เมื่อวันก่อน..มีเพื่อนผู้บริหารโรงเรียนขนาดเล็กทั้งในเขตพื้นที่และนอกเขตพื้นที่..ปรารภว่า..น่าเป็นห่วงคะแนนโอเน็ต ป.๖ ปีนี้..น่าจะตกต่ำ..ถามผมว่า..มีวิธีการอย่างไร.?.ในการแก้ปัญหานี้
ผมแก้ปัญหานี้ มาตั้งแต่ต้นปีการศึกษา ทั้งที่..ไม่เห็นด้วยเลย..กับกระบวนการสอบโอเน็ต เคยรอเวลาว่าเมื่อไหร่ ผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาฯ จะยกเลิกการสอบ เพราะโอเน็ตนี่แหละ..ที่ทำให้ไทยล้าหลังและไม่ช่วยให้เด็กไทย คิดเป็น ทำเป็น...
เหตุผลหลักๆ..ที่ผมไม่เห็นด้วยก็คือ..ปัจจัยพื้นฐาน..ของแต่ละโรงเรียนไม่เท่ากัน..แต่สอบวัดและประเมินผลเหมือนกันหมดทั้งประเทศ ทำไปเพื่อ..? แล้วได้อะไร..?ก็เห็นตกต่ำมากกว่าที่ควรจะเป็น น่าจะเน้นทักษะชีวิต คิดงานไปสู่พื้นฐานอาชีพน่าจะดีกว่า..ท้ายที่สุดผลโอเน็ต..ก็ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาโดยรวม..
เมื่อผมยังอยู่ในระบบ และไม่มีอำนาจเพียงพอ..ผมก็รับสภาพและคิดเตรียมพร้อมจะดีกว่า.. เพื่อนำนักเรียนขึ้นสู่เวที..โอเน็ต..อย่างสง่างาม..
ผมประเมินนักเรียน ป.๖ รายบุคคล มาตั้งแต่เมื่อเขาอยู่ชั้น ป.๕ จากข้อมูลทราบได้ทันทีว่า..ปีนี้..คะแนนโอเน็ตน่าจะต่ำที่สุดในรอบ ๕ ปี..หลังจากที่เคยสูงกว่าระดับชาติมาหลายครั้งแล้ว..
สาเหตุก็เพราะ..นักเรียน ป.๖ รุ่นนี้..เป็นรุ่นสุดท้าย..ที่เคยขาดครูผู้สอนต่อเนื่องยาวนาน..จึงอ่านหนังสือไม่คล่อง นอกจากนี้.ยังมี ๒ – ๓ คน ที่เรียนรู้ช้า สมาธิสั้น..แต่มีความจำเป็นต้องให้เข้าสอบร่วมกับเด็กปกติ..แบบนี้..ผมก็พอรู้ชะตากรรม..
แต่ผมก็เชื่อว่า..เด็กเขาพัฒนาได้..ผมจึง..สอนซ่อมเสริมเป็นพิเศษในช่วงเย็นและเติมเต็มในวันเสาร์..ตั้งแต่ภาคเรียนที่ ๑ จนถึง.ทุกวันนี้..ก็ยังทำอยู่
เมื่อเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก เด็กไม่พร้อม..ครูก็ต้องทุ่มเทและทำงานหนัก ผมลดกิจกรรมภายนอก..ให้ครูอยู่สอนในห้องเรียนมากที่สุด การแข่งขันไล่ล่ารางวัลทั้งหลาย เกียรติบัตรที่อยากได้..ก็ต้องลดละ..หันมาใกล้ชิดผู้เรียน..แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างจริงจัง..
ผมรู้ว่า...เป็นปีที่ตกที่นั่งลำบาก..แต่ผมก็ไม่ประมาท วางแผนดำเนินการมาตลอด ประชุมหารือครูประจำชั้นและขอความร่วมมือครูทุกคน..เข้ามาช่วยประคับประคอง..ให้เดินไปได้ตลอดรอดฝั่ง..
ก่อนจะศึกษาตารางสอบ..ผมจะดูตัวชี้วัดในรายวิชา ให้ครูเน้นย้ำ นำเด็กไปให้ถูกทาง แก้ให้ตรงจุด ในตัวชี้วัดที่ยากและเป็นปัญหา ผมจะช่วยในส่วนของอัตนัย ฝึกให้เด็กคิดเป็นและเขียนบรรยายให้ตรงประเด็น...
ถึงแม้ว่า การสอบ..Pre Onet ที่ผ่านมา นักเรียนได้คะแนนไม่ต่ำมากนัก..แต่ข้อสอบจริงที่จะสอบในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ก็ยากที่จะคาดเดาได้..ในบรรยากาศแห่งการสอบแบบนี้ ครูไม่สามารถควบคุมปัจจัยแวดล้อมได้เลย การเตรียมตัวที่ต่อเนื่องและความพร้อมของเด็กเท่านั้น..ที่จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา...
เมื่อโอเน็ต ป๖..ยังมีอยู่..ก็เท่ากับโรงเรียนขนาดเล็ก ยังต้องชี้วัดด้วยคุณภาพผลสัมฤทธิ์ เมื่อผมวางแผนและทำงาน(หนัก)อย่างมีข้อมูล..ผมจึงเชื่อมั่นในภาพรวมว่า..โอเน็ตชั้น ป.๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๐..ไม่ติด ๑ ใน ๑๐ โรงเรียนสุดท้ายของเขตฯอย่างแน่นอน
นี่คือ..สาเหตุที่ผมต้องทำงานแทบจะไม่มีวันหยุด และหยุดงานอีเว้นท์ไว้สักปี อาจส่งผลดีต่อชั้นอื่นๆด้วย เพราะเมื่อโรงเรียนมีสภาพคล่องทางวิชาการ สดใสและเข้มแข็ง การอ่านคล่องเขียนคล่องของนักเรียนชั้นอื่นๆก็ตามมา ผมคิดว่า ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เป็นต้นไป หรืออีก ๕ ปีข้างหน้า..โรงเรียนบ้านหนองผือ..จะพัฒนาได้ในทุกด้าน..
วันนี้..มีโรงเรียน ๒ แบบที่ไม่ให้ความสำคัญโอเน็ต..ซึ่งผมเองไม่ได้อยู่ในฐานะนั้น คือโรงเรียนที่ออกนอกกรอบ..กับโรงเรียนที่มุ่งกิจกรรมการแข่งขันไล่ล่ารางวัลกันทั้งปี ถึงวันนี้คงไม่ทันแล้ว
ขอบคุณ..ความไม่พร้อมของโรงเรียนขนาดเล็ก..ที่ช่วยให้ผม..คิดได้ และให้เวลากับงานการเรียนการสอน..รู้จักเลือก..แยกแยะความสำคัญ ..แม้รู้ว่า..จะต้องบาดเจ็บบ้างก็ตาม
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๗ มกราคม ๒๕๖๑
ขอเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันครับ เมื่อต้องสวมเสื้อผ้าตัวเดียวกันทั้งประเทศ หนีไม่ได้ก็ต้องยอมรับมัน จริงไหมครับท่าน วันนี้เป้าหมายจริงๆ ของเราคือให้เด็กมีการศึกษา มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ที่จะอยู่ในโลกที่โหดร้ายสำหรับพวกเขา(ที่ผู้ใหญ่สร้างไว้)และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีความสุขมากที่สุด เท่าที่จะทำได้
ขอเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันครับ เมื่อต้องสวมเสื้อผ้าตัวเดียวกันทั้งประเทศ หนีไม่ได้ก็ต้องยอมรับมัน จริงไหมครับท่าน วันนี้เป้าหมายจริงๆ ของเราคือให้เด็กมีการศึกษา มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ที่จะอยู่ในโลกที่โหดร้ายสำหรับพวกเขา(ที่ผู้ใหญ่สร้างไว้)และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีความสุขมากที่สุด เท่าที่จะทำได้