๗๑๖. ธรรมชาติไม่ได้ลงโทษ..แต่ให้เรามีงานทำ..


“....การทำความดีนั้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเอง ผู้อื่นไม่สำคัญ และไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องเป็นห่วงหรือต้องรอคอยเขาด้วย เมื่อได้ลงมือลงแรงกระทำแล้ว ถึงแม้จะมีใครร่วมมือด้วยหรือไม่ก็ตาม ผลดีจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน...”

             ลมฟ้าอากาศยามนี้..ก็เป็นเช่นนี้ทุกปี โดยเฉพาะในช่วงปิดภาคเรียน จะร้อนจัดจ้าน พอร้อนไปได้ราวๆ ๕ – ๑๐ วัน..ฝนก็จะเทลงมาให้ดับกระหายคลายร้อน..

            เดือนเมษายน..ความร้อนอบอ้าวที่ทับถมแบบสะสม..จะหอบลมให้มาพร้อมกับเม็ดฝน..ขึ้นอยู่กับว่าน้ำกับเนื้อ(ลมพายุฤดูร้อน) อันไหนจะมากกว่ากัน

            บางครั้ง..ก็มาหนักพอๆกัน..อย่างเดือนนี้ ก็สองครั้งเข้าไปแล้ว ไม่มีอะไรเสียหาย นอกจากเสียเหงื่อมากกว่าทุกวันเท่านั้น..

            เมื่อวาน..เก็บกวาดทำความสะอาดโรงเรียนอย่างเรียบร้อย..ตกเย็น..ฟ้ามืดมัวหม่น แต่ใจผมกลับแจ่มใส..คิดในใจว่า..รออยู่หลายวันแล้ว..ตกลงมาเลย..

            ผมรดน้ำต้นไม้ทุกวัน..ยังไหวอยู่แต่ไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร..รดด้านหน้าโรงเรียน ด้านหลังเอาไว้ก่อน รดน้ำที่แปลงผัก ก็ต้องเว้นสวนกล้วยไว้ สลับกันไปมา..

            ฝนตกแต่ละครั้ง..บรรเทาเบาแรงไปได้ ๒ – ๓ วัน..ต้นไม้ชอบน้ำฝนมากกกว่าน้ำสระ ส่วนน้ำในสระรวมทั้งปลาด้วย..ชอบน้ำฝน..ที่ช่วยมาเติมเต็มให้น้ำใสยิ่งขึ้น

            วันนี้.บรรยากาศที่โรงเรียน..หลังพายุฝนเมื่อคืน..ไม่รุนแรงเหมือนบางจังหวัดที่หอบเอาหลังคาบ้านเรือนไปด้วย แต่ที่โรงเรียนมีเพียงกิ่งไม้ใบไม้..มากกว่าเมื่อวันวาน

            ทุกพื้นที่ในโรงเรียนชุ่มฉ่ำ..ต้นไม้สะบัดใบ เขียวไสวไปทั่ว สดชื่นขึ้นมาทันตาเห็น ขอบคุณน้ำฝนที่เป็นใจ..มาถูกที่ถูกเวลา

            ผมจึงรักธรรมชาติที่เป็นแบบนี้..ไม่มีคำว่าโหดร้าย ไม่เคยทำร้ายจิตใจ เหมือนจะรู้ว่า..เหนื่อยหนักหนาแล้ว..ก็จะมาช่วยแบ่งเบาเป็นครั้งเป็นคราว..

            ธรรมชาติไม่เคยลงโทษคนที่คิดดีทำดี ผมคิดเข้าข้างตัวเอง..ธรรมชาติสร้างสรรค์เสียด้วยซ้ำ..ที่ช่วยให้เรามีงานทำ..อาจจะต้องทำมากกว่าปกติก็ไม่เห็นเป็นไร

            การได้ทำงาน..เป็นความเบิกบานของชีวิต..ไม่รู้ใครพูดไว้ ยิ่งทำยิ่งได้เหงื่อ ชุบชโลมใจ เหงื่อก็เหมือนน้ำมนต์ ช่วยให้ใจชุ่มชื่น เย็นลงไม่ต้องรีบร้อน..

            ยิ่งได้ทำงานในองค์กรของตัวเอง มีเพื่อนร่วมงานที่เป็นครูเวรประจำวันมาร่วมด้วยช่วยกัน..รู้สึกชื่นใจ ช่วยให้ความสะอาดสดใสกลับมาเป็นปัจจุบัน..

            คิดถึงวันที่..ไม่มีงานทำ ชีวิตจะเป็นอย่างไร? พอได้ทำงานในวันนี้ ก็รู้สึกตัวเองมีบุญอย่างมากมาย หลายคนอยากทำ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ..

            หลายคนอีกเหมือนกัน ทางราชการเปิดโอกาสให้ทำแล้ว แต่ไม่ไขว่คว้า ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป..เพราะไปยึดติดตัวกูของกู หรือมัวแต่ยืนดูมากกว่าลงมือทำ..

            บางคนถามผมว่า...ทำเองหมดแล้วใครจะทำ ผมคิดว่า..ผมทำได้ไม่หมดหรอก และการเป็นผู้นำ..ทำให้ดูอยู่ให้เห็น..เป็นตัวอย่างที่ดี ย่อมมีค่ากว่าคำสอน..

            บางคนถามผมว่า..ถ้าต่อไปไม่มีผมอยู่ในองค์กรนี้..จะทำอย่างไร? ใครจะทำต่อ..ข้อนี้ผมคิดว่าไม่น่าเป็นห่วง เพราะที่เรามีวันนี้ได้..ก็เพราะคนอื่นก่อนหน้านี้สร้างความดีไว้ให้ทั้งนั้น..โรงเรียนจึงมั่นคงดำรงอยู่..

            การทำวันนี้..มิใช่ให้ใครมาชื่นชม..แต่ทำหน้าที่ในสถานที่ที่เป็นราชการ อันเป็นส่วนหนึ่งของงานการศึกษา ยิ่งทำยิ่งศรัทธาในตัวเอง...

            โดยที่ไม่ต้องนึกถึงใคร หรืออะไรในอนาคต เพราะยังมาไม่ถึง แต่เชื่อเถิดว่า..พื้นฐานของวันนี้..จะสร้างสรรค์ปรากฎการณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในอนาคต...

            ดังนั้น..การมีงานทำและทำงานที่ดี ผลดีจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน..อย่างน้อยก็พบเห็นได้ทันทีหลังจากงานเสร็จ..คือความสำเร็จเรียบร้อยและสวยงาม..

            พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระบรมราโชวาท ความว่า..

            “....การทำความดีนั้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเอง ผู้อื่นไม่สำคัญ และไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องเป็นห่วงหรือต้องรอคอยเขาด้วย เมื่อได้ลงมือลงแรงกระทำแล้ว ถึงแม้จะมีใครร่วมมือด้วยหรือไม่ก็ตาม ผลดีจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน...”

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๒๗  เมษายน  ๒๕๖๑


หมายเลขบันทึก: 646770เขียนเมื่อ 27 เมษายน 2018 19:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2018 19:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เห็นด้วยค่ะท่าน ผอ.ฝนตกที ต้นไม้เขียวขจีมาก ชื่นชมอุดมการณ์ท่านค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท