ชีวิตที่พอเพียง 3227. หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ



บ่ายวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ผมไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ   โดยคณะกรรมการชุดนี้ได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายหน้าที่จากคณะกรรมการมูลนิธิที่มี ศ. นพ. เกษม วัฒนชัย เป็นประธาน  คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เป็นรองประธาน  ทำหน้าที่ดูแลรายละเอียดเชิงหลักการให้หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ มีการจัดการที่ดี     คณะกรรมการชุดนี้ประชุมปีละ ๔ ครั้ง    ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ ของปี    โดยคณะกรรมการมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญประชุมปีละครั้งเดียว

 สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว    การอ่านหนังสือเล่มลดลงไป   หนังสือธรรมะที่เมื่อไม่กี่ปีก่อนเป็นหนังสือยอดนิยม ก็พลอยหย่อนความนิยมไปด้วย    หอจดหมายเหตุฯ จึงต้องปรับร้านหนังสือไปด้วย    จะมีการปรับปรุงพื้นที่ส่วนร้านหนังสือเป็นทั้งร้านหนังสือ  พิพิธภัณฑ์ ที่อ่านหนังสือ และห้องประชุม   นอกจากนั้นยังจะปรับปรุงห้องนิพพานชิมลอง และส่วนอื่นๆ ของอาคารอีกเล็กน้อย

เรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งคือการตั้งกองทุนในมูลนิธิ   ให้ผู้บริจาคสามารถระบุความต้องการในการบริจาคให้ตั้งเป็นชื่อกองทุนได้แต่กำหนดวัตถุประสงค์พิเศษไม่ได้   และชื่อกองทุนจะได้รับการจารึกในแผ่นป้ายเมื่อบริจาค ๑ ล้านบาทขึ้นไป    เราหวังว่า มาตรการนี้จะเป็นแรงดึงดูดให้คนอยากบริจาคมากขึ้น 

ฝ่ายต่างๆ ของหอจดหมายเหตุฯได้นำเสนอแผนปฏิบัติการ ปี ๒๕๖๑ – ๒๕๖๒ เพื่อขอความเห็นชอบ    ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นระบบมากขึ้น    ฝ่ายอื่นๆ ได้รับรู้แผนเพื่อให้งานประสานสอดคล้องกัน

การบัญชี ซึ่งประดักประเดิดมานานบัดนี้เข้าร่องเข้ารอย   รู้ฐานะทางการเงินชัดเจนและล่วงหน้า   สามารถนำเงินกองทุนส่วนหนึ่งไปให้ธนาคารจัดการเพื่อให้ได้รับดอกผลมากกว่าดอกเบี้ยฝากประจำได้โดยมีความเสี่ยงน้อยมาก   ในคณะกรรมการมีคุณบรรยง พงษ์พานิช ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคอยให้คำแนะนำเรื่องนี้     และมีหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศมาทำงานประสานงานด้านต่างประเทศ   เพื่อให้ธรรมะแนวท่านพุทธทาสไปสู่ต่างประเทศสะดวกขึ้น  

คณะกรรมการต้องช่วยให้ความเห็นชอบการแก้ปัญหาของภาคีที่มารับทำงานที่สสส. ให้ทุน และต่อมา สสส. โดนกลไกของรัฐบาลทหารเล่นงาน   หาทางไล่บี้ทั้ง สสส. และภาคี    มีการตีความว่าการรับทุน สสส. เป็นการ “รับจ้างทำของ”  ต้องเสียภาษีในอัตราธุรกิจ    วุ่นวายมาก   ต้องมีการหาทางประนีประนอมผ่อนปรนเข้าหากันกับสรรพากร    จนในที่สุดภาคีที่มาช่วยทำงานให้แก่หอจดหมายเหตุฯในโครงการที่ สสส. สนับสนุนทุน ต้องยอมจ่ายภาษี   คณะกรรมการจึงมีมติให้หอจดหมายเหตุฯ จ่ายค่าภาษีแทน    เพราะจริงๆแล้วเป็นการทำงานให้แก่หอจดหมายเหตุฯ  

จะเห็นว่า การทำงานเพื่อธรรมะเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ก็มีมารผจญได้  

วิจารณ์ พานิช

๑๔ มิ.ย. ๖๑


 

หมายเลขบันทึก: 649225เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2018 21:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 กรกฎาคม 2018 21:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท