เทคนิค การทำตัวเองให้เก่งสุดๆ


โบราณท่านบอกใบ้ไว้แล้วครับ หัวใจนักปราชญ์ คือ สุ จิ ปุ ลิ.

ที่เราท่องๆ แล้วก็คืนครูไปน่ะครับ เราเอาหลักตรงนี้ มาฝึกตัวเองเลย จะได้เก่ง เป็นนักปราชญ์.

 สุ คือสุตะ การฟัง สมัยนี้ง่ายมาก เว็บต่างๆ มีความรู้ให้ดูเยอะมากๆ (ไม่นับเว็บไร้สาระนะ)

การอ่านหนังสือ และลงเรียนคอร์สต่างๆ ก็คือสุตะ เช่นกัน

 จิ = จินตะ ฝึกคิด อันนี้คู่กับ  ปุ  = ปุจฉา การถาม.

และเริ่มจากการสังเกตครับ หัดเป็นคนสังเกต และตั้งคำถาม.

เช่น สังเกตเห็นคนใส่ยีนส์ขาด  ก็ลองตั้งคำถามว่า การแต่งตัวแบบนี้ มาจากไหน ?

 แล้วลองหาคำตอบ เชื่อมไปยัง สุตะ คือการค้นคว้าหาคำตอบ

.

การสังเกต นี่สังเกตสิ่งที่เราสนใจครับ ...หรือสิ่งที่เราสุตะมาก็ได้.

แล้วก็ตั้งคำถาม มันคืออะไร ?/  ทำไม ? / อย่างไร ?

3 คำถามเปิดสมอง คือ What - Why – How

แล้วก็หาคำตอบกับอากู๋ครับ  กูเกิ้ลมีคำตอบเยอะแยะไปหมด

ทรัพย์สมบัติของคนที่มีอาชีพเป็นโค้ช คือ คำถาม ครับ

 ลิ คือ ลิขิต การเขียน ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของคนเลย  ที่ไม่ค่อยเขียนอะไร ถ้าไม่เกี่ยวกับงาน.

การเขียนเป็นการฝึกตน ฝึกคิดสังเคราะห์  ฝึกความจำ

ควรมีสมุดติดตัวไว้เล่มนึงครับ เมื่อเกิดความรู้ใหม่ๆ หรือปิ๊งแว้บอะไร ก็จดเอาไว้.

หรือ ถ้าเก่งกว่านั้น ก็วาดรูปประกอบด้วยครับ การวาด เป็นการฝึกสมองดีมากๆ . 

 นี่ละครับ สุ.จิ.ปุ.ลิ.  เคล็ดลับที่ทำให้เก่ง ไม่ยากเลย

หัวใจนักปราชญ์ จะมีประสิทธิภาพ  ผมเพิ่มเติมอีกว่า ต้องตั้งเป้า ครับ  

คนเราถ้าไม่มีเป้าหมาย ก็เคว้งคว้างเหมือนเรือไม่มีคนขับ ล่องลอยแล้วแต่กระแสคลื่นจะพาไป

ตั้งเป้าเล็กๆ ก่อน เช่นอ่านหนังสือ หรือดูคลิปความรู้ วันละ 5 นาที

หรือสังเกต ตั้งคำถาม หาคำตอบ สิ่งที่เราสนใจ วันละ 2 เรื่อง

หรือจดวันละหน้า จดอะไรก็ได้ อาจจะจดแบบไดอารี่ก็ได้

ตั้งเป้าเล็กๆ ก่อน อย่าทำมาก จะท้อง่าย ... พอทำจนชินแล้ว ค่อยขยับให้มากขึ้น

 การตั้งเป้าที่ดี ต้องจินตนาการก่อนว่า ถ้าเราเก่งขึ้น เราจะเทพแค่ไหน

ต้องเห็นภาพ และรู้สึกได้  ว่าความสำเร็จมันมีความรู้สึกที่สุดยอดแค่ไหน

จึงจะเกิดแรงบันดาลใจครับ สำคัญมากๆ ...ถ้าไม่มีแรงบันดาลใจ ทำอะไรไม่นาน  เดี๋ยวก็ล้ม

 ผมเอง จากคนไม่ค่อยอ่านหนังสือ อยากเก่งครับ จินตนาการภาพความสำเร็จตัวเองเลย

แล้วก็ตั้งเป้าเล็กๆ เลือกหนังสือที่ชอบมาอ่าน

ปี 59 ตั้งเป้าอ่านวันละ 5 หน้า พอชินแล้ว ก็ขยับมาจนเป็น 10 หน้า  

อ่านได้เดือนละเล่ม  ปีนั้นอ่านไป 10 เล่มครับ จากเดิม น่าจะปีละแค่ 2-3 เล่ม

ปี 60 เลยตั้งเป้า วันละ 30 หน้าเลย  กะว่าจะอ่านให้ได้ปีนั้น 30 เล่ม ปรากฏว่าทะลุเป้า ไปถึง 50 เล่ม !

ปีนี้ ตั้งไว้ 100 เล่มครับ และมั่นใจว่าได้แน่นอน  เพราะทุกวันนี้อ่านวันละ 80 หน้า

อ่านได้อาทิตย์ละ 2 เล่ม เป็นประจำ

.

อ่านแล้วก็จดโน้ตไว้  แล้วก็นำมาคิด หรือตั้งคำถามหาข้อมูลเพิ่ม ตามหลัก สุ.จิ.ปุ.ลิ.

แต่ละปี  ผมจดลงสมุดเล็กๆ  ไปเป็น 10 เล่ม รู้สึกได้เลยว่าตัวเองเก่งขึ้น คนรอบข้างก็มาขอความรู้ ขอคำปรึกษามากขึ้น

ชีวิตมีความสุขมากขึ้นครับ  มีความรู้ไว้จัดการกับสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ง่ายขึ้น

ผมเคยเขียนไว้แล้ว ชีวิตต้องการความรู้คู่ความสุข https://www.gotoknow.org/posts...

.

นี่แหละครับ สิ่งที่ผมทำมา แล้วมาแบ่งปันกัน

ยังคิดเลยว่า ถ้าผมทำแบบนี้ ตั้งแต่ยังหนุ่มๆ ป่านนี้ คงเป็นผู้เชี่ยวชาญ(นักปราชญ์) รวยหรือดังไปแล้ว

คิดได้เร็ว ทำได้เร็ว ก็ได้เปรียบครับ....

  .

ที่สำคัญคือ โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ถ้าเราไม่ปรับตัว ก็เสร็จครับ

ระวังนะครับ โลกกำลังพลิกโฉม  เปลี่ยนจากโลกออนไลน์ เป็นโลกออนไลท์ (แสง)

คอยดูซิครับ เราจะส่งหนังทั้งเรื่อง ผ่านแอ็ปได้ ภายในไม่กี่นาที !!

อีกไม่นาน สภาพแวดล้อม จะเปลี่ยนแปลงมากกว่านี้เยอะ ไม่นานจริงๆ ผมว่าจะเร็วกว่าที่คิดด้วย

หากเราไม่มีความรู้ มันคือความเสี่ยง

เสี่ยงรายได้ลดลง /เสี่ยงตกงาน /เสี่ยงโดนหลอก ครับ

.

นี่แหละครับ หัวใจนักปราชญ์ และ การมีเป้าหมาย

2 หลัก ที่จะทำให้เก่งขึ้นมากๆ แน่นอน ... เก่งแล้วจะมีความสุขครับ

ผมรับประกัน

หมายเลขบันทึก: 647367เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2018 08:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2018 08:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท