ชุมชนร่วมรังสรรค์แก้จุดเสี่ยง


พลังชุมชนร่วมแก้จุดเสี่ยง

อุบัติเหตุลดได้ถ้ามี “ใจ” ให้กัน

          ที่ชุมชนร่วมรังสรรค์ ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อถนนที่มีภายในหมู่บ้านมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ ขณะเดียวกันฝาตระแกรงปิดท่อระบายน้ำซึ่งอยู่กลางถนนก็พัง หลุดไม่เป็นชิ้นเป็นอัน คนในชุมชนลำบากต้องคอยหลบหลีก หากโชคร้ายรถตกหลุม ก็บาดเจ็บเลือดตกยางออก

          ชาวชุมชนต้องยอมรับความอันตรายตรงนี้มานาน โดยไม่มีการแก้ไข ทั้งๆ ที่อยู่ในชุมชนเมืองใหญ่ จนเมื่อทราบว่าทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีโครงการ “การจัดการจุดเสี่ยงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในชุมชน” ทางชุมชนจึงได้เข้าร่วมโครงการ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวชุมชน

            นายวัฒนชัย เปรุนาวิน ประธานชุมชนร่วมรังสรรค์ กล่าวว่า ภายในชุมชนมีประชากรประมาณ 1,300 คน จำนวน 700 ครัวเรือน กำลังประสบปัญหาจากถนนที่ใช้สัญจรภายในหมู่บ้าน ที่พังเป็นหลุมเป็นบ่อ ขณะเดียวกันตระแกลงเหล็กท่อระบายน้ำก็ผุพัง ซึ่งอยู่กลางถนนอยู่ในสภาพใช้งานไม่ได้ เหล็กโผล่ หรือเป็นหลุมบ้าง ทำให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องคอยหลับหลุม หรือบางรายที่สัญจรยามค่ำคืนมองไม่เห็น ก็จะขับรถตก เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งตนเองก็เคยประสบอุบัติเหตุจากถนนเส้นนี้มาด้วยเช่นกัน

            หลังจากได้รับการสนับสนุนจากสสส.แล้ว ประธานชุมชนร่วมรังสรรค์ ได้ชักชวนชาวชุมชนที่มีจิตอาสาแบบ “ใจแลกใจ” ขอแรงมาช่วยกันซ่อมแซม หาปูน ยางมะตอยมาเทปิดตรงส่วนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ส่วนตระแกรงท่อระบายน้ำที่ผุพังก็ช่วยกันซ่อมช่วยกันเชื่อมเหล็กให้ดีเหมือนเดิม เนินลูกระนาดสีซีดสีจางก็ทาสีใหม่ให้เห็นชัด

            “ทุกอย่างเราช่วนกันทำ ด้วยฝีมือของคนในชุมชน ไม่มีการจ้าง เพราะทุกคนทำด้วยใจ และทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม” วัฒนชัย กล่าวและว่า ซอยเปลี่ยว รกร้าง ไม่มีบ้านคนอยู่ จนกลายเป็นที่ประลองความเร็วของขาแว้นทั้ง และเป็นที่มั่วสุม ก็เป็นอีกหนึ่งจุดอันตรายที่ต้องรีบเข้าไปแก้ไข

          ประธานชุมชนร่วมรังสรรค์ กล่าวถึงอีกหนึ่งจุดเสี่ยงที่ต้องรีบเข้าไปแก้ไข ว่า ภายในหมู่บ้านจะมี 9 ซอย ซึ่งบางซอยจะไม่มีบ้านคน ข้างถนนจึงเป็นป่าหญ้ารกร้าง บางวันพวกเด็กซิ่งก็ไปแข่งมอเตอร์ไซค์กัน หรือคนที่สัญจรก็มองไม่เห็นไหล่ทาง ไม่เห็นโค้ง ไม่เห็นทางแยก เพราะหญ้าขึ้นรกไปหมด ก็ไปช่วยกันถางหญ้า ปรับสภาพภูมิทัศน์ใหม่ ให้โล่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ไปติดป้ายบอกทางเลี้ยว ทางแยก คนใช้รถจะได้มองชัด จะได้ชะลอ ลดการเกิดอุบัติเหตุไปได้มาก

          “ที่สำคัญสุด คือการสร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน เราติดป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อให้ทุกคนตระหนัก และช่วยกัน ขับรถช้าๆ ไม่ต้องรีบ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยหลังจากเฝ้าระวังมา 5 เดือน พบว่าไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเลยสักครั้ง”ประธานชุมชนร่วมรังสรรค์ กล่าว

          ความร่วมมือร่วมใจ และการทำเพื่อส่วนรวม ทำให้ชุมชนร่วมรังสรรค์สามารถจัดการได้ทุกปัญหา ด้วยพลังของคนในชุมชนเอง โดยไม่ต้องรอการช่วยเหลือจากภาครัฐ สมกับเป็น 1 ใน 62 ชุมชนต้นแบบของ ต.สำโรง และนี่คือ ความเข้มแข็งของชุมชนอย่างแท้จริง

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท