ฉันอยากมีเซ็กส์ครั้งแรก


…คิดแล้วก็ขำ หากถามผมเมื่อตอนเป็นเด็ก ว่าโตขึ้นอยากทำอะไร ในความทรงจำแรกสุดนั้น ผมจำมันไม่ได้เสียแล้ว ไอ้ที่อยากขับเรือ ขับรถไฟ ทำอะไรต่ออะไรเนึ่ยมันโคตรจะมีสาระและน่าเบื่อเป็นที่สุด ที่ว่าน่าเบื่อก็เพราะว่ามันเป็นรูปแบบชุดคำถามและความคิดที่ดูผิวเผิน ประหนึ่งว่าไม่รู้จะคุยอะไรกันก็ถามเรื่องนี้ออกไปก่อน เอาเข้าจริงๆ ความฝันในช่วงที่เริ่มมีความทรงจำเป็นตัวเป็นตนและน่าตื่นเต้นที่สุดก็น่าจะเป็นช่วงที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่นนั่นเอง

อันนี้สิ ผมยังจำมันได้แม่นยำ

“ผมอยากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจริงๆบ้าง”

ฮ่าฮ่าฮ่า คงต้องเหลือกตาขึ้นไปอ่านซ้ำอีกที อ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมอยากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจริงๆก็คิดดูสิ เมื่อย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม เราจะถูกครอบงำด้วยอิทธิพลของฮอร์โมนเพศเข้าเต็มๆ ไหนจะเริ่มมีกล้ามเนื้อเป็นรูปเป็นทรง หนวดเครา หนวดหัวหน่าวก็ล้วนแทงขนขึ้นยุบยับ และท้ายที่สุดมันก็มา“ไข่จ้อง”

ผมจำได้ว่า ในบ่ายๆของวันหยุดสุดสัปดาห์คราวนั้น ผมกำลังวิ่งเล่นกับน้องๆอยู่บนกองไม้ สมมติว่าเรากำลังทำงานบนเรือบรรทุกสินค้า เรือเรากำลังจะเข้าเทียบท่า ผมรับหน้าที่คนออกคำสั่งการเทียบเรือ ผมสั่งให้น้องแกว่งเชือกแล้วโยนไปยังต้นมะขามข้างๆแล้วดึงให้เรือเราเข้าฝั่งอย่างช้าๆ “เรือกองไม้”และฉับพลันทันใดที่เรือเราเริ่มถูกดึงเข้าฝั่ง“อุ๊ย…” จู่ๆผมก็รู้สึกปั่นป่วนในหัวใจ มันกระเส่าเร่าร้อนบอกไม่ถูก จะว่าเป็นลมแดดก็ไม่น่าจะถูกต้องนัก (อันที่จริงตอนนั้นก็ไม่เคยเป็นลมกับเขาสักที) รู้สึกได้ว่าไข่กำลังแข็งตึง ผมเอามือคลำๆมัน“อูย…ใช่เลย ไข่มันจ้องและรู้สึกแปลกมากในการได้จับไข่ตัวเองในตอนนั้น”

ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไร แต่จะรอให้เรือเทียบฝั่ง ผมคงบ้าตายไปเสียก่อนเป็นแน่แท้

“พี่แป๊ะไปไหน” เสียงน้องตะโกนไล่หลัง“เดี๋ยวมา” ผมตะโกนตอบตัวหอบโยน เพราะออกวิ่งเต็มเหนี่ยวผมไม่รู้ว่า นั่นมันคืออารมณ์เพศ ผมไม่รู้ว่าการมีเพศสัมพันธ์คืออะไร ผมไม่รู้เลยว่า ในวันนั้นตอนนั้น ถ้าผมเอามือกำไข่รูดขึ้นรูดลง มันจะเป็นการช่วยตัวเองและปลดปล่อยอารมณ์ที่พลุ้งพล่านตอนนั้นได้

“ไม่มีใครเคยสอน”

ผมวิ่งขึ้นบนบ้าน แล้วพุ่งลงไปบนที่นอน นอนกอดหมอนข้างหนีบเข้าหว่างขาอย่างแน่นบนบ้านผม บ้านที่พ่อสร้างขึ้นมาจากความยากจน ฝาบ้านเป็นไม้ หลังคามุงด้วยกระเบื้องลอนคู่ แดดยามบ่ายเผากระเบื้องจนทำให้บ้านชั้นบนกลายเป็นเตาอบอ่อนๆ ผมห่มผ้า เหงื่อแตก ใจสั่นระริก“เฮ้ย…มันดีจัง” แต่มันยังไม่หาย ผมทำอะไรไม่ถูก นอกจากนอนตื่นเต้น ตกใจ และความประหม่าก็มาครอบคลุมจิตใจอยู่พักหนึ่ง

แล้วมันก็หายไป ไข่เริ่มนุ่มและอ่อนตัวลง มันหดกลับมาขนาดเท่าเดิม ผมลงจากบ้านไปด้วยตัวเปียกเหงื่อโซก จะทำหน้าที่เทียบเรือต่อ แต่น้องๆมันไปเล่นขายข้าวแกงกันเรียบร้อยเสียแล้ว

………………..

“เฮ้ย สวัสดี เป็นไงบ้าง เธอมีลูกกี่คนแล้ว” ถือเป็นคำทักทายเสมือนหนึ่งคนที่รู้จักกันดี“๒ คนแล้วล่ะหมอ คนเล็กเพิ่งเกิดได้ไม่ถึงปี” เธอตอบ

ผมนึกถึงเมื่อราวเกือบ ๓ ปีที่แล้ว “เธอ” ที่ผมกล่าวถึงคนนี้มีที่มาที่น่าสนใจผู้หญิงรูปร่างหน้าตาสะสวย ยิ้มเก่ง ช่างเจรจาคนนี้เธอเคยทำงานในสถานบริการอาบอบนวด“แล้วพ่อของลูกในท้องนี่ มีลูกมีเมียอยู่รึเปล่าวะ” ผมถามออกไปในขณะที่มือขวากำลังถือแถบจุ่มลงในถ้วยใส่ฉี่ และพบว่ามันขึ้น ๒ ขีดที่ถามแบบนี้ก็เพราะผมรู้สึกว่า ผู้หญิงบางคนมีความพร้อมที่จะใช้ชีวิตแบบนี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวมีอยู่จริง“มีแล้วค่ะหมอ เมียเค้าก็กำลังท้องอยู่เหมือนกัน” นั่นไง ผมเดาผิดเสียเมื่อไหร่“แล้วไม่กลัวบ้านเขาแตกเลยรึไง” ผมย้อน“แหม…หมอ ผู้ชายเค้าเลี้ยงหนูได้ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย เดี๋ยวเค้าก็เคลียร์กับเมียเค้าได้เองแหละ” เธอตอบแบบผู้ไตร่ตรองมาอย่างดี

นั่นคือการสนทนาเมื่อครั้งกระนู้น

“แล้วตอนนี้ชีวิตคู่ของเธอเป็นยังไงบ้าง สามียังเป็นคนเดิมอยู่ใช่ไหม” ผมอยากรู้ อันที่จริงก็มีความระลึกถึงกับทุกคนที่รู้จักและสนิทกันระดับหนึ่ง“ก็คนเดิมนั่นแหละค่ะ” เธอยิ้มไปตอบไป“แล้วเมียหลวงล่ะ” เธอคงคิดในใจว่าผมจะสงสัยอะไรมันนักหนาวะ“เราสนิทกันแล้วค่ะหมอ คุยกันได้เหมือนเพื่อน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปข๊อปปิ้งด้วยกัน ลูกก็รุ่นเดียวกัน เรารักใคร่กันดี” เธอตอบมา“โห แม่งเท่ว่ะ” ผมมีแววตาลุกโชน“แต่ผัวหนูมันไม่ค่อยชอบที่เราสองคนสนิทสนมปรองดองกัน” เธอทำท่าเหมือนคนหงุดหงิด“เอ๊า บ้าแล้ว ทำไมล่ะ” ผมอุทานเมื่อถูกตัดอารมณ์ตื่นเต้นลง“ก็มันกำลังไปติดผู้หญิงอยู่อีกคน เราสองคนก็ไม่ยอม เวลาเราสามัคคีกัน ผัวหนูมันบอกว่า สามัคคีคือพลัง มันสู้ไม่ไหว” เธอไม่ยิ้มตอบเมื่อผมหัวเราะออกมาเสียงดัง“แล้วรู้สึกยังไงล่ะ ที่ตอนนี้เธอกำลังจะกลายเป็นเมียหลวงกับเค้าบ้าง เอ๊ะ..ฉันถามผิดไปไหมวะ หรือต้องถามว่า เธอทั้งคู่กำลังจะกลายเป็นเมียหลวงสินะ” ผมเย้าเธอออกไปในขณะที่มือขวาถือแถบจุ่มลงในถ้วย เหลือกตามองดูคู่สนทนาตรงหน้าแล้วบอกไปว่า“ยินดีด้วย รอบนี้ลูกคนที่ ๓ ยังไม่มาเกิดนะจ๊ะ”………………

ผมเฝ้ารอการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจริงๆหลังจากที่รู้ว่า ความสุขจากการช่วยตัวเองนั้นมันดีและสนุกยังไงยิ่งไปกว่านั้น ผมเคยมีประสบการณ์ฝันเปียกกับเขาด้วย และมันก็ยอดมากจริงๆ อย่างที่เขาว่ามา เสียดายอย่างเดียวที่การฝันเปียกแต่ละครั้ง ผมไม่เคยเปียกเพราะฝันว่ามีเพศสัมพันธ์กับใครเลยสักที ส่วนหนึ่งก็จะฝันว่าถูกลูบบ้างคลำบ้าง ในความฝันครั้งหนึ่งผมได้เจอกับผู้หญิงตั้ง ๓ คน เธอยืนเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าผม ตอนนั้นใจผมมันสั่นระรัว “แม่เจ้า ผมจะได้เธอทั้ง ๓ คน” แล้วผมก็จัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออก ค่อยๆก้าวขาออกไปหาเธอ แล้วก็บรรจงช่วยตัวเองจนถึงจุดสุดยอดทางเพศ “ฝันเปียก” เปียกจริงเปียกจัง แฉะจนอายผีบ้านผีเรือน และอายตัวเองกูอุตส่าห์ฝันเปียก แต่ฝันเปียกเพราะช่วยตัวเองเนี่ยนะ เสียของเป็นที่สุด

ธนพันธ์ ชูบุญกับความฝันอยากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก๙ มีนาคม ๒๕๖๑

หมายเลขบันทึก: 645603เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2018 14:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม 2018 14:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

จะให้ลูกชายอ่านไปป่ะเนี้ยะหมอแป๊ะ ยังไม่รู้ว่าควรคุยกับลูกได้แล้วหรือยัง เมื่อวานลูกตอนอยู่ที่สนามบินลูกถามว่าทำไมฝรั่งที่สนามบินเขาต้องจูบกันนานๆ แล้วเอาลิ้นเข้าไปด้วย จูบแบบจุ๊บๆ เบาๆ ก็ได้แล้วไหมแม่ เออ...ลูกครับ คนรักกันเขาก็จะทำกันอย่างนั้นกับคู่รัก แต่ต้องไม่ทำในที่สาธารณะนะลูก แหม! เด็กมันช่างสังเกตจริงๆ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท