จีน…วิจารณ์การศึกษาของไทย


จีน…วิจารณ์การศึกษาของไทย

นายอานนท์ ภาคมาลี (คนหาปลา ข้าราชการบำนาญ)

จีน…วิจารณ์การศึกษาของไทย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 61 ได้รับไลน์จากเพื่อนๆส่งมาให้  จีนรักไทยจริงใจ…วิจารณ์การศึกษาของไทย แบบตรงๆ…อ่านแล้ว เศร้าใจจัง…การศึกษาไทยในมุมมองของจีน ห่วยสุดๆ ตั้งแต่ระดับมัธยม จนถึงระดับมหาวิทยาลัย

  1. สถานทูตจีน เขียนรายงาน (เป็นภาษาจีน)ระบุการศึกษาบ้านเราเน้นแต่ด้าน ศิลปะศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การตลาด บริหารธุรกิจ ซึ่งจบมาแล้วไม่มีงานทำ ความรู้กระจอก สักแต่ให้มีใบปริญญา ไม่ได้สร้าง value – added ใดๆ นักวิทยาศาสตร์ การวิจัย แทบจะเป็นศูนย์ Guanmu อดีตเอกอัครราชทูตจีน บอกว่า 25 ปีที่ผ่านมา ไทยผลิตยางยังไง ก็ยังทำแบบนั้น ไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม ทำเป็นยางรถยนต์ ยังไงก็ยังทำแบบนั้น ไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม ทำเป็นยางรถยนต์ หรือสิ่งประดิษฐ์อะไรเองไม่เป็น สร้างคิดอะไรไม่ได้
  2. มหาวิทยาลัยไทย รวมไปถึงมหาวิทยาลัย…… กิจกรรมเน้นแต่หลีดโชว์หล่อ – สวย แต่โง่ ไม่มีการฝึกงานอะไร ที่เป็นประโยชน์ เด็กขอเงินพ่อ – แม่ เที่ยวกลางคืนไปวันๆ โชว์วัตถุนิยม ว่ารถกูขับอะไร สังคมมันวัดกันแค่นี้ (เห็นมากับตา) พวกดีๆก็มีแต่มันน้อย เอาจริงๆนะ ผมว่ามีแค่ 10% ในขณะที่เด็กสหรัฐฯพวกMIT Stanford หรือเด็กจีนชิงหัว ปิดเทอม พยายามหางานทำ ฝึกงาน UN World Bank JP Morgan หรือมาค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิญาในไทย
  3. จ่ายครบจบแน่ ปริญญาขยะเต็มบ้าน คือหางานไรทำไม่ได้ มีแต่ยากจะรวย “ผมจะทำธุรกิจ” คือมันคิดอะไรไม่ออก นอกจากขายของ นอกจากนี้ยังมีทุจริตผันงบกระทรวงศึกษาให้ทุนกู้ยืมเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน ที่มีนักการเมืองเป็นเจ้าของสุดท้ายหนี้สูญ เพราะเด็กบ้านนอกได้มาเข้ากรุง สักว่าได้ปริญญาประดับบ้าน แต่หางานทำไม่ได้ ปีหมดเงินภาษีประเทศชาติไปหลายหมื่นล้าน เรื่องเลวๆนี้ไม่เคยถูกตรวจสอบ
  4. ภาษาอังกฤษ ห่วยแตกขั้นเทพ จริงๆอาจารย์มหาวิทยาลัย……ส่วนใหญ่ ลอกบทความฝรั่งมาแปล ไม่มีความคิดอะไรที่ใหม่ หาน้อยคนที่จบระดับโลก ไปดู CV เอาเอง จบมหาวิทยาลัยห้องแถว B –class ทั้งนี้ งานวิจัยขยะ copy/paste เต็มไปหมด ครูมัธยมเอาแค่โรงเรียนในกรุงเทพฯ ผมเคยถูกเชิญไปพูดยังออกเสียงสะกดศัพท์ไม่ถูกเลย จะสอนเด็กให้ถูกได้อย่างไร แล้วโรงเรียนอำเภอปัวในจังหวัดน่าน มันจะ ห่วยแตกขนาดไหน ลองคิดดู
  5. ความรู้ใหม่ๆหรือเทคโนโลยี มันหมุนเวียน เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งคนไทยรู้แต่ภาษาไทยตัวเอง ไม่มีความสามารถ แข่งขันอะไร ในระดับโลก โลกทรรศน์สุดจะแคบ สำนักข่าวไทยรายงานแต่เรื่องเส็งเคร็ง ไม่ได้สร้างสรรค์คุณค่าความรู้อะไรคนนั้นท้องกับคนนี้ ไปทำงานมาหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บอกได้เลย นักเรียนไทย โคตรจะขี้เกียจ ไม่รู้ปีหนึ่งๆอ่านหนังสือกันกี่เล่ม รัฐบาลไหนจะคิดกันแก้ไขบ้างหนอ. ขี้เกียจ ปริญญาซื้อหาได้ กลายเป็นคนโง่ ขึ้นไปอีกคน เพราะมีใบประกาศ มีทิฐิเพิ่ม หมิ่นเงินน้อยทำอะไรไม่เป็น คิดสร้างสิ่งใหม่ๆไม่ได้ เบียดเบียนครอบครัวประเทศชาติ เป็นภาระปัญหาสังคม ไร้คุณภาพอ้างตกงานที่แท้ขาดความรู้ความสามารถทุกอย่างชอบจะซื้อ จะกิน จะอยู่แบบสบาย      ขาดการศึกษา กล่อมเกลาจิต ไม่มีความอดทนต่อสู้ เป็นคนงอมืองอเท้า อาศัยผู้อื่น สมองคนอื่นไปวันๆ โตแบบแก่งแย่งชิงดีกัน ไม่มีทีมเวิร์ค    เริ่มแต่แย่งสมบัติของพ่อ-แม่ ปู่ย่า ตายาย ต่อไปบ้านเมืองจะวุ่นวายเพราะคนในชาติคิดสร้างไม่เป็น หมดสมบัติชาติผลาญหมด ผลาญทรัพยากรวัวควายไร่นาป่าไม้แร่ธาตุหมดแล้วจะกลับมาอยู่อย่างเดิมก็ไม่ได้ จบ ป.โท ป.เอก ทำไร่ไม่ได้ หากินเองไม่ได้ อนาคตเป็นทาสเขา เด็กขาดคุณภาพ ก็เป็นผู้ใหญ่ไร้คุณภาพ เป็นคนชราก็เป็นภาระประเทศชาติแน่นอน มีใบประกาศ ใบปริญญาแต่สังคมโลกไม่ยอมรับก็สูญเปล่า ต้องรีบแก้ไขเรื่องเหล่านี้ด่วน เร่งพัฒนาสังคม
หมายเลขบันทึก: 644831เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2018 18:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2018 18:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท