วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๑ ผมไปร่วมประชุม Si-CORE-M ซึ่งเป็นการประชุมทีมบริหารงานของโมเดลสนับสนุนการวิจัยแบบใหม่ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ต้องการส่งเสริมให้เกิด CORE (Center of Research Excellence) ที่เป็นการวิจัยที่มีเป้าหมายชัดเจน ทำงานวิจัยแบบจริงจัง ส่งมอบผลงานได้ ตามที่ตั้งเป้าไว้ ที่ผมเคยเล่าไว้ ที่นี่
เราพบว่า Si-CORE เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมทางวิชาการและด้านการจัดการที่วิวัฒนาการมาเพื่อเป้าหมายอื่น ที่ไม่ตรงกันกับเป้าหมายของ CORE เสียทีเดียว
เมื่อสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขการทำงาน เงื่อนไขความก้าวหน้า กำหนดไว้เพื่อเป้าหมายอื่น แต่ถูกกำหนดให้นำมาใช้กับคนในหน่วยใหม่ ที่เป้าหมายผลงานแตกต่างออกไป คนตามสเป็กที่ Si-CORE ต้องการดึงมาเป็นนักวิจัย ซึ่งเป็นคนมีความสามารถสูง มีโอกาสเลือกงาน ย่อมรู้ทันที่จะไม่เลือกมาทำงานใน Si-CORE
เรื่องตรงไปตรงมาเช่นนี้ ไม่ทราบว่า “เส้นผม” อะไรมาบังไว้
ผมตีความว่า “เส้นผม” ในที่นี้คือ กระบวนทัศน์ราชการ ที่ยึดถือ “เบอร์เดียวสวมทุกตีน” (one-size fits all)
ทำให้ผมได้ตระหนักว่า “กระบวนทัศน์ครอบงำ” มันมีพลังจริงๆ มันทำให้คนฉลาดทำสิ่งโง่ๆ ได้
สรุปว่า หากจะตั้งหน่วยงานวิจัยแบบมุ่งเป้า ต้องสร้างระบบบริหารงานบุคคลที่ดึงดูดนักวิจัยชั้นยอดมาทำงาน เป็นนักวิจัยประจำ Si-CORE โดยไม่ต้องมีตำแหน่งเป็นอาจารย์ แต่ได้รับผลประโยชน์ สิทธิ และความรับผิดชอบต่อผลงานสูง ไม่ด้อยกว่าอาจารย์
วิจารณ์ พานิช
๒๖ เม.ย. ๖๑ เพิ่มเติม ๑๔ พ.ค. ๖๑
เรียน อาจารย์
ผมขอความรู้เรื่อง GUR: Good University Report ด้วยครับในมุมมองของอาจารย์