หน่วยหรือศูนย์เชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคมที่เราได้ไปเรียนรู้ชัดเจนที่สุดคือหน่วยของมหาวิทยาลัยบริสตอล บรรยายสรุปโดย Kate Miller, Head of Public Engagement Unit, Research and Enterprise Development จากการไปเยี่ยมเรียนรู้เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ และเราได้รับ PowerPoint ของการนำเสนอในภายหลัง ในการเขียนบันทึกนี้ผมใช้ข้อมูลจากรายงานของ ดร. นงเยาว์ ศรีพรมสุข และจาก PowerPoint ที่มหาวิทยาลัยบริสตอลส่งมาให้ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้
ท่านผู้อ่านควรอ่านตอนที่ ๑๔ นี้เชื่อมโยงกับตอนที่ ๖ เรื่อง วิชาชีพเชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคม โดยที่ตอนที่ ๖ เน้นตัวบุคคล ส่วนตอนที่ ๑๔ นี้เน้นการจัดองค์กร (organization) เพื่อให้นักวิชาชีพเชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคมทำงานได้ผลกระทบชัดเจน
ยุทธศาสตร์การเป็นมหาวิทยาลัยเชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคม (Engaged University Strategy)
เอกสาร Engaged University Strategy (http://www.bristol.ac.uk/media-library/sites/public-engagement/documents/Engaged%20University%20Strategy.pdf ) ระบุการเชื่อมโยงหุ้นส่วนใน ๔ ระดับคือ
- หุ้นส่วนและความร่วมมือด้านการสอนและวิจัย
- การทำงานของอาจารย์ นักศึกษา และบริการต่างๆ ให้แก่กิจการสาธารณะ
- การให้คุณค่าและการเรียนรู้ จากความเชี่ยวชาญภายนอกมหาวิทยาลัย
- สร้าง “ชาลา” (platform) เพื่อขยายความรู้สาธารณะ
Kate Miller ตีความเอกสารเดียวกัน ออกมาเป็นยุทธศาสตร์ ๔ จุดเน้นคือ
- การเชื่อมโยงหุ้นส่วนนอกวงการวิชาการ
- เชื่อมโยงเชิงลึก มีคุณภาพสูง และต่อเนื่อง กับหุ้นส่วน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสาธารณะ
- นิยาม engagement เป็นกระบวนการหรือปฏิสัมพันธ์ที่มีการรับฟังกันสองทาง โดยมีเป้าหมายที่ผลประโยชน์ร่วมกัน
- ยุทธศาสตร์นี้ใช้มุมมองแบบ “ครบด้าน” (holistic) ต่อวิธีการเชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคมออกไปนอกวงการวิชาการ
จะสังเกตเห็นว่า PE Unit ของ Bristol University เน้นทำงานเชื่อมโยงหุ้นส่วนภายนอกวงการวิชาการ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่สนใจความเชื่อมโยงภาคีหุ้นส่วนในวงการวิชาการ เพราะในการทำงานจริงแยกกันไม่ได้ชัดเจน
ลำดับความสำคัญในการเชื่อมโยงหุ้นส่วนของมหาวิทยาลัย
Kate Miller เสนอไว้ ๕ ประการคือ
-
วัฒนธรรมหุ้นส่วน (partnership culture) เห็นคุณค่าของกิจกรรมร่วมกับภาคีหุ้นส่วน ว่าช่วยให้ทำงานตามภารกิจได้ผลงานที่ทรงคุณค่ายิ่งขึ้น
-
โครงสร้างพื้นฐาน หน่วยเชื่อมโยงหุ้นส่วน ช่วยสร้างพื้นที่และบรรยากาศ ของการเชื่อมโยงหุ้นส่วนให้เกิดขึ้นในหลากหลายมิติ หลากหลายระดับ
-
สร้างขีดความสามารถภายในมหาวิทยาลัย อาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา ได้รับการ “ติดอาวุธ” เพื่อทำภารกิจเชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคม และได้รับการรับรู้ว่าได้ทำภารกิจนี้
-
ประสบการณ์นักศึกษา มีปฏิบัติการร่วมกับภาคีหุ้นส่วนในการเรียนทั้งระดับปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา
-
การไตร่ตรองสะท้อนคิด การติดตามประเมินผล และสื่อสาร เพื่อเรียนรู้จากการทำงาน แล้วแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
จาก ๕ กิจกรรมหลัก สู่กิจกรรมย่อย ๑๗ รายการ
แสดงในแผนภาพต่อไปนี้
นั่นคือการตีความของทีม PE ของ UoB ไม่จำเป็นที่มหาวิทยาลัยไทยจะตีความสอดคล้องกันทั้งหมด เราอาจเน้นที่บางจุดมากกว่า ผมขอเชิญชวนให้เพ่งความสนใจที่วงสีม่วง “reflection, monitoring and communication” ซึ่งผมตีความว่าเป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติ ที่สวมวิญญาณประเมินด้วยตนเอง ด้วยการไตร่ตรองสะท้อนคิดด้วยตนเอง และในทีมงาน แล้วสื่อสารเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ทีมงานเชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคม
มหาวิทยาลัยบริสตอลมีทีม PE ใหญ่ถึง ๑๓ คน เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้ฝ่ายวิจัย ซึ่งทำหน้าที่พัฒนาการประกอบการ (enterprise) ด้วย จะเห็นว่า วิธีจัดองค์กรของมหาวิทยาลัยนี้ เอาเรื่องการจัดการงานวิจัย และการจัดการเพื่อพัฒนาการประกอบการ ไว้ด้วยกัน ผมเดาว่าเขาต้องการให้งานวิจัยเชื่อโยงกันการประกอบการให้มากขึ้น
ทีม PE แบ่งเป็น ๓ ทีมย่อย คือ
- PE เพื่อการวิจัยและการสอน
- PE เพื่อสร้างผลกระทบ
- PE เพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม
ทีมงาน PE ทำหน้าที่หลัก ๆ ๕ กลุ่มคือ
-
ให้คำแนะนำ เรื่องกิจกรรมเชื่อมโยงหุ้นส่วน การหาภาคีหุ้นส่วน และหาทุนสนับสนุน ให้คำแนะนำโครงการตั้งแต่การริเริ่ม การดำเนินการ และการประเมินผล ให้ความช่วยเหลือด้านการหาทุนสนับสนุน ทั้งจากภายในมหาวิทยาลัย และจากแหล่งทุนภายนอก ช่วยหาภาคีหุ้นส่วนจากภาคส่วนต่างๆ สร้างเครือข่ายกับภาคีภายนอก
-
ประสานงานโปรแกรมพัฒนานวัตกรรมที่ได้รับทุนสนับสนุน ได้แก่หาทุนสนับสนุนกิจกรรมร่วมมือกับหุ้นส่วนที่มีเป้าหมายพัฒนานวัตกรรมวิธีทำงานใหม่ๆ ร่วมกับหุ้นส่วนใหม่ๆ หรือพุ่งเป้าที่งานวิจัยเฉพาะเรื่อง และให้มั่นใจว่านอกจากนักวิจัยได้มีโอกาสทำงานร่วมกับหุ้นส่วนแล้ว ยังได้เรียนรู้เพิ่มเติมด้วย
-
สร้างขีดความสามารถ การเรียนรู้ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยจัดการฝึกอบรมด้านการเชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคม และการสร้างผลกระทบที่ต้องการ โดยดำเนินการร่วมกับบัณฑิตวิทยาลัย (Bristol Dectoral College) และโปรแกรมพัฒนาอาจารย์ (CREATE Programme - http://www.bristol.ac.uk/media-library/sites/staffdevelopment/migrated/documents/create-diagram.pdf )
-
สนับสนุนการเชื่อมโยงหุ้นส่วนในหลักสูตรการเรียนการสอน หาทางส่งเสริมให้นักศึกษาทุกหลักสูตรได้มีโอกาสเรียนรู้ในสภาพจริง ร่วมมือกับ Bristol Green Capital Partnerships เพื่อสร้างโอกาสให้นักศึกษาได้ไปเรียนรู้โดยการทำงานในองค์กรจำนวนกว่า ๘๐๐ แห่งที่เป็นสมาชิกของ BGCP และร่วมกับ UWE จัดทำ one-stop service สำหรับหน่วยงานที่ต้องการร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เรียกว่า Skills Bridge (http://skillsbridge.ac.uk )
-
ทำให้การเชื่อมโยงหุ้นส่วน และการสร้างผลกระทบฝังลงในวัฒนธรรมองค์กร มีการเล่าลือและยกย่องผลสำเร็จ โดยทำหน้าที่ (๑) เป็นคณะเลขานุการกิจ (secretariat) ของ คณะกรรมการชี้ทิศทาง ของมหาวิทยาลัยหุ้นส่วนสังคม เพื่อ (ก) พัฒนากิจกรรมหุ้นส่วนสังคมต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง (ข) ดำเนินการแก้ไขอุปสรรคของกิจกรรมหุ้นส่วน เช่นการจ่ายเงินของหุ้นส่วน (ค) ดำเนินการให้กิจกรรมหุ้นส่วนและผลกระทบอยู่ในเกณฑ์ความดีความชอบ และ (๒) สร้างการยอมรับและเฉลิมฉลองผลงานหุ้นส่วนสังคม ผ่านรางวัลหุ้นส่วนสังคมแบบต่างๆ (http://www.bristol.ac.uk/public-engagement/staff/engagement-awards/ )
นั่นคือตัวอย่างของศูนย์เชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคมของมหาวิทยาลัยบริสตอล ซึ่งอยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นแนวหน้าของสหราชอาณาจักร ในขณะที่มหาวิทยาลัยแห่งอิงก์แลนด์ตะวันตก ซึ่งอยู่ในเมืองเดียวกัน และเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบกิจกรรมหุ้นส่วนสังคมโดยตรง ใช้วิธีให้ภารกิจนี้บูรณาการอยู่ในหน่วยงานต่างๆ ส่วนที่ UCL ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยอันดับต้นๆ ของโลก หน่วยเชื่อมโยงหุ้นส่วนสังคม อยู่ในสังกัด UCL Culture และมีเจ้าหน้าที่เพียง ๔ คน มีรายละเอียดของภารกิจอ่านได้ที่ https://www.ucl.ac.uk/iha/public-engagement/# สรุปได้ว่า มีรูปแบบการจัดองค์กรและการทำงานสนับสนุนหุ้นส่วนสังคมได้หลายแบบ ไม่มีรูปแบบตายตัว
วิจารณ์ พานิช
๗ ม.ค. ๖๑