสานงานด้านต่างประเทศ เพื่อให้ธรรมะแนวท่านพุทธทาสไปสู่ต่างประเทศสะดวกขึ้น
คณะกรรมการต้องช่วยให้ความเห็นชอบการแก้ปัญหาของภาคีที่มารับทำงานที่สสส. ให้ทุน และต่อมา สสส. โดนกลไกของรัฐบาลทหารเล่นงาน หาทางไล่บี้ทั้ง สสส. และภาคี มีการตีความว่าการรับทุน สสส. เป็นการ “รับจ้างทำของ” ต้องเสียภาษีในอัตราธุรกิจ วุ่นวายมาก ต้องมีการหาทางประนีประนอมผ่อนปรนเข้าหากันกับสรรพากร จนในที่สุดภาคีที่มาช่วยทำงานให้แก่หอจดหมายเหตุฯในโครงการที่ สสส. สนับสนุนทุน ต้องยอมจ่ายภาษี คณะกรรมการจึงมีมติให้หอจดหมายเหตุฯ จ่ายค่าภาษีแทน เพราะจริงๆแล้วเป็นการทำงานให้แก่หอจดหมายเหตุฯ
จะเห็นว่า การทำงานเพื่อธรรมะเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ก็มีมารผจญได้
วิจารณ์ พานิช
๑๔ มิ.ย. ๖๑
ไม่มีความเห็น