ผู้เขียนจะรู้สึกเฉยๆสำหรับวันวาเลนไทน์ ไม่ให้ความสำคัญสักเท่าไหร่ตั้งแต่วัยรุ่นยันวัยปัจจุบัน แต่ก็ไม่ถึงกับแอนตี้ไม่รับไม่ร่วมกับวัฒนธรรมนี้ ใครจะให้สติ๊กเกอร์มาติดที่เสื้อก็รับ ใครจะให้รูปหัวใจสีชมพู สีแดง ก็รับและขอบคุณทุกคนด้วยเช่นกัน
แต่เช้าวันนี้แปลกกว่าทุกปีตรงที่คนข้างกายได้ตัดช่อกุหลาบหน้าบ้านที่กำลังผลิบาน ก่อนจะไปทำงาน เธอบอกว่าจะนำไปให้น้องๆที่ทำงาน(นี่ถ้าเธอเอามาให้ผู้เขียนคงตกใจแย่ ฮา) คำว่าน้องๆคือหลายคนแต่จะมีคนพิเศษตรงที่ให้ราคาช่อกุหลาบจากหัวหน้ารุ่นคุณแม่ของพวกเธอ (คงเล่นๆกัน)ผู้เขียนถามถึงจุดประสงค์พลางหัวเราะ แต่ก็ช่วยตัดหนามกุหลาบและห่อด้วยหนังสือพิมพ์ให้เธอเสียบกระเป๋าสะพายไป
ตั้งแต่จีบเธอเมื่อตอนวัยหนุ่มสาว ก็ไม่เคยซื้อกุหลาบให้ใคร แม้กับคนที่แต่งงานด้วย และก็ไม่เคยได้อะไรที่เป็นสื่อในวันนี้ ปีนี้ดูแปลกที่คนข้างกายรู้สึกตื่นเต้นไปกับเด็กๆรุ่นลูก แต่มันก็ทำให้รู้สึกดี เป็นเรื่องดี ที่คนเราจะมอบความรักความปราถนาที่ดีต่อกัน
ผู้เขียนถึงที่ทำงาน น้องในออฟฟิสรีบนำติดสติ๊กเกอร์มาติดืั้อกเสื้อ บางคนกลัดรูปหัวใจให้ มองแต่ละคนในวันนี้ดูวับแวมไปด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ สวยสดุดตาบนอกเสื้อ บนไหล่ บนบัตรพนักงาน สีหน้าแววตาแต่ละคนก็ดูสดชื่นมีความสุข ไลน์ เฟส สื่อออนไลน์ทั้งหลายต่างส่งความสุขในรูปของหัวใจให้กัน เสียงดังนิ๊งน่องๆกันแต่เช้าในวันนี้
คงเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วสำหรับวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว ที่ย่อมอินเนอร์ไปกับวันนี้ ที่บางครั้งเราอาจจะมองดูว่าเป็นวัฒนธรรมอื่น ไม่ใช่ของไทย เห็นเป็นของเห่อไปตามกระแส และเกินเลยไปบ้างตามประสาวัยรุ่น และมองว่าตัวเองเลยวัยนั้นมาแล้ว
และในวันนี้ผู้เขียนได้โทรศัพท์คุยกับลูกสาวถามไถ่ถึงอาการปวดหัว ไม่สบาย บอกความเป็นห่วงให้กินยา พักผ่อนให้มาก เครียดกับการเรียนมากก็ควรพักบ้างหากไม่ไหว
ผู้เขียนตั้งใจจะส่งรูปกุหลาบหน้าบ้านลงในไลน์กลุ่มพ่อแม่ลูกเราสามคน แต่ส่งผิดไปไลน์กลุ่มที่ทำงาน จะพิมพ์ขออภัยส่งผิด ก็ไม่พิมพ์ ไม่เป็นไรนี่ ถือว่าเราส่งความรักให้แก่ทุกคนในวันนี้
วันวาเลนไทน์ ...
.....................
ไม่มีความเห็น