วานนี้ มีโอกาสพบปะกับรุ่นน้องชื่อตั๊บ ชรินทร์ อายุเราห่างกัน 10 ปี รู้จักกันมา 6 ปี ระหว่างที่ฟังเพลงและสนทนาเรื่องทั่วไป ชรินทร์ก็ถามผมแบบจริงจัง เสมือนคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้ว่า “พี่ยอดทำยังไงถึงไม่แก่” ผมรีบตอบชรินทร์ไปอยางไม่ต้องลังเลหาคำตอบว่า ทำไมจะไม่แก่ ดูหน้าพี่สิ ชรินทร์ก็สวนมาว่า “ไมใช่อย่างนั้น ผมหมายถึงการใช้ชีวิต ดูพี่ยอดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง อยู่กับน้อง ๆ ทุกรุ่น” ผมก็ตอบไปว่า “วานก่อนคุยกับเพื่อน เพื่อนก็ถามเราว่า จะรู้ได้ไงว่าตัวเองแก่ เราก้ตอบเขาไปว่า ก็ถ้ารู้ตัวว่าคุยกับเด็กไม่รู้เรื่องนั่นแหละแสดงว่าแก่แล้ว” ...
ผมอยู่วน ๆ เวียน ๆ กับนักศึกษามาตลอด จึงอาจติดนิสัยทำตัวเด็ก ไม่ยอมแก่ ทั้ง ๆ ที่สังขารก็ร่วงโรยไปตามกาลที่ล่วงไป ใครเล่าจะหนีความแก่ไปได้ แต่สิ่งหนึ่งที่อาจจะมาลบล้างความแก่ของสังขาร คือการใฝ่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรียนรู้พฤติกรรมของน้อง ๆ นักศึกษา แล้วผมก็เลียนแบบเขา ได้บ้างไม่ได้บ้างก็พอทำเนาให้เข้ากับยุคสมัยของน้อง ๆ แม้บางคนจะเรียกคุณพ่อ บางคนเรียกน้า หรือหลายคนก็เรียกลุง... น่าจะเป็นคำตอบของคำว่า “ไม่แก่”
“ผมอยู่กับพี่ยอดมา ไม่ค่อยเห็นพี่ยอดโกรธใคร” ชรินทร์ตั้งคำถามใหม่ ผมก็ตอบเขาไปว่า “ก็มีบ้าง แต่หลายครั้งก็คิดได้ มีสติขึ้นมาว่า ไม่รู้จะโกรธกันไปทำไม เพราะบางทีชีวิตคนเราก็สั้น บางทีไม่ทันได้ยกโทษให้กัน มันก็ตายจากไปแล้ว เพราะเรื่องทุกเรื่องก็ใช่ว่าจะถูกใจเราไปซะทุกอย่าง”...
ผมก็มีโกรธเกลียดคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ แต่ก็ให้คิดว่า “โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า” เราเห็นคนบ้าอยู่ประจำ จึงเอาธรรมะข่มใจอยู่บ่อยครั้งไป จนหลายครั้งก็ชาชิน และรู้สึกนึกคิดว่าให้อภัยเขาเถอะ เราไม่อยากเจออะไรแบบไหน เราก็อย่าไปทำแบบนั้น พอคิดได้หรือให้อภัยได้ ก็สบายใจ เหมือนปล่อยวางลงได้ก็ไม่หนักอะไร ไม่ใช่ปลง แต่เลือกเก็บเรื่องราวดี ๆ ระหว่างกันไว้ดีกว่า บางคนอยู่ด้วยกันมานานหลายปี ทำดีต่อกันมากมาย บทจะโกรธเกลียดกัน ก็แค่เรื่องขี้หมา
“พี่ยอดไม่เหงาบ้างเหรอครับ” เอ้า ชรินทร์ ตั้งคำถามซะจนมุม ผมก็ตอบไปว่า ก็มีบ้างเรื่องเหงา แต่ก็ไม่นานนัก เพราะหาอย่างอื่นมาทำให้เพลิดเพลินใจ ฟังธรรมะ สวดมนต์ อ่านหนังสือนอกเวลาพวกเรื่องสั้น ดูหนังออนไลน์ หรือไม่ก็ไปดูหนังในโรง บางทีก็ไปหาดื่มกินสังสรรค์ตามประสา สักหน่อยก็หายเหงา...
จริง ๆ ก็มีเหงาบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก เพราะถือว่าเป็นคนมีกัลยาณมิตรอยู่มาก แขกไปใครมาผ่าน มข. ก็แวะทักทาย ชวนกินข้าวดื่มน้ำอยู่บ่อยไป แต่ที่สำคัญที่สุดคือ พอมีเวลาว่าง พอความเหงาเข้าแทรก เราก็ต้องรีบหากิจกรรมมาแทรกกลับคืน เพื่อสร้างสุนทรียะให้จิตใจ ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูหนัง หรือแม้แต่การเขียนบันทึกใน gotoknow ก็ช่วยคลายเหงาได้ มีข้อดีอีกข้อคือ มันเป็นช่วงเวลาที่จะได้เรียนรู้จิตใจตัวเองได้เป็นอย่างดี
ดึกดึก ณ มอดินแดง
8 กรกฎาคม 2561
ตอนนี้คงเริ่มแก่แล้วสินะ เพราะสิ่งที่ อ.ยอด บอกว่า ไม่โกรธ ไม่เหงา แล้วจะไม่แก่ นั่นมีครบ
เฮ็ดจั่งได๋สิบ่เฒ่าบอกอ้ายแน แชร์อ้ายแน คับ
@แผ่นดิน พี่พนัส เจ้ากะบ่เฒ่าดอกครับ เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับนิสิต ไม่ผิดที่อายุมากกว่า แต่ใจยังวัยรุ่นครับ
อ่านแล้วชอบ…..ครับอยู่กับความเป็นเรา..ใช่เลย