ระยะหลังๆ ไม่จำเป็นจริงๆ ผมจะหลีกเลี่ยงการเป็นกระบวนกรหลักในเวทีนั้นๆ เพราะจะมอบให้ทีมงานเป็นคนขับเคลื่อนกันเอง ส่วนผมจะผันออกมาเป็นคนสังเกตกระบวนการ เฝ้าประเมินว่าทีมงานทำงานกันอย่างไร มีอะไรต้องเติม หรือตัดทอนลงบ้าง
หลายต่อหลายครั้ง ผมจึงลุกออกจากเก้าอี้เข้าไปหนุนเสริม หรือกระทั่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยเฉพาะประเด็นที่คนร่วมเวทีได้สื่อสารแล้วน่าสนใจ หรือน่าที่จะ “ไปต่อ”
ใช่ครับ- ประเด็น "น่าไปต่อ" แต่ทีมงานผมอาจจะคาดไม่ถึง – ไม่ลึกซึ้ง หรือไม่สามารถหยิบจับมาเสวนาได้ ผมก็จะเข้าไปหนุนเสริมให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
หรือเรียกง่ายๆ ว่าเข้าไปยกระดับเรื่องนั้นด้วยตัวของผมเอง ซึ่งผมเข้าใจเองว่านั่นคือการยกระดับการทำงานของทีมกระบวนกรของผม พร้อมๆ กับการยกระดับเรื่องของผู้เข้าร่วมเวทีให้กลายเป็นกรณีศึกษา –
รวมถึงการนั่งรับประทานอาหารกลางวัน ผมกับลูกทีมก็จะทานร่วมกัน เพื่อประเมินงาน (AAR) สู่การปรับกระบวนการในภาคบ่าย หรือช่วงที่เหลือ
ในเวที “สัมมนาอาจารย์ที่ปรึกษาองค์กรนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม” เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2561 ณ บ้านโฮม สวนอาหาร&รีสอร์ท อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน ผมก็ผันตัวเองเข้าไปหนุนกระบวนการแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
ปรับหน้างาน : เข้าหนุนทีมงานแบบเนียนๆ
หลังการรับประทานอาหารกลางวัน ตามกำหนดการคือการละลายพฤติกรรมอีกรอบ หรือไม่ก็เป็นกิจกรรม “ผ่อนพักตระหนักรู้” ซึ่งผมก็สังเกตดูว่าทีมงานจะขับเคลื่อนอย่างไร เพราะประเมินจากห้องหับที่เล็กแคบ มีโต๊ะจัดรองรับการเสวนา (โสเหล่) กอปรกับดูวันวัยของอาจารย์แล้วคงยากพอสมควรที่จะทำให้บ่ายวันนี้ดูคึกคัก-ไม่ง่วง
เท่าที่ผมสังเกต ทีมงานผมใช้เวที “เจ๊าะแจ๊ะศาสตร์” อยู่สักพัก ยังไม่มีวี่แววว่าจะปรับหน้างานอะไรได้อย่างชัดเจนนัก เหมือนกำลังหาทางออกกับการเสริมสร้างบรรยากาศนั่นเอง และดูประหนึ่งว่าผู้เข้าร่วมเวทีก็เริ่มเกิดอาการอึดเหนื่อยเฉื่อยชาหนังตาเริ่มหย่อนกันมากขึ้นทุกขณะ
ผมจึงถือโอกาสเข้าไปหนุนกระบวนการแบบเนียนๆ ...
รู้จักฉันรู้จักเธอ : ทบทวนชีวิต ทบทวนการงาน
ผมให้ทีมงานช่วยกันแจกกระดาษพร้อมสีให้กับอาจารย์ พร้อมๆ กับการนำเข้าสู่กิจกรรม “รู้จักฉันรู้จักเธอ” ในแบบฉบับบันเทิงเริงปัญญาของผม นั่นคือการ “วาดภาพ”
ผมกำหนดหัวข้อให้อาจารย์แต่ละท่านได้วาดภาพจากความทรงจำที่เป็นปัจจุบันของตนเองใน 2 หัวข้อ คือ (1) ภาพกิจกรรมนิสิต หรืออื่นๆ ที่ประทับใจ หรือ (2) ภาพอะไรก็ได้
พูดง่ายๆ ก็คือให้เลือกวาดประเด็นใดประเด็นหนึ่งนั่นเอง รวมถึงอนุญาตให้ใช้ตัวช่วยจากมือถือได้ เพราะเชื่อว่าบางท่านอาจมีภาพที่อยากวาดแล้วบันทึกไว้ในมือถือด้วยก็เป็นได้
แน่นอนครับ – ขณะวาดก็เปิดเพลงคลอเบาๆ สร้างเสริมบรรยากาศ พร้อมๆ กับการเดินเยี่ยมชมแบบเนียนๆ มีการพูดแซวบ้างเป็นระยะๆ
จากการประเมินก็ชัดเจนว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยดี ความง่วงเหงาหาวนอนมลายหายไปจากเวที บรรยากาศในเวทีดูมีชีวิต คึกคัก อบอุ่น หลายต่อหลายท่านชำเลืองคนข้างๆ มีทั้งชมและหยิกหยอกกันด้วยคำพูด
มีความหมายใดในภาพวาด
ทุกครั้งที่ใช้ภาพวาดมาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผมมีเหตุผลเสมอ เป็นเหตุผลที่ผมเข้าใจเองว่ามันคือเหตุผล –
ผมเชื่อในอานุภาพของภาพวาดที่มีต่อการเป็นสื่อสร้างสรรค์ ทั้งในมิติของผู้วาดและผู้รับ อย่างน้อยก็คือการทบทวนประสบการณ์ชีวิต เยียวยาและเสริมพลังให้ตนเอง เมื่อแบ่งปันเรื่องราวสู่ผู้อื่น ประหนึ่งการแบ่งปันและโอบกอดกันและกัน เสมอเหมือนการจัดการความรักคู่กับความรู้ดีๆนั่นเอง
นั่นยังไม่พูดว่า การวาดภาพจะทำให้สมองคนเราหลั่งสารแห่งความสุขอะไรออกมาบ้าง รวมถึงการวาดภาพเป็นการบริหารสมองทั้งสามส่วนอย่างไร
หรือแม้แต่การวาดภาพในบางประเด็นก็ทำให้ผมเห็นฐานข้อมูลบางอย่างด้วยเช่นกัน เพราะเป็นประหนึ่งการสำรวจข้อมูลกิจกรรมไปในตัวว่าแต่ละคนรักและประทับใจกิจกรรม/โครงการอะไรบ้าง และในโครงการที่ว่านั้นดีอย่างไร ประสบความสำเร็จอย่างไร ซึ่งสามารถหยิบจับมาเป็นกรณีศึกษาโสเหล่ได้อย่างยืดยาว
ใช่ครับ – ภาพบางภาพไม่เพียงสะท้อนความทรงจำส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเสมือนการสะท้อนสังคมในยุคสมัยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
ท้ายที่สุด
ทุกครั้งที่วาดภาพ ผมไม่ลืมให้มีการเล่าสู่กันฟัง แต่ด้วยเวลาในเวทีที่มีไม่มากมายนัก ผมจึงเชื้อเชิญให้บอกเล่าตามความสมัครใจ กล่าวคือ “ใครใคร่เล่าก็เล่า” หรือกระทั่งถามทักในเวทีว่า "อยากฟังเรื่องราวของใครบ้าง"
ครับ-นี่คือกระบวนการรู้จักฉันรู้จักเธอที่ผมหยิบจับมาหนุนเวทีเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนรู้
ยืนยันว่า ไม่ใช่แค่การผ่อนพักคั่นเวลาแก้ง่วงเหงาหาวนอนเท่านั้น แต่มันมีความหมายมากกว่านั้น
ใช่ – มันมีความหมายมากกว่านั้นจริงๆ
มีความหมายในมิติ "บันเทิงเริงปัญญา"
เขียน : จันทร์ที่ 9 กรกฎาคม 2561
ภาพ : ทีมกองกิจการนิสิต / นิสิตช่วยงาน
ชอบมากเหมือนกันค่ะ ขาดไม่ได้กิจกรรมวาดภาพ วาดคนเดียวบ้าง วาดเป็นกลุ่มก็มี สนุกทุกที สาระมากมีตามมา ชอบ ๆ ๆ ๆ มากค่ะ ได้เปิดเผยสิ่งที่อยู่ในใจ ^_,^
ยังจำไม่ลืมที่อยุธยา พี่แก้ววาดภาพทะเล ภูเขา เป็นความฝันวัยเด็กอยากไปทะเล