เราคงจำเรื่อง องคุลีมาร กันได้.
และบางท่านอาจได้ยินเรื่อง แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่อง 7 ศพ ที่ดังกระฉ่อนโลก.
แต่ถ้าเทียบกับองคุลีมาร ผมบอกเลยว่าเทียบไม่ติดครับ...
ผมว่า องคุลีมาร คือ ฆาตกรต่อเนื่องอันดับ 1 ของโลก.
ถ้าจะแย้ง ก็ต้องหาคนที่ฆ่าคนอื่นด้วยมือเกิน 1,000 คน มาเทียบก่อนล่ะครับ
.
แล้วน่าอัศจรรย์แค่ไหนที่องค์บรมครู สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงเปลี่ยนใจบุคคลอันดับหนึ่งในด้านลบของโลกให้กลับตัวกลับใจ แบบฉับพลัน (Transform) ได้ !
นี่ผมกราบพระปรีชาของท่านด้วยความนับถือสุดหัวใจ กราบด้วยความซาบซึ้งที่สุด
นี่ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงประหารลูกเดียว ไม่มีทางครับจะเปลี่ยนใจคนแบบนี้ได้เลย !
.
ทีนี้มาลองวิเคราะห์กันครับ ว่าท่านทำได้อย่างไร ...
อย่างที่รู้กัน ท่านพาองคุลีมาร วิ่ง...
วิ่งไกลมาก วิ่งโยชน์หนึ่ง ระยะทางคือประมาณ 16 กิโล นี่เกือบๆ มาราธอน
ผมไม่ทราบว่า ท่านแสดงฤทธิ์ หรือท่านจะวิ่งจริง
(สมัยเป็นกษัตริย์ ท่านฝึกวิชาการรบมาก่อนครับโบราณมีทั้งวิชาทางจิต และทางกาย)
.
แต่ผลก็คือ องคุลีมาร ทิ้งอารมณ์ดุร้าย อยากประหาร
ตรงนี้ครับ ที่เป็นประเด็นเมื่อร่างกายเหนื่อย หรือเคลื่อนไหวมากๆจิตจะทิ้งอารมณ์ต่างๆ ...
สติจะกลับมาและสมองจะปลอดโปร่ง (สังเกตุเวลาเราออกกำลังกายก็ได้)
สติกลับมา ก็เริ่มสงสัย และร้องเรียกพระพุทธเจ้า"หยุดก่อน นักบวช หยุดๆ"
แล้วขณะนั้น องคุลีมารก็พร้อมจะรับฟังด้วยสติแล้วครับไม่หน้ามืดตามัวด้วยแรงพยาบาท หมายเอาชีวิต
"เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด"
ประโยคทอง ที่ท่านตรัส ก้องในความทรงจำของพวกเรา
ถึงกับทำให้องคุลีมารบรรลุธรรม !
.
จากฆาตกรอันดับหนึ่งกลายเป็นอริยบุคคลอันดับหนึ่ง (พระอรหันต์)โดยฉับพลัน
นี่คือความอัศจรรย์เกินบรรยาย
.
ที่หลวงพ่อเทียน สอนให้ฝึกความรู้สึกตัว
โดยการเคลื่อนไหว ให้มีสติ รู้สึกตัวก็ตรงกับเหตุการณ์ของพุทธกาลนี้
เป็นการกระตุ้นร่างกายทำให้จิตเกิดสติ เกิดสมาธิ และเกิดปัญญา
...เมื่อกายเคลื่อนไหว ใจจะนิ่ง ....
แค่เพียงรู้สึกตัว ก็เป็นหนทางแห่งการบรรลุธรรมได้
พ้นจากปัญหา ความทุกข์ทั้งปวง
.
กราบพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น และหลวงพ่อเทียนครับ
ไม่มีความเห็น