๕๗. "หาหัวใจให้เจอ..ก็เป็นสุข"


อ่านและเขียนหนังสือที่ชอบ..พูดคุยกับคนที่ใช่..พักผ่อนหัวใจเท่าที่เวลาพอมี หาโอกาสไปท่องเที่ยวเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ พบเจอสถานที่แปลกใหม่ ..ใจก็เป็นสุข

               นับเป็นบุญวาสนาก็น่าจะใช่..เพราะยังมองไม่ออกว่าเป็นเพราะอะไร อายุมากขึ้นกับการทำงานการศึกษา..พบความยุ่งยากน้อยลงเป็นลำดับ..

            ในความจำกัดของโรงเรียนขนาดเล็ก ย่อมพบปัญหาและอุปสรรคบ้าง แต่นานวันเข้า..แทบไม่มีเรื่องให้ต้องแก้ปัญหา ทุกอย่างก็เดินไปในเส้นทางที่ควรจะเป็น..

            หรืออาจจะเป็นที่แนวคิด ที่ผมไม่ได้ยึดติดในตำแหน่ง ไม่ถือเกียรติยศ ลดความหรูหรา อลังการในชีวิตและงาน เรียบง่าย ไม่หลงเหลืออีโก้ในตัวตน..

            บริหารจัดการในหน้าที่ และทำหน้าที่เพื่องานส่วนรวม ทุกคนคือเพื่อนร่วมงาน..ที่ต้องการความรักและกำลังใจ..ผู้บริหารแบ่งเบาอะไรให้เขาได้บ้าง?

            ผมคิดว่า..ผมสำนึกดีมาตั้งแต่เป็นครู ติดตัวมาถึงผู้บริหาร จึงรู้สึกเบิกบานสำราญใจทุกครั้ง ที่มีส่วนร่วมด้วยช่วยกันทำงาน ทำไปพร้อมๆกับครู..

            ครูทุกคนมาทำงานกันแต่เช้า..ผอ.ก็เช้าด้วย  ความสุขเริ่มต้นทุกเช้าวันใหม่สมอ ยิ่งได้ช่วยสอนซ่อมเสริมด้วยแล้ว ความรู้สึกของผมเหมือนได้ค้นพบนวัตกรรม..

            ไม่มีสิ่งใดมีค่าเท่ากับคำสอนและเป็นตัวอย่างที่ดี ยิ่งให้ก็เหมือนยิ่งได้ คือได้บุญแน่นอน และสิ่งที่สะท้อนให้เห็นบ้างแล้วตั้งแต่ต้นเทอม คือเด็กอ่านได้ ลายมือสวย..

            วันนี้..มีนักเรียนย้ายมาเข้าใหม่ ส่วนใหญ่เจอแต่ปัญหา แต่งานนี้บอกตัวเองว่า ทำใจให้สบายๆ ยังไงก็ได้ดีหมด ปรากฏว่า..อ่านคล่องเขียนคล่อง..จนต้องให้กระเป๋าเป็นรางวัล..

            ก่อนหน้านี้..ทำใจลำบากต้องตั้งหลักอยู่นาน หาเหตุผลและให้คำตอบกับคำว่า..ทำไม..? ทำไม..ผู้ปกครองส่งหลักฐานและบอกว่าจะย้ายลูกมาเรียน ท้ายที่สุด..ก็ไม่มา..

            ทำไม..ผู้ปกครองหลายครอบครัวจึงมีปัญหา..มาสมัครเข้าเรียนอนุบาล ๑ แต่แล้วครอบครัวก็แตกแยก ทำให้ต้องหาที่เรียนใหม่ให้ลูก...

            รายล่าสุด..เด็กดีที่ครูรักมาก เรียนอยู่ชั้น ป.๖ ลูกหลานกรรมการโรงเรียนแท้ๆ ต้องย้ายติดตามแม่ไป โดยบอกใครไม่ได้ นอกจาก ผอ. เพราะพ่อ..ติดยางอมแงม..

            นักเรียนลดลงเรื่อยๆ..แต่ผมกลับไม่ทุกข์ และยังสนุกกับงานเหมือนเดิม เพียงแค่คิดว่า..นักเรียนมากน้อยแค่ไหนก็ได้ อย่างไรก็ต้องทำหน้าที่สอน..ให้ดีที่สุดเสมอ..

            วันนี้..เมื่อปีที่แล้วมีนักเรียน ๘๓ คน...ปีการศึกษานี้มี ๙๕ คน ก็เป็นข้อมูลในเชิงพัฒนา..ที่จะต้องเตือนหัวใจเหมือนกันว่า..จะต้องพัฒนาคุณภาพความคิดด้วย อย่าไปอะไรกับปริมาณ..ให้มันมาก.นัก

            บอกตัวเองว่า..จงให้เวลากับการพัฒนาตนเองด้วย..หลังจากตรากตรำทำงานมาทั้งวัน..เหนื่อยกายก็พักกาย เหนื่อยใจก็พักใจ..คืนกำไรให้กับความเป็นส่วนตัว..บ้าง

            อ่านและเขียนหนังสือที่ชอบ..พูดคุยกับคนที่ใช่..พักผ่อนหัวใจเท่าที่เวลาพอมี หาโอกาสไปท่องเที่ยวเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ พบเจอสถานที่แปลกใหม่ ..ใจก็เป็นสุข

            ผมคิดว่า..ป่าสวยน้ำใส ภูเขาที่เราเห็นไกลๆ ล้วนเป็นความทรงจำที่ดีงาม ภาพจะบอกเล่าเรื่องราว..การเดินทางของชีวิต..ประสบการณ์จะย้ำเตือนให้เราไม่หลงผิด ไม่ยึดติดกับความความงามและความสำเร็จ..จนมากเกินไป

            เมื่อหัวใจเป็นสุข..ไม่ร้อนรุ่ม..การพูดคุยกับครูในที่ประชุม..ก็ราบรื่นและจบอย่างสวยงาม..เมื่อแบ่งงานแบ่งหน้าที่ด้วยความรักความเข้าใจ..ผมไม่ลืมที่จะมอบความไว้วางใจ มอบอำนาจการตัดสินใจให้ครูผู้มีความรู้ความสามารถสูงสุดด้วย..

            จึงมีความรู้สึกที่อบอุ่น..กับการเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขอบคุณหัวใจตัวเอง..ที่ใคร่ครวญจนค้นพบความสุขเล็กๆจากการทำงาน..

            ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน..ที่ให้อภัยซึ่งกันและกัน..ไม่มีใครแก่เกินการเรียนรู้ ที่สุดแล้วก็ต้องยอมรับว่า..การยอมรับกัน..และอ่อนน้อมถ่อมตนนั้นดีที่สุด

            อย่าเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง..จงให้เวลากับเรื่องที่เป็นชีวิตและงาน ทำอย่างไร?..จะสานต่อความสุขได้ทุกวัน..โดยที่ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

            ผมคิดว่า..ผมได้ลองสื่อสารกับหัวใจแล้ว...จนพบจุดยืนที่งดงามและสงบเย็น..

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๓๐  พฤษภาคม  ๒๕๖๑

  

 

       

  

 

        

 

หมายเลขบันทึก: 647806เขียนเมื่อ 30 พฤษภาคม 2018 21:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2018 21:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท