ชีวิตพอดี@เลย(วันที่สาม:ตอนที่2 ภูเรือ)



♡♡เที่ยวเมืองเลย"ชีวิตพอดี@เลย" 

17-21. มีนาคม 2561. ไปเที่ยวเมืองเลยกับเพื่อน สว.ค่ะ นำโดยท่านผอ.จันทร พลสิงห์ โดยฤทัยรัตน์ทัวร์ มีคุณทัยเป็นผู้นำทัวร์ คณะของเรามีสมาชิก สว. จำนวน  9  คน ท่านผอ.จันทร-อาจารย์ชนิดา  พลสิงห์    อาจารย์จิตวัต-อาจารย์กัลยา ธนอัญญาพร   อาจารย์ศิริพร ใยทองคำ  อาจารย์พรรณี  อฆรรยกุล    คุณกมลทิพย์  ทิพย์กรรณ     อาจารย์สุทัศน์-อาจารย์สคราญ  วิเศษสมบัติ(ผู้เขียนบันทึกนี้)

เยี่ยมชมหู่บ้านไทดำได้เวลาพอสมควร  ประมาณ  11.00 น. สาย ๆ วัน ที่ 19  มีนาคม  2561 กลับขึ้นรถเดินทางไปทางสาย เลย-ภูเรือ ประมาณ 15 กิโลเมตร ผ่านบ้านไร่ม่วง บ้านกอไร่ใหญ่ บ้านเสี้ยวใต้ พอถึงบ้านเสี้ยวเหนือให้เลย ไปอีกนิดหนึ่ง จะเจอทางแยกขวา และมีศาลาริมทาง ให้เลี้ยวขวาเข้าอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะถึงสถานที่ล่องแพห้วยกระทิง เพื่อทานอาหารกลางวันบนแพ  คณะเรามาถึงที่นี่ใกล้เที่ยง จะมีเรือนแพตั้งอยู่เรียงรายตามขอบอ่างเก็บน้ำประมาณ 7-8 ร้าน เลือกได้ตามชอบว่าจะให้บริการของแพ เจ้าไหน โดยสามารถเลือกรับบริการได้ทั้งบนแพริมฝั่ง ซึ่งเหมือนซุ้มอาหารทั่วไป หรือให้ทางร้านเขาลากแพออกไปกลางน้ำตรงมุมใด มุมหนึ่งของอ่างเก็บน้ำนี้ก็ได้  โดยเสียค่าบริการล่องแพ 300 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเล่นน้ำสามารถเช่าเสื้อชูชีพและห่วงยาง ไปเล่นกลางน้ำได้อีกด้วย   โดยแต่ละที่จะมีขนาดแพให้เลือก พวกเราลงแพที่จอดเรียงรายทั้งสองฝั่งเพื่อทานมื้อกลางวันค่ะ 

อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง หรือเรียกอีกชื่อว่า อ่างเก็บน้ำหมานตอนบน  ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.เลย  ในพื้นที่การดูแลของวนอุทยานหริรักษ์ เป็นอ่างเก็บน้ำสันเขื่อนดิน   มีขนาดความจุ 26 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 1,500 ไร่ สันเขื่อนยาว 800 เมตร สร้างเพื่อ การชลประทาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งใน ที่บรรยากาศเป็นธรรมชาติล้อมรอบด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของป่าไผ่ และภูเขาที่โอบล้อม กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาใช้เวลาในวันพักผ่อนที่นี่ก็คือ การล่องแพพักผ่อน พร้อมทานอาหารท่ามกลางวิวทิวทัศน์ และบรรยากาศที่สวยงาม ร่มรื่น และเย็นสบายจากลมที่พัดมาในอ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง ที่นี่มีแพร้านอาหารให้บริการหลายเจ้ามีอาหาร ให้บริการหลากหลาย ส่วนมากจะเป็นอาหารอีสาน เช่น   ส้มตำ  ลาบ ยำ ปลานิลเผา  อาหารพื้นบ้าน ไก่ทอดสมุนไพร เป็นต้นเมื่อจัดอาหารให้เราครบตามที่สั่ง  ก็มีเรือมาเทียบแล้วลากแพออกไปกลางน้ำ ทอดสมอเรือแล้วบอกพวกเราว่าถ้าจะกลับให้ยกธงขึ้น  เขาก็จะมาลากเรือเรากลับ  พวกเราใช้เวลาอ้อยอิ่งในแพร่วมสองชั่วโมง อิ่มแล้วนอน บรรยากาศเอื้อต่อการหลับโดยเฉพาะพวกเรา สว. อิ่นแล้วต้องนอนหลับสักงีบ ดื่มด่ำกับธรรมชาติ  สุดยอดค่ะ  คงยืดอายุได้อีกหลายปี

ประมาณ 14.00 น.  ออกจากที่นี่ ไปวัดวัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง เวลา 15.00 น.ถึงวัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย หรือวัดภูเรือมิ่งเมือง ชื่อเดิมวัดพระกริ่งปวเรศ ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามของขุนเขาที่ขึ้นสลับซับซ้อนกันไปมาในอำเภอ ภูเรือ จังหวัด เลย  และเป็นที่ประดิษฐาน องค์พระพุทธรูป พระพุทธเจ้าไภสัชยาคุรุไวฑูรยประภา จอมแพทย์ (พระกริ่งปวเรศ) บรรจุองค์พระบรมสารีริกธาตุเพื่อบรรจุไว้ที่องค์พระปฏิมากรนี้ ตัวอาคารมีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรมที่งดงามยิ่ง หลังคาที่ผสมผสานความงามสไตล์ไม้สนซีดาร์ ผลิตมาจากFiber Cement ที่ใช้นวัตกรรมขั้นสูง น้ำหนักเบา งดงามตามแบบ Natural Look มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย โบสถ์วิหารงานไม้สลักอลังการ พระนอน พระวิหาร นาคหัวบันได แกะจากหินหยกแม่น้ำโขง แท่งตันๆ สวยงาม 

ประมาณ  16.00 น. ออกจากที่นี่จุดหมายต่อไป คือน้ำตก ปลาบ่า  น้ำตกปลาบ่าอยู่ที่บ้านตาดสาน ต.ปลาบ่า อ.ภูเรือ จ.เลย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านตาดสาน และ อ.ภูเรือมากนัก จึงเป็นที่นิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกตาดสาน หรือน้ำตกปลาบ่าก็ได้
น้ำตกปลาบ่าอยู่ห่างจาก อ.ภูเรือ ประมาณ 17 กม. ห่างจากถนนเลย-หล่มสัก บริเวณแยกบ้านกกโพธิ์-แสนเอี้ยม ประมาณ 6 กม. แต่หากจะใช้เส้นทางที่ใกล้กว่า มีอีกเส้นทางหนึ่งเพียง 8 กิโลเมตรเท่านั้นถ้าหากมาจากตัวอำเภอเมืองเลย คือให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างโรงเรียนชุมชนภูเรือ ไป ต.ปลาบ่า ประมาณ 7-8 กิโลก็จะเจอกับป้ายทางเข้า น้ำตก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 1กิโลเมตร 

 น้ำตกปลาบ่า เป็นน้ำตกที่เกิดจากความต่างระดับของชั้นหินในลำน้ำสาน สูงประมาณ 10 เมตร น้ำตกปลาบ่าเป็นน้ำตกที่เกิดจากสายน้ำไหลมาตามลำห้วยเล็กๆ แล้วแผ่ออกบนลาน หินกว้างประมาณ 15 เมตร แล้วไหลลดหลั่นต่อไปตามลำห้วย    พวกเรามาตอนเข้าหน้าแล้งน้ำค่อนข้างน้อย  แต่ดูจากสภาพแล้วนับว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง บริเวณน้ำตกมีความร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนมากทีเดียว รถยนต์ก็เข้าถึงได้สะดวก 

จบโปรแกรมวันนี้...คืนนี้พักที่ภูเรือบุษบารีสอร์ท. 17.30 น.  ออกจากที่นี่ เพื่อเข้าสู่ที่พัก "ภูเรือบุษบา รีสอร์ท" ประมาณ 18 นาฬิกาถึงที่พัก  ได้รับการต้อนรับจากพนักงานด้วยดี พร้อมถ่ายรูปคณะของเราเก็บไว้ด้วย

เราได้พักห้องหมายเลข 2 แต่เป็นห้องแรกของที่นี่ บรรยากาศของที่นี่สุดยอดตั้งแต่หน้าห้อง  สวยงามและโรแมนติกมาก สุดยอดค่ะ


เก็บสัมภาระแล้ว  รอไปทานข้าวพร้อมกัน ขอเก็บภาพกับมุมสวยๆในภูเรือบุษบารีสอร์ท. 

ประมาณ  19.00 น.  ทุกคนพร้อมไปทานข้าวมื้อค่ำกับบรรยากาศสบาย ๆ ใน ภูเรือบุษบา รีสอร์ท

อิ่มแล้ว  กลับเข้าที่พัก  พักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ ภูเรือ ....



หมายเลขบันทึก: 646074เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2018 11:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม 2018 13:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เห็นกุ้งฝอยทอดเป็นแพแล้วหิวข้าว  ไปหาข้าวกินก่อนละค่ะ

ขอบคุณบันทึกสนุก  รายละเอียดสำหรับคนใหม่เดินทางตามได้ง่ายนะคะ

ขอบคุณค่ะ   ตามสว.ไปเที่ยวกันนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท