วัน เวลาผ่านไป...จะนับว่านานก็นาน จะคิดว่าไม่นานก็ไม่นาน...ชีวิตครอบครัวของฉันอบอุ่น ราบรื่นมาตลอด...อยู่ด้วยความรัก เข้าใจซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกันและกัน...มีความรัก ความอบอุ่นให้กันเสมอมา จนลูก ๆ แอบมาบอกพ่อเรกับแม่บุษว่า...ไม่เห็นครอบครัวคนอื่นเขาเหมือนกับพ่อและแม่เลย...คริๆๆ...พวกนายลักมองดูพ่อกับแม่ใช่ไหมล่ะ???..."ตัวอย่าง" ไงคะ?...เพราะพ่อเรกับแม่บุษ มีเรื่องใด เราจะหันหน้าคุยกัน ปรึกษาหารือกัน คอยแก้ปัญหาให้กันและกันมากกว่าที่จะมานั่งทะเลาะกัน...เราสองคนไม่มีคำว่า "ใครจะต้องเหนือกว่าใคร"...เราสองคนคิดแต่เพียงว่า...ทำอย่างไรที่จะทำให้ครอบครัวของเราไปตลอดรอดฝั่ง...นี่คือ เราสองคน
อาจารย์ภัครแอบมาบอกแม่บุษว่า...อยากได้คนนิสัยเหมือนแม่จัง!!! คริๆๆ เลือกแล้วนะคะ...คนเราแล้วแต่บุญ กรรมมากกว่า...ตลอดรวมทั้งการฝึกฝนตนเองโดยยึดหลักธรรมในการครองตน...ว่าแต่ละคนจะทำกันเช่นไร...แต่ชีวิตครอบครัวขึ้นอยู่กับเราจะวางตัวเช่นไร ที่จะให้คนข้างๆ เขาอบอุ่น ให้เกียรติเรา เข้าใจเรา ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวของเราเองประพฤติ ปฏิบัติตนเองด้วย...จะคิดเอาแต่ใจตนเองไม่ได้...รู้จักหน้าที่ ความรับผิดชอบต่อครอบครัว...ไม่เอาแต่ใจตนเองมากกว่า นี่แหล่ะ!!! คำว่า "ครอบครัว"
มา ณ บัดนี้ พ่อเร - แม่บุษ...เพียงพอกับการใช้ชีวิต...รอคอยดูความเติบโตของลูก - หลานอยู่ห่าง ๆ...ทำแค่เป็นเพียงตัวอย่างให้ลูก - หลานได้ดู เห็นเท่านั้น...จะนำไปทำแบบอย่างหรือไม่ นั่นขึ้นอยู่กับพวกท่านทั้งหลายนะคะ...
เพราะเราสองคนเข้าใจชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัวดีพอที่จะทำให้เราสองคนอยู่อย่างสงบสุข...มิมีทะเลาะเบาะแว้งกัน...เท่านี้เองที่ชีวิตพวกเรามีความสุข...ผลพวงอาจเพราะว่าพวกเรามีครอบครัวที่ดี อบอุ่นมาก่อน และสิ่งสำคัญเราลำบากกันมาก่อน จึงทำให้ทราบว่า...วิธีที่จะทำให้ชีวิตครอบครัวมีความสุขได้นั้น ควรทำกันอย่างไร?...
เกือบ ๓๗ ปีเต็มแล้วสินะ!!!...ที่เรายังรักกัน ดูแลซึ่งกันและกัน มา ณ บัดนี้ อยู่เพื่อดูแลกัน เป็นเพื่อนกันยามแก่เฒ่า...ดังคำโบราณที่ว่า..."ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร"...ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณที่ยังรักกัน...
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
บุษยมาศ แสงเงิน
๑๑ เมษายน ๒๕๖๑
ไม่มีความเห็น