วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๑ ผมไปร่วม “การประชุมวิชาการเพื่อพัฒนาเครือข่ายสังคมสุขภาวะและนโยบาย” หรือที่เรียกกันในภาษาไม่เป็นวิชาการว่า “กลุ่มสามพราน” วันนี้ประชุมกันเรื่อง การเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินของประชาชนตามแนวคิดการกระจายอำนาจ นำเสนอโดย เลขาธิการ สพฉ. (สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ) นพ. ไพโรจน์ บุญศิรินำชัย และ นาย พิเชษฐ์ หนองช้าง
ผมนำเรื่องนี้มาเล่าด้วยความสุข ที่เห็นบริการการช่วยชีวิตหรือบริการสุขภาพฉุกเฉินของประเทศเราก้าวหน้าถึงเพียงนี้ และมีการทำงานวิชาการเพื่อพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน มีข้อมูลสำหรับใช้พัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง คนไทยควรดีใจ ที่จะได้รับการดูแลปัญหาสุขภาพฉุกเฉิน ดีขึ้นเรื่อยๆ
ที่สำคัญยิ่งคือ new mindset ว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน ที่ใช้แนวคิดบูรณาการ ไม่คิดแคบอยู่เฉพาะบริการในโรงพยาบาล แต่มองบทบาทของฝ่ายต่างๆ ในสังคม มีระบบจัดการเพื่อให้ฝ่ายต่างๆ เหล่านั้นเข้ามามีส่วนร่วมกันทำให้คนไทยได้รับการดูแลช่วยชีวิตได้ทันท่วงที มีการสร้างสรรค์ระบบในรูปแบบใหม่ๆ มากมาย ในหลากหลายพื้นที่ ผมเรียกระบบตามที่ได้รับฟังว่า “ระบบภาคีหุ้นส่วนการแพทย์ฉุกเฉิน”
มิติสร้างสรรค์พิเศษของระบบหุ้นส่วนการแพทย์ฉุกเฉินของไทยได้แก่
ภาคีหุ้นส่วนสำคัญได้แก่
สพฉ. เข้าไปจัดการเชื่อมโยงภาคีหุ้นส่วน ให้เป็นเครือข่าย ทำงานร่วมมือรับลูกกัน และยกระดับคุณภาพของระบบต่อเนื่อง มีรายละเอียดของเรื่องความสำเร็จ และความท้าทาย มากมาย
ระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศประกอบด้วย ๕ ระบบย่อย
มีการผลิตบัณฑิต พนักงานการแพทย์ฉุกเฉิน เริ่มจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เวลานี้มีผลิตใน ๔ มหาวิทยาลัย แห่งละ ๓๐ คนต่อปี และกำลังจะขยายไปอีกหลายมหาวิทยาลัย
แปลกมาก ที่ความท้าทายสูงสุดอยู่ในพื้นที่ กทม. อยู่ที่ mindset ของผู้บริหาร มีคนเสนอว่าในพื้นที่ กทม. ให้ดำเนินการแบบเลี่ยง กทม. เน้นทำงานกับชุมชนในพื้นที่ และภาคีอื่นๆ เช่นร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ชุมชนบ้านจัดสรร ชุมชนคอนโด
การก้าวกระโดดของระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศตามที่เล่านี้ เป็นผลของการมี พรบ. การแพทย์ฉุกเฉิน (พ.ศ. ๒๕๕๑) (๑) ที่ออกมาสมัย นพ. มงคล ณ สงขลา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ศ. นพ. ประเวศ วะสี ให้คำแนะนำว่า กิจการการแพทย์ฉุกเฉิน เป็น Academic social process คือต้องใช้ข้อมูล ความรู้ การสื่อสาร ใช้อุดมการณ์ “ชีวิตคนประดุจฟ้า”
ท่านแนะว่า ฐานสำคัญที่สุดคือ สังคมเข้มแข็ง
วิจารณ์ พานิช
๑๒ ม..ค. ๖๑
ไม่มีความเห็น