บทสรุป บาปบริสุทธิ์ ด้านการศึกษา (ในทัศนของข้าพเจ้า)


จากที่ได้กล่าวโทษระบบการศึกษามามากแล้ว ประมาณว่า สอนจริง เรียนไม่จริง โรงเรียนดี แต่ครูไม่ดี หรืออะไรกันแน่น กล่าวคือ นักเรียนที่เรียนในโรงเรียนที่ว่าดีๆ แต่กลับได้การสอนที่ไม่ดี ทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง ต้องไปหาเรียนเสริมข้างนอกอีก ทั้งๆที่ ไหนว่าเราก็หาโรงเรียนดีๆ มีชื่อเสียง ให้ลูก ก็น่าจะสอนดี นักเรียนเรียนรู้เรื่อง ไม่จำเป็นต้องไปหาเรียนเสริมด้วยซ่ำ “โรงเรียนก็อ้างว่า นักเรียนได้ดีจากการสอนในชั้นเรียน” แต่ที่ไหนได้ นักเรียนที่ได้ดีหล่าวนั้นต้องไปหาเรียนเสริม เรียนพิเศษต่างๆ เอง สถาบันที่สอนเสริมก็อ้างอีกว่าผู้เรียนได้ดีเพราะมาเรียนเสริม ไม่ได้มาจากโรงเรียน ถ้าโรงเรียนดี แล้วทำไมต้องเรียนเสริมอีก ถ้าครูสอนดีนักเรียนก็ต้องเข้าใจในชั้นเรียน ก็ไม่น่าต้องไปหาเรียนพิเศษอีก จริงไม๋ครับ........
มักมีใครๆ กล่าวว่าได้แต่ติ ติได้ก็น่าจะบอกได้ว่าจะแก้อย่างไร จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายบทความที่จะเขียน แต่คิดๆ เขียนเป็นบทสรุปไปเลยดีกว่า การศึกษาที่มีแต่ต้องหาเรียนพิเศษ เรียนนอกระบบต่างๆ นานา นั้นผมขอสรุปเลยว่าหากเป็นผมจะทำอย่างไรน่ะครับ

  1. ฐานการเรียนรู้ กล่าวคือ หากคุณเคยตามข่าว ประเทศจีนได้มีโครงงานอยู่โครงงานหนึ่งนานมากว่า 15 ปีมาแล้วที่ผมทราบ นั้นคือ จีนได้ขอซื้อลิขสิทธิ์หนังสือต่างๆ ทำเป็น e-Book ให้กับมหาวิทยาลัยในประเทศจีนได้อ่านฟรี กว่า 1 ล้านเล่ม ปัจจุบันผมว่ามากกว่านั้นแล้ว ด้วยแนวคิดนี้ หากมหาวิทยาลัยทุกแห่งได้ลงขันกัน หรือรัฐอาจลงทุนให้ก่อนสัก แสนเล่ม ขอซื้อลิขสิทธิ์ หนังสือที่ต้องการใช้ในการเรียนการสอนในรูปแบบ e-Book โดยสร้างระบบห้องสมุด e-Book แห่งชาติ มีรายได้จากการ ลงทำเบียนเรียนของนักศึกษา นักศึกษาจะต้องลงทะเบียน ชำระค่า e-Book ด้วย อาจเป็นรายเทอม ตามวิชาที่ต้องใช้ แล้วนำเงินที่ได้นี้มาหมุนเวียนระบบ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ขนายระบบ และหาหนังสือ e-Book เข้ามาเพิ่มเติม
  2. ลูกทุ่งเข้าสู่กรุง กล่าวคือ เรามักเห็น นักเรียนมากมายไปเที่ยวหาที่เรียนติวเตอร์ๆ ต่างๆ คณิตศาสตร์บ้าง ภาษาบ้าง ติวเข้าที่นั้นที่นี้ ทำไมไม่ติดต่อ หรือเปิดโอกาสให้ติวเตอร์เก่งๆ เหล่านี้ เข้ามาสอนในชั้นเรียน หรือมีการเปิดสอนใน ระบบโรงเรียนในตอนเย็น เวลา หรือช่วงปิดเทอม โดยใช้ โรงเรียนเป็นที่สอน ติวเตอร์จะได้ไม่ต้องไปหาเช่าที่แพงๆ แล้วก็มาเก็บค่าเรียนแพงๆ โดยแบ่งเป็น
  • การจ้าง ครูอัตราพิเศษ ให้ติวเตอร์ตามสมัครใจ ได้มีที่สอน มีหลักแหล่ง และมีความมั่นคง เข้าสู่ระบบการศึกษาในระบบ
  • การจ้าง ครูกรณีพิเศษ สำหรับติวเตอร์ที่ไม่ต้องการเข้าในระบบราชการ และทำงานแบบอิสระ ให้สามารถเข้าไปสอนในสาขาพิเศษ เฉพาะกิจ การจัดการฝึกอบรม ต่างๆ
  • การนำการสอนเรียนลัดเข้าระบบ กล่าวคือ ปัจจุบันมีการเรียนการสอนที่เป็นการเฉพาะ จากประเทศนั้น ประเทศนี้ เพียงติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ วิธีการสอน อาจส่งครูไปเรียน แล้วกลับมาสอนในโรงเรียน (โครงการแม่ไก่) หรือให้สถาบันเล่านี้เข้ามาเปิดห้องสอนในสถานศึกษาเลย โดยคิดค่าเรียนตามจริงในราคาถูกลง เนื่องจากลดต้นทุนค่าสถานที่ การตลาดในการหาผู้เรียน โดยนักเรียนคนไหนสนใจก็สมัครเรียนได้เลยตามเวลาที่จัดให้ เรียนในโรงเรียน ดีกว่า ใช้เวลาในรถเดินทางเป็น ชม. ไปเรียน แค่ชม. ตามห้าง แล้วยังต้องเสียเวลากลับบ้าน ทมั้งยังมีค่าใช้จ่ายในห้างฯ ต่างๆ อีก

3. ใครเก่งก็เข้ามาวัด การคือ การจัดทำระบบสัมฤทธิ์ผล คงได้ยินกันจนชิน “ความรู้ไร้พรมแดน” แล้วลืมไปแล้ว แต่จริงๆ จุดสำคัญไม่ได้ว่าได้ความรู้มาจากไหน จุดสำคัญคือ ถ้าเขามีความรู้นั้นๆ แล้ว จะมีอะไรวัดว่าเขามีความรู้นั้นจริง และสามารถนำหลักฐานนั้นมาแสดง เทียบเป็นรายวิชาในระบบการศึกษาได้ ด้วยการสร้างหน่วยงานที่สามารถวัด และประเมิน เพื่อออกประกาศรับรอง ความรู้ เฉพาะทาง
อ่านแล้วอาจ งง งง ถ้าต้องทราบที่มาที่ไปก็ต้องไปหาย้อนอ่าน ฉบับที่ผ่านๆ มาล่ะครับ แต่นี้ก็เป็นเพียง แนวคิดตามทัศนะส่วนตัว

หมายเลขบันทึก: 644220เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2018 18:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มกราคม 2018 18:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท