-หลังจากทดลองใช้เตาดินอบพิซซ่าไปแล้ว 2 ครั้งนั้น ก็สรุปได้ว่าผลงานเป็นที่น่าพอใจสำหรับการใช้ประโยชน์จากเตาดินนี้ครับ...โดยความพึงพอใจนั้นได้มีผู้ยืนยันกันหลายคนกันเลยทีเดียว ซึ่งผมได้บันทึกเอาไว้ที่นี่ครับ ตอง ตง โตน... และวันนี้เพื่อเป็นการส่งต่อภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ต้องขยายให้กับผู้ที่สนใจได้นำเอาไว้ต่อยอด หรือหากนำไปใช้ประโยชน์ต่อก็จะเป็นความยินดี ที่ได้ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนพื้นนี้"พรานกระต่าย"ไปยังผู้ที่สนใจครับ พร้อมแล้วตามผมไปเรียนรู้วิธีการทำ"เตาดินอบพิซซ่า"ได้แล้วคร้าบ!!!!!
1.เช้าวันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมาผมได้นัดกับ"ลุงเต่า"ช่างผู้ชำนาญการเรื่อง"ปั้นเตา"มาช่วยกันสร้างสรรผลงานชิ้นเอก ที่ได้คิดออกแบบโดยปรับปรุงจาก"เตาเผาถ่าน"มาเป็น"เตาอบอาหาร"ครับ ว่าแต่จะเป็นรูปแบบไหนนั้น คงต้องรอติดตามชมกันต่อ แต่ก่อนที่จะไปลงมือปั้นเตานั้น เราก็ต้องไป"ขุดดิน"เพื่อใช้สำหรับเป็นวัสดุในการปั้นเตาในครั้งนี้ครับ โดยดินที่ใช้"ลุงเต่า"บอกว่าต้องเป็นดิน"จอมปลวก"ที่จะมีลักษณะความเหนียวและเหมาะสำหรับการ"ปั้นเตา"ครับ และดินที่เราใช้ในวันนี้เป็นดินที่อยู่บริเวณไร่ของ"ลุงเต่า"ที่อยู่ใกล้ ๆ กับบ้านไร่ของผมเองครับ...
2.หลังจากได้ดินมาแล้ว "ลุงเต่า"ก็นำเอาดินมาหมักกับน้ำก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ดินมีความนุ่ม และเหมาะสำหรับใช้เป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างก้อนอิฐครับ งานนี้"วิศวกร"ระดับบ้านไร่ขอรับรองความแข็งแรงด้วยตนเองคร้าบ 555
3.หลังจากหมักดินเอาไว้แล้ว ในช่วงสายๆ เราก็ได้ทีมงานมาสมทบอีกหนึ่งคน คือ"ผู้ช่วยจ๊อก"ที่วันนี้ได้มาช่วยอีกแรงหนึ่งครับ เมื่อวัดุพร้อม ช่างฝีมือพร้อมแล้ว เราก็เริ่มลงมือวางแผนงานกันทันทีีครับ โดยงานนี้เราใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นพื้นฐานในการออกแบบครับ ดังนั้นวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ จึงไม่ต้องซื้อหาเพียงแต่หาได้จากพื้นที่ เราก็พร้อมที่จะเดินงานต่อแล้วล่ะครับ....ช่างฝีมือเราบอกว่า สู้ๆ คร้าบ!!!!!
4.เพราะชีวิตคือการเรียนรู้ ดังนั้นผมจึงขอลงมือเรียนรู้วิธีการปั้นเตาด้วยครับ ขอบอกว่าไม่ง่ายเลยสำหรับการปั้นเตา ที่ใช้ดินเหนียวในการเป็นตัวเชื่อมประสานก้อนอิฐมอญครับ..ถึงต้องใช้ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์แบบ"ลุงเต่า"ครับ...และก็ได้เวลาของมื้อกลางวันแล้วล่ะครับ โดยวันนี้"คนข้างกาย(มดตะนอย)"ได้ลงมือทำก๋วยเตี๋ยวไทย เลี้่ยงทีมงานของเราครับ ว่าแต่จะอร่อยหรือไม่นั้นคงต้องให้"ลุงเต่า"การันตีแล้วล่ะครับ...
5.พักผ่อนให้หายเหนื่อยกันแล้ว ในช่วงบ่ายๆ ก็ได้เริ่มลงมือกันต่อครับ โดยในช่วงบ่ายนี้"ท่านกำนันไพฑูรย์ ทองมี"กำนันตำบลพรานกระต่าย ซึ่งบ้านของท่านก็อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้มาเยี่ยมชมและให้กำลังใจทีมงานของเราด้วยล่ะครับ สำหรับเตาดินนี้ ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะใช้เป็นเตาอบอาหาร ดังนั้นจึงต้องมีการวางตะแกรงเหล็กเอาไว้ เป็นชั้นๆ ครับ ถึงตอนนี้เป็นชั้นแรกพอวางตะแกรงเสร็จแล้วก็ปั้นเตาต่อกันเลยครับ..
6.ทำแบบ"คิดไปทำไป"ช่วยกันออกแบบ จนสุดท้ายเราก็ได้วางตะแกรงเหล็กเป็น 3 ชั้นครับ แต่ละชั้นก็มีความกว้างและสูงไม่เท่ากัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าจะได้ใช้สำหรับอบอาหารให้สุกได้ทั้งด้านบน-ด้านล่าง ครับ งานนี้บรรดาวิศกรบ้านไร่ทุกคนต่างก็ค่อยๆ สร้างสรรผลงานกันอย่างไม่ยอมแพ้ครับ...
7.และก็ถึงขั้นตอนที่ต้องเก็บรายละเอียดของเตาแล้วล่ะครับ โดยช่างผู้ปั้นเตาได้บอกกับผมว่า"เป็นเตาแรก"ที่ปั้นแบบนี้ครับ ปกติจะปั้นเตาเผาถ่านที่ไม่ต้องเปิดหน้าเตาและใส่ชั้นตะแกรงเหล็กครับ ดังนั้นผลงานชิ้นนี้จึงเป็นผลงานที่น่าภูมิใจสำหรับทีมงานของเรามากๆ เลยล่ะครับ 55
8.และเพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นผลงานของพวกเรา ดังนั้นจึงขอเก็บภาพของความภูมิใจนี้เอาไว้สักหน่อยก็แล้วกันนะคร้าบ 5555
9.ปั้นเตาเสร็จในเวลาเย็นๆ ครับ และเมื่อทิ้งเตาให้แห้งหมาด ๆ แล้ว"ลุงเต่า"ก็รับหน้าที่ในการจุดเตาเพื่อทดสอบครับ โดยวันนี้เราไม่ได้อบอาหารใดๆ เพียงแต่ต้องการดูระดับความร้อนว่ามากน้อยเพียงใดก็เท่านั้นครับ ส่วนข้อสรุปว่าเตาใช้ได้ดีหรือไม่นั้นคงต้องรอการทดสอบตอนที่อบอาหารกันต่อครับ...
10.และในวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2560 เราก็ได้เวลาทดสอบเตาอบโดยทีมงานจาก"ครอบครัวอินแก้วเครือ"ครับ โดยได้เดินทางมาจากอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง งานนี้จึงได้ผู้ทดสอบเตาของเรา เท่าที่ดูผลงานก็เป็นที่น่าพอใจ แต่คงต้องมีการปรับปรุงอีกนิดหน่อย ซึ่งอาจจะเป็นฝาปิดเตาที่ต้องการให้ความร้อนไม่ระบายออกมากจนเกินไปนัก ทั้งนี้ก็คงจะต้องค่อยๆ ปรับและเรียนรู้กันไปครับ...
สำหรับวันนี้ ต้องขอขอบคุณทีมช่างฝีมือพื้นบ้าน ที่พกพาเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน ผลงานชิ้นนี้จะสำเร็จไปไม่ได้เลยหากไม่ได้รับความร่วมแรงร่วมใจจาก"ลุงเต่า/ผู้ช่วยจ๊อก"ที่จะมาช่วยงานที่บ้านไร่ทุกครั้งที่ผมต้องการขอความร่วมมือครับ และหลังจากนี้ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะใช้เตาดินนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และพร้อมที่จะเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นดี ดี แบบนี้ ไปยังผู้คนทั่วไปให้ได้สัมผัส และพัฒนาให้มีความเหมาะสมกับยุคปัจจุบัน ที่ใครๆ ก็ขานเรียกเท่ห์ๆ ว่า "ไทยแลนด์ 4.0"ต่อไปคร้าบ!!!!
ขอบคุณครับ
เพชรน้ำหนึ่ง+มดตะนอย
18/01/2561
Hi Hug House
น่าทานมากๆครับ
สุดยอดฝีมือเลยครับ ขอชื่นชม
จดลิขสิทธิ์เลย อิ อิ
ก๋วยเต๋ี๋ยวก็น่ากิน Pizza ก็เป็นตาแซ่บอ่ะ
ไชโยๆ..0.4...อนุญาติให้ฝรั่งลอกเลียนแบบได้ รึเปล่า จ๊ะ..คุณเพชร..
-สวัสดีครับอาจารย์ต้น
-นับว่าเป็นเมนูที่เรียกร้องความสนใจได้ดีทีเดียวครับ 55
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ด้วยนะครับ
-สวัสดีครับท่าน พ.แจ่มจำรัส
-ขอบคุณสำหรับคำชื่นชมนี้ครับ
-ต้องทดลอง และปรับใช้ให้เหมาะสมอีกมากเลยครับท่าน
-ยินดีที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตดี ดี นี้ครับ
-สวัสดีครับพี่หมอธิ
-เป็นการปรับใช้ภูมิปัญญาให้เหมาะกับยุคสมัยน่ะครับ
-มิได้หวงห้ามแต่อย่างใด ยิ่งให้ก็ยิ่งได้ครับพี่หมอ
-มิใช่ตัวเรา ของเรา..ก็เท่านี้ขอรับ
-รอต้อนรับพี่หมอกันเลยทีเดียวเชียว 55
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับยายธี
-เลี่ยนแบบได้ครับยาย
-แต่คงต้องมาดูงานที่นี่ก่อน 555
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ครับ
-สวัสดีครับพี่ครูมะเดื่อ
-คงตัองพัฒนากันต่อไปครับพี่ครู
-อร่อยได้ทุกเมนูจากเตาดินนี้ครับ
-ขอบคุณครับ