ผ่านไปแล้ว..๒ สัปดาห์..สภาพบรรยากาศของโรงเรียน..แม้ว่าจะร้อนอบอ้าว แต่ต้นไม้ก็ยังดูเขียวครึ้มและร่มรื่น..พืชผักสวนครัว ยังดูดีมีผลผลิตทุกวัน..
คิดคำนึงอยู่ว่า ถ้าฝนตกหนักมาสักครั้ง..คงขับไล่ฝุ่นละอองไปได้เยอะ ขณะเดียวกันก็จะได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โรงเรียนด้วย
วันนี้..อากาศร้อนอบอ้าวมากมายเป็นพิเศษ ผมจึงต้องหมกตัวอยู่ในอาคาร จัดเก็บเอกสารเข้าที่เข้าทาง..สะสางข้อมูลที่เกี่ยวกับอัตลักษณ์และสัญลักษณ์โรงเรียน
ปีการศึกษา ๒๕๖๑..ตั้งใจว่าจะกำหนดตัวชี้วัด ให้นักเรียนเข้าถึงอัตลักษณ์ให้ได้..เพราะอัตลักษณ์ มีนัยที่จะต้องสร้างให้เกิดขึ้นกับนักเรียนทุกคน
“สำนึกดีตามวิถีไทย” คืออัตลักษณ์..ที่กำหนดขึ้นมาแล้ว ๒ ปี..พบว่า..ทำได้ดีพอสมควร..ครูและนักเรียนแต่งกายผ้าไทย ยกมือไหว้ทักทายกัน..
โรงเรียนมีกิจกรรมส่งเสริมดนตรีไทย ร้องเพลงไทยเดิม การละเล่นพื้นบ้าน และศิลปะแม่ไม้มวยไทยและใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง ทั้งการอ่านการเขียน..
ในส่วนของ “เอกลักษณ์”โรงเรียน.. ได้มีการบูรณาการแหล่งเรียนรู้กับกิจกรรมการเรียนการสอน ที่สะท้อนเอกลักษณ์ได้ชัดเจน จึงกำหนดไว้ว่า “เศรษฐกิจพอเพียง”
ผลผลิตจาก..เศรษฐกิจพอเพียง ปีการศึกษาที่ผ่านมา..มองเห็นเป็นรูปธรรม สร้างผลกำไรเล็กๆ ด้านจิตใจ ทั้งไข่เป็ดไข่ไก่ และผักปลา
ส่วน “สัญลักษณ์” ยังยืนยงคงอยู่สืบไป โดยเฉพาะสีประจำโรงเรียนเป็นที่รู้โดยทั่วกัน คือ สีน้ำเงินกับสีเหลือง..โดดเด่นสะดุดตาและมีความหมาย..
สีน้ำเงิน หมายถึง..ครูและนักเรียนมีความรักชาติ มีความเข้มแข็งและมีความขยันหมั่นเพียร ใฝ่รู้ใฝ่เรียน..เรียนรู้สู้งาน
สีเหลือง หมายถึง ครูและนักเรียนมีคุณธรรมนำชีวิต มีความรักความสามัคคีในหมู่คณะ มีจิตอาสา และพัฒนาตนพัฒนางานด้วยความสุขและผ่องใส
“ต้นไม้” ก็เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของโรงเรียน..ตั้งแต่ผมมาอยู่ก็เห็นการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนมาตลอด นั่นคือ “ต้นพิกุล” ซึ่งมีเกือบ ๓๐ ต้น รอบๆอาคารเรียน
ผมศึกษาหาข้อมูล “ต้นพิกุล” ก็พบว่า..เป็นไม้ที่มีลำต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 8-15 ม. เรือนยอดแน่นทึบ เปลือกต้นสีน้ำตาลเทา มีรอยแตกระแหงตามแนวยาว
ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปรี รูปไข่กว้าง 2 - 6 ซม. ยาว 7 - 15 ซม.ปลายใบแหลมเป็นติ่งขอบใบเป็นคลื่น
ดอก เป็นดอกเดี่ยว อยู่รวมกันเป็นกระจุกที่ปลายกิ่งหรือที่ซอกใบ กลีบ เรียงซ้อนกัน 2 ชั้น ดอกสีขาว เมื่อใกล้โรยสีเหลืองอมน้ำตาล ดอกบานวันเดียวแล้วร่วง มีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดปี
ประโยชน์ของต้นพิกุล..ปลูกเป็นไม้ประดับและให้ร่มเงา ลำต้นใช้ในการก่อสร้าง ทำโครงเรือเดินทะเล เครื่องมือการเกษตร เปลือกต้น ต้มอมกลั้วคอ แก้เหงือกอักเสบ
ดอก มีกลิ่นหอม จัดอยู่ในพิกัดเกสรทั้งห้า เข้ายาหอม บำรุงหัวใจ แก้เจ็บคอ น้ำมันหอมระเหยจากดอกใช้ทาแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
โดยรวมๆแล้ว “ต้นพิกุล” ก็จัดเป็นไม้มงคลที่มีเสน่ห์ ชวนให้ปลูกไว้ให้ร่มเงาทั้งที่บ้าน วัด และโรงเรียน..ผมจึงถือเป็น..ต้นไม้แห่งสัญลักษณ์โรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย
คราวนี้..พอเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียน..ครูและนักเรียนก็จะต้องเข้าใจและเข้าถึง..ลึกซึ้งและผูกพันให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ..ผมจึงเขียนบันทึกสรุปไว้ดังนี้
ดอกพิกุล..ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ..หอมยาวนานตลอดทั้งปี..เปรียบเทียบถึงการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านหนองผือที่ค่อยๆปลูกฝังนักเรียนให้มีพื้นฐานของคุณงามความดี สะสมความดีเหมือนกลิ่นที่หอมอ่อนๆของดอกไม้ที่หอมไม่มากแต่หอมยาวนาน
ทุกส่วนของต้นพิกุลสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น ต้น ดอก ใบ ราก....เปรียบเหมือนโรงเรียนบ้านหนองผือ ที่ใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมที่มีในโรงเรียน ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียน
ไม่ว่าจะเป็น การสอนนักเรียนเลี้ยงไก่ไว้กินไข่....ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา เพาะพันธุ์พืช..สมุนไพร...ปลูกพืชสวนครัว...ไว้ให้แม่ครัวทำอาหารกลางวัน..
วันนี้..จึงมีความรู้สึกว่า อัตลักษณ์ เอกลักษณ์และสัญลักษณ์ของโรงเรียนที่กล่าวมา..มีความหมายร้อยรัดกันดี..เป็นหนึ่งเดียว..พร้อมที่ยั่งยืนสืบไป
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๔ เมษายน ๒๕๖๑
ไม่มีความเห็น