วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๑มีการประชุมกรรมการมูลนิธิพูนพลัง ซึ่งตามปกติประชุมกันทุกๆ ๒ – ๓ เดือน เพื่อหารือกันเรื่องกิจกรรมของมูลนิธิ
ปี ๒๕๖๐ มีการสนับสนุนเงิน๑๐๐,๐๐๐ บาทสร้างห้องน้ำแก่ บ้านแห่งความหวัง (เดิมชื่อบ้านพักกาสะลอง)มูลนิธิเกื้อกูล (เดิมชื่อมูลนิธิไทยลาหู่)ตั้งอยู่ที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่อุปการะที่พักพิงและเรียนหนังสือแก่เด็กชาวเขา ได้รับฟังเรื่องราว ดูรูป และอ่านจดหมายขอบคุณจากเด็กๆ แล้วผมเกิดความรู้สึกว่ามูลนิธิเกื้อกูลกับมูลนิธิพูนพลังเป็นเครือข่ายการทำเพื่อผู้อื่น
ผมตีความว่าเป้าหมายหลักของมูลนิธิพูนพลังคือการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคุณภาพคน เป็นภาคประชาชนหรือภาคประชาสังคมที่แบ่งเวลา ทรัพยากร และสมรรถนะส่วนหนึ่งในการทำประโยชน์แก่ส่วนรวม แก่ผู้อื่น เน้นที่การช่วยให้เด็กและเยาวชนด้อยโอกาสได้มีโอกาสชีวิตที่ดีขึ้น
เราคุยกันว่ารัฐบาลกำลังจะจัดให้มีกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (๑) ซึ่งหากรัฐบาลเดินหน้าแจกเงินแก่นักเรียนยากจน มูลนิธิพูนพลังจะต้องเป็นเป้าหมายการทำงาน(เปลี่ยน businessmodel) ซึ่งผมเสนอให้คิดถึงการไปสนับสนุนให้กลไกในพื้นที่ดำเนินการพัฒนาพื้นที่สองในสาม สำหรับพัฒนา ผลลัพธ์การเรียนรู้ (๒) ของเด็กและเยาวชนในพื้นที่
เนื่องจากเวลานี้มูลนิธิพูนพลังให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนสายอาชีวะ ซึ่งยังอายุน้อย และบ่อยครั้งมีสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เปราะบาง ต้องการคนแนะนำปัญาชีวิต เราจึงคุยกันเรื่องวิธีจัดให้มี peer mentoring แก่ผู้รับทุนระดับอาชีวศึกษา เราคุยกันเรื่องอาสาสมัครเยี่ยมน้อง
เอามาเล่า เพื่อบอกว่าในกระแสสังคมตัวใครตัวมัน และมุ่งผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลักนั้น สังคมไทยยังมีคนเล็กคนน้อยภาคประชาชนที่มุ่งทำเพื่อประโยชน์สังคม
วิจารณ์ พานิช
๒๘ ม.ค. ๖๑
ไม่มีความเห็น