การตัดสินใจ เป็นระบบการคิดระดับสูง.
เพราะต้องใช้ความคิดที่ซับซ้อนหลายชั้น ต้องประมวลข้อมูล / ประสบการณ์ / มีวิจารณญาณ / การชั่งใจ / การคิดถึงผลกระทบล่วงหน้า และที่สำคัญคือต้องมีสติ / มีความกล้าและมีการคาดเดาที่แม่นยำด้วย.
เห็นไม๊ครับ ต้องคิดหลายขั้นตอนมาก และแถมใช้ พลังจิตด้วย.
ถ้าพิจารณาให้ดี การตัดสินใจ มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตหลายด้าน แล้วเราก็ใช้ทุกวัน วันละหลายๆ ครั้งด้วย โดยอาจไม่รู้ตัวเลย.
ฉะนั้น คนที่ตัดสินใจได้เฉียบคม เป็นคนที่มีความคิดชั้นยอด และมีพลังผลักดันชีวิตชั้นเยี่ยม เขาจะไม่ค่อยประสบปัญหาต่างๆ หรือแม้ประสบก็แก้ปัญหาได้ดี มีพลังในเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และย่อมประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอนที่สุด
เจอคนตัดสินใจเก่งนี่ พนันได้เลยว่าเขาทำอะไรๆ สำเร็จแน่นอน ...ท้าพนันเท่าไหร่ก็ได้.
ตรงข้ามกับชีวิตของคนตัดสินใจมั่วอย่างหน้ามือกับหลังเท้า(ตีนน่ะแหละ ไม่ต้องแอ๊ปสุภาพ) ... ตัดสินใจมั่ว ชีวิตก็มั่ว การตัดสินใจผิดนิดเดียว บางทีถึงกับชีวิตตกวูบทันที ตกแบบไม่ฟื้นก็ได้เลยล่ะ
.
คนมีคู่ ตัดสินใจผิดเป็นไงล่ะครับ...?? ...ถึงมีคำว่า การแต่งงาน คือการเดินทางลงสู่นรก ! ไง.
และผมเห็นหลายคนนะ ที่เค้าเก่งมาก คิดเก่ง ทำงานเก่ง แต่กลับทำงานในตำแหน่งหน้าที่ไม่สมกับความเก่งเอาซะเลย สาเหตุสำคัญเพราะการไม่กล้าตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงการทำงาน หรือพูดง่ายๆ ไม่มีพลังในความคิดด้านการตัดสินใจ. คนไม่มีพลัง ก็ไม่มีความกล้าจะก้าวออกนอก Comfort zone ... ติดกรอบเดิมๆ ไม่มีพลังจะทลายกรอบออกมาได้.
อย่าคิดว่าคนฉลาดๆ จะตัดสินใจเก่งนะครับ บางคนที่คิดมากเกิ๊น พวกเหตุผลเยอะนี่แหละตัดสินใจช้า(ชิ๊บหาย) ร่ายเหตุผลอยู่นั่นแหละ ...แถมยังตัดสินใจผิดได้ง่ายด้วย อย่าคิดว่า การมีเหตุผลเยอะจะทำให้ตัดสินใจได้ดีนะครับ ไอ้เจ้าเหตุผลเยอะๆ นี่แหละกรอบอย่างหนาเลย.
การตัดสินใจเป็นทักษะที่ต้อง "เก่งเหนือฉลาด"
.
ดูซิครับ ที่มีมีข่าวฆ่ากันตายเพราะแค่เพียงขับรถปาดหน้ากันเท่านั้น เพราะตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่นด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
ชักปืนมายิง แล้วสุดท้ายตัวเองติดคุก พ่อแม่ลูกเมียลำบาก ส่วนคนที่ตาย พ่อแม่ลูกเมียก็ลำบาก ... มีแต่เสียกับเสียเห็นไหมครับ ! นี่คือผลกระทบอันใหญ่หลวงเกินคาดฝันจากการขาดพลังในการตัดสินใจ ทั้งนั้นเลย
.
.
มาดูกันด้านชีววิทยาก่อน สมองที่ใช้ในการคิดตัดสินใจ คือสมองส่วนหน้า ที่มีชื่อเรียกยากๆ ว่า พรีพรอนทอล คอร์เท็กซ์ ซึ่งมันจะเจริญเต็มที่ตอนอายุ 50 ปี ครับ ! แสดงว่า นอกจากการสั่งสมประสบการณ์แล้ว ยังเกี่ยวกับสรีระของเราด้วย
สังเกตไหมครับว่า คนที่อายุมาก จะตัดสินใจได้ดีกว่า และเขาก็จะเป็น CEO, ที่ปรึกษา หรือผู้บริหารระดับสูง ที่ต้องการการตัดสินใจที่เฉียบคม
.
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นและทั้งโน้น ใครมาอ่านโพสนี้ก็ถือว่าโชคดีสุดๆ ไม่ต้องรออายุ 50
ผมก็มีวิธีการฝึกการเพิ่มพลังการตัดสินใจ มาสอนกัน และก็ต้องง่ายแบบกล้วยๆ เลยให้สมชื่ออาจารย์กล้วยด้วย
ขอสารภาพก่อนว่า ที่มาสอนนี่เพราะความเจ็บใจครับ... อ้าว !
คือเจ็บใจตัวเองที่คิดว่า ทำไมพึ่งจะรู้ (วะ) ... ถ้ารู้ตั้งแต่อายุยังน้อย ป่านนี้นะ ...สตีฟ จ๊อบส์แล้ว (เก่งนะ ไม่ใช่ตาย)
โธ่... ถ้ารู้เคล็ดลับแบบนี้ เราคงไม่ตัดสินใจอะไรมั่วๆ ไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์ ไม่มีทิศไม่มีทาง แบบที่ทำผิดพลาดมาหลายครั้งในชีวิต
แต่ความเจ็บใจก็สร้างแรงบันดาลใจ อยากให้องค์ความรู้ที่เรามีได้ช่วยเหลือคนอื่นได้ จึงมาสอนกัน
.
.
โม้มานานแระ เริ่มนะครับ
วิธีฝึกคือ ไม่ว่าเราจะไปไหน ไปห้าง ไปเที่ยว หรืออยู่บ้านก็ได้ พอเห็นของอะไรก็ตามหลายๆ อย่าง
ให้เราลองคิดแบบเหตุการณ์จำลองว่า เมื่อเห็นของหลายๆ อย่างนั้น ...ให้รีบคิดว่า...
1. เราจะเลือกอะไร ...ให้คิดอย่างรวดเร็ว
2. และเพราะเหตุ ใด มีหลักเกณ์อะไร
.
ตัวอย่างนะครับ : เราไปห้าง เราเห็นเสื้อแขวนโชว์หลายตัว เราลองคิดอย่างรวดเร็วว่า เราจะเลือกตัวไหน ?
หรือของอะไรก็ได้ครับ หลายชิ้นอาจยากไป อาจจะเริ่มจากการเปรียบเทียบสองสิ่งก่อนก็ดี เพื่อความง่าย
เห็นแล้วพยามตัดสินใจให้ไวที่สุด มองแล้วรีบปั๊ปเลย... แล้วค่อยมาคิดย้อนกลับว่า เพราะอะไรถึงเลือกตัวนี้ ?
พิจารณาว่าเหตุผลของเรามันโอเคไหม ทบทวนอีกทีว่า ที่ตัดสินใจลงไป มันดีแล้วหรือยัง
ใช้อะไรเป็นหลักเกณฑ์การตัดสินใจ อันนี้สำคัญมากนะครับ ต้องคิดว่า ใช้อะไรเป็นหลักเกณฑ์
ทบทวนว่าเราคิดใช้อารมณ์แบบไหน ใช้เหตุผลอะไร แล้วมันสมควรหรือเปล่า
มีอะไรที่เราพลาดไปไหม ตัดสินใจผิดหรือเปล่า ?
ความสำคัญคือเราจะเป็นคนมีหลักมีเกณฑ์มากขึ้น หรือพูดง่ายๆ มั่วน้อยลง !!!
แล้วเราก็จะค่อยๆ "ยั้งคิด" มากขึ้น... อันนี้ครตสำคัญอีก
สาเหตุหลักที่คนเราตัดสินใจผิด นอกจากประสบการณ์น้อยแล้ว ก็เพราะขาดสติ / ขาดการยั้งคิด และขาดการคิดทบทวนตัวเองน่ะแหละครับ
.
สาวๆ ลองมองหนุ่มก็ได้ครับ ไม่ผิดกติกา มองแล้วก็คิดตัดสินใจว่าจะเลือกคนไหนมาแต่งงานด้วย...น่าสนุกมะ
แล้วก็คิดทบทวนย้อนกลับแบบที่ผมสอนไปแล้ว โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหรือผิด
ถ้าตัดสินใจผิด ก็ผิดแต่ในจินตนาการ ไม่เสียหายอะไรนี่ ....
แหน่ะ รู้นะ เดี๋ยวเอาไปใช้ในที่ทำงานแหง๋ เลย ไปลองคิดว่าถ้าตัดสินใ จกับคนนี้แล้วเป็นไง +++ อ้ะ จริงๆ ก็ดีนะครับ ถ้าไปฝึกที่ทำงานเราจะได้ติดตามผลว่า ที่เราคิดน่ะ มันคิดถูกหรือคิดผิด เราคิดว่าน่าจะเป็นคนนี้ เพราะคิดว่าเขาเท่ นิสัยดี แต่ดูนานๆ อาจไม่ใช่ก็ได้
การตัดสินใจก็คือการคาดเดาอนาคตด้วย
.
วิธีนี้ทำได้ทุกที่ทุกเวลาที่นึกได้ อยู่ที่ไหนก็ทำได้หมดเพราะเป็นเหตุการณ์จำลอง เจ๋งไม๊ล่ะ... เป็นการฝึกทักษะการคิดเร็ว และการทบทวนหาเหตุผล และ เราจะมีสติมากขึ้น คิดมีหลักการมากขึ้น ขีดเส้นใต้คำว่า สติด้วยเลยครับ ครตสำคัญ
ฝึกให้สนุก ฝึบ่อยเข้าๆ วันผ่านไป เดือนผ่านไป จะเกิดความเคยชิน เราจะเห็นพัฒนาการทางความคิดได้เองเลยครับ มีหลักการมากขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น ทำอะไรผิดพลาดน้อยลง ...และฝึกนานเข้าก็เกิดเป็นความชำนาญ ที่เรียกว่า มีปฏิภาณครับ
ปฏิภาณ คือคุณสมบัติของผู้มีความคิดระดับสูง...คนมีปฏิภาณแล้ว ความคิดมันจะเป็นอัตโนมัติเลย
ทีนี้ เวลาเจอเหตุการณ์จริงเราจะคิดได้ไวมากครับ เคยฝึกแล้วไง มีประสบการณ์ทางจิตมาก่อน ... มันจะคิดเก่งขึ้นหลายๆ ด้าน สามารถประยุกต์มาใช้ตัดสินใจในทุกๆ เรื่อง จะเลือกแฟน เลือกงาน เลือกทำสิ่งต่างๆ มันเทพไปหมด... จะเก่งจนคนรอบข้างแปลกใจเลยล่ะ
.
ประสบการณ์ของผมเองหลังจากที่ฝึก เวลาฉุกเฉิน เช่น รถกำลังจะพุ่งมาชน เราจะตัดสินได้อย่างเร็วมาก ว่าจะเบรกแล้วหลบทางไหน
หรือเวลาจะทำโครงการอะไร มันคิดล่วงหน้า ตัดสินใ จได้เหมือนไม่ได้คิดเลย....(แต่มันประมวลผลเรียบร้อยแล้ว) คนระดับ CEO มาฟังความคิดเรา เขายังยอมรับเลย ...
.
ง่ายไม๊ครับ แบบนี้ ถ้าไม่ง่ายเสียชื่ออาจารย์กล้วยหมด แม้จะดูง่าย แต่เห็นผลที่ได้ไหมครับ มันครตสำคัญทั้งนั้น สุดยอดจริงๆ
บอกแล้ว ถ้าผมฝึกแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ นะ .... โธ่ ไม่อยากจะพูดเลยว่าจะเทพแค่ไหน...คิดแล้วก็เจ็บใจอีกที
แต่ตอนนี้ก็ไม่สายครับ ...เก่งเมื่อไหร่ก็มีความสุขเมื่อนั้น
.
วิธีนี้ผมได้จากหนังสือของ หลวงวิจิตรวาทการครับ ขอให้เครดิตท่าน ด้วยความนับถืออย่างสูง
และที่สุดยอดกว่านั้นท่านยังบอกว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องการตัดสินใจอย่างเฉียบคม คือในกรณีที่เราคิดไม่ตกจริงๆ ว่าจะเลือกอะไรดี จะคิดกี่มุมๆ จะยกมาร้อยเหตุผล จะตีลังกาคิดแล้วก็ตัดสินใจเลือกไม่ได้
ท่านทรงสอนว่า “จงตัดสินใจเลือกโดยที่คิดว่า เมื่อเลือกสิ่งนี้ไปแล้วจะไม่เสียใจในภายหลัง”
ฟังแล้วแทบจะกรี๊ดแบบตุ๊ดจริงๆ ... แต่ขอเป็นน้อมเศียรก้มกราบแทน เดี๋ยวจะเสียจริยาอันดี
ท่านทรงพระปรีชาญาณมาก ธรรมะพุทธองค์นี้สุดลึกล้ำ จนไม่รู้จะบรรยายยังไง
ฝึกกันนะครับ เห็นอะไร นึกได้ ฝึกตัดสินใจทันที ... จะได้ไม่มาเจ็บใจในภายหลังเหมือนผม
ผมล่ะอยากให้คนไทยเก่งๆๆๆๆ ไม้ยมกซักล้านตัว !
เก่งแล้ว มาเล่าให้ฟังบ้างนะ
....(*_*)...
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย อ.กล้วย วิชาจีบ ใน ปัญญาญาณแบบพื้นๆ
I have been told and still remember this advice: "when face with difficult options, choose the 'hard one'. Because good is harder to do.
;-)