บังกาปูตอน 26 ( ตอนจบภาคแรก ) ......... เข้าจับมือข้างถือปืนของมันกดดันกระแทกกลับเข้าไปหน้าอกมันที่เห็นด้ามมีดสั้นของเขาโผล่ออกมา สุดแรงเลือดที่ไหลออกมาตามขอบแผลแดงฉานทั่วอกแต้แรกพุ่งเป็นสายออกมาทันตา ด้วยรู้ว่ามันจะส่องปืนมาหาเขาแน่ มันชะงักเซถอยหลัเปะปะสองก้าว ยกมือขวาข้างถือปืนขึ้นกุมหน้าอกที่เลือดเริ่มพุ่งกระฉูดมาถูกหัวผมบ้างแล้ว แต่มันไม่ยอมปล่อยปืนในมือขวา มันถลันถึงตัวผมเร็วเกินคาด มันใช้มือซ้ายที่ว่าง จิกหัวผมให้เงยขึ้นมองหน้ามองมันและใช้ปลายกระบอกปืนในมือขวาจี้จ่อที่หน้าผากผมครูดไปครูดมาเหนือคิ้วทั้งสอง ผมก็ยื้อดันปากกระบอกปืนเบนให้ไปข้างหัวด้วยมือที่สั่นเทา มันก็ลากกลับมากลางกระบานผมอีก ผมออกแรงสุดท้ายดันกลับไปนอกแนวหัวได้อีกครั้ง แล้ว เสียง ปัง ก้องข้างหูผมราวฟ้าผ่า 1 นัด ทำให้ผมหูอื้อ หวิว แต่ยังทันได้ยินอีก สอง สามนัด ที่ดังเบา ๆ มาจากด้านตำรวจในเครื่องแบบในเฮลิคอบเตอรที่มาจอดอยู่ห่าง ๆ แต่แรกที่หางตาผมเห็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะรู้สึกว่ามันร้องโอ๊ยสุดเสียง แล้วทั้งมันและผมล้มฮวบลงกองทัที่บกันที่พื้นที่ยืนอยู่แต่แรกผม รู้สึกเลือนลาง ว่าร่างมันได้เปรียบที่ทับผมอยู่เต็มเปา แต่ มันไม่ไหวติงที่จะทำอะไรผมอีกเหมือนตอนแรก ร่างที่มีเลือดแห่งไหม่หลายจุดข้างหลังของมันหลายแห่งไหลพรูแข่งกันออกมาเป็นทางหยดลงที่หัวผมตลอดเวลา.......
............สามปีต่อมา เย็นวันนั้น ที่วัดไทยในเมือง ปูระ ท่ามกลางผู้คนล้นหลามทั้งชาวไทยและชาวปูระที่มานร่วมงานพระราชทานเพลิงศพนอกประเทศเป็นกรณีย์พิเศษ เสียงประกาศ “ ขอเรียนเชิญ พณฯ ท่านทูตถกลเดช และคุณหญิงสาวิตรี ขึ้นวางดอกไม้จันต่อผู้วายชนม์ " ระหว่างนั้น เสียงบรรยายสดุดีผู้วายชนม์พร้อมเพลงพญาโศรกเบา ๆแล้วเสียงบรรยายชื่อผู้วายชนย์ ว่า “ “บังกาปู คหบดี แห่งเมือง ปูระ กับ คหบดีเพื่อนชาวไทยของบังที่เสียชีวิตพร้อมกันบนดาดฟ้าตึก 4 ชั้น ในเหตุสะเทือนขวัญเมื่อ 3 ปีที่แล้ว. ".....คุณหญิงสาวิตรี ยกมือขึ้นไหว้รูปผู้เป็นบิดาบอกเบา ๆว่า พ่อคะ หนูได้เป็นคุณหญิงท่านทูตตามที่พ่อต้องการแล้ว ขอไห้วิญญาณของพ่อจงรับรู้และยินดีกับหนูกับขอให้คุณพ่อกับพ่อถกล จงไปเป็นสุขเถิด “ ขณะที่ ฯพณฯ ท่านทูตถกลเดช เพียงยิ้มน้อย ๆ ตามแบบฉบับ ขณะยกมือแตะกระบังหมวกแถบสีทองช่อไชยพฤกษ์ เครื่องแบบขาวเต็มยศ ต่อหน้ารูปผู้เป็นบิดาของตัวและของคุณหญิงที่ตั้งเคียงข้างกันนั้น กล่าวเบา ๆ สั้น ๆ ว่า ขอให้วิญญาณคุณพ่อทั้งสองจงไปเป็ยสุุข ๆเถิด" ด้วยท่าทีที่สง่าผ่าเผย............ท่ามกลางเสียงร้องกึกก้องของเหล่าผู้คนทั้งชาวปูระและชาวไทยในบริเวณท่ีร้องสลับกันว่า " ท่านทูต , คุณหญิงสาวืตรี,ท่านทูต,คุณหญิงสาวิตรี...ฯลฯตลอดเวลาจนรถประจำตำแหน่งท่านทูตเคลื่อนพ้นออกไป.จากบริเวณพิธี..........
.... จบภาคแรก.... ขออภัยหากชื่อละครในเรื่องไปตรงกับผู้ใด ขอให้ท่านผู้นั้นโปรดเข้าใจด้วยว่าผู้เขียนมิได้เจตนาโดยประการใด ๆแม้แต่น้อยนิด ทั้งสิ้น และขออุทิศความดีของเรื่องนี้หากมี ให้แก่อาบังขายถั่วชาวอินเดียในเรื่อง ผู้สำนึกในบุญคุณของผู้อื่นแม้ป็นเ รื่องเล็กน้อย และถือสัจจะของตัวเอง เป็นที่ตั้ง ตราบชั่วชีวิตร น่าถือเป็นแบบอย่างแก่ปุถุชนเช่นเรา ๆ ท่าน ๆ ไม่น้อย........
ไม่มีความเห็น