เชื่อว่าผู้ที่อยู่ในสายวิชาชีพครูไม่ว่าระดับไหน คงเห็นด้วยไม่มากก็น้อยว่า ตัวป้อนเข้าสู่ระบบการศึกษาคือนักเรียน นักศึกษา ด้อยคุณภาพลงเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไป และความก้าวหน้าทันสมัยของวัตถุ สิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตคนเรา
เมื่อก่อนอะไรๆก็ขาดแคลน ความแร้นแค้นทำให้เราต่อสู้ ใช้ปัญญาหาทางออกให้กับปัญหาต่างๆ ควบคู่ไปกับคุณภาพของนักเรียน นักศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านความสนใจใฝ่รู้ และสู้งาน มีอยู่ค่อนข้างมาก เขาเข้ามาอย่างมีจุดหมายและมีความมุ่งมั่น จนทำให้เราทำงานด้วยความอิ่มใจ เรียกว่าเหนื่อยมากแต่ก็สุขมากไปกับความเหนื่อยยากเหล่านั้น
ผ่านไป 10 ปี 20 ปี 30 ปี ณ วันนี้ ทั้งๆที่อะไรๆที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกมีให้อย่างเพียงพอ หรือบางทีก็ถึงขั้นเหลือเฟือ แต่ตัวป้อนของเราในยุคนี้ จำนวนมาก เข้ามาอย่างไร้เป้าหมายและความมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ของตนอย่างจริงจัง เรางัดวิทยายุทธที่สั่งสมมาและบรรดามี มาใช้อย่างไรก็แทบจะไร้ความหมาย .. จากที่เคยสอบแข่งเข้ามาเรียน เป็นกวาดต้อนเข้ามาเรียน นับวันยิ่งทำให้คนเป็นครูท้อแท้และถอดใจอำลาวงการไปด้วยเหตุนี้ก็มีไม่น้อย เรียกว่าไม่รู้จะจัดการกับปัญหาอย่างไรดี
ทางหนึ่งที่ผมเลือกใช้และนับวันจะทำมากขึ้นเรื่อยๆ ควบคู่ไปกับกระบวนการเรียนรู้ที่ได้จัดสรรให้เขาชนิดที่เราเห็นว่าดีที่สุดแล้ว สิ่งนั้นคือการอบรมตักเตือนด้วยการคิดวาทกรรมที่ใช้คำหรือประโยคหนักๆ เพื่อช่วยเคาะให้เขาได้สะดุ้งกัน ด้วยหวังจะให้เกิดสำนึกที่ดีและเปลี่ยนพฤติกรรมให้เข้าลู่เข้าทางมากขึ้น ตัวอย่างเช่น
เชื่อหรือยังล่ะครับว่าผมเริ่มเป็น ครูปากจัด แต่ก็ขอยืนยันว่า ด้วยความจงใจครับ.
สวัสดีค่ะ ครูปากจัด....จัดจริงๆค่ะ...
ครู คือ ว่าหนัก
ลหุ คือ ว่าเบา
เป็น ครู ก็ต้องมีทั้ง ครุ และ ลหุ ครับ
นักเรียนสมัยนี้บอกสอนยาก ไม่ไต้งใจเรียน จะตั้งใจทำไมหล่ะในเมื่อเรียนอย่างไรก็จบโดยเฉพาะโรงเรียนในต่างอำเภอ ผอ.บอกเลยว่าวิชาใดมีนักเรียนสอบตก หรือติด มส. ติด ร ครูผู้สอนไม่ได้รับการพิจารณาความดีความชอบ และกำหนดด้วยว่าในแต่ละวิชาต้องมีเกรด 4 ร้อยละเท่าไร เกรด 3.5 ร้อยละเท่าไรเด็กบางคนไม่เคยมาเรียนเลยทั้งเทอม วันสอบมาสอบยังได้เกรด 1 เลย เมื่อเขาขึ้น ม.2 คิดว่าเขาจะมาเรียนเหรอ แบบฝึกหัดก็ไม่เคยส่ง เขียนหนังสือก็ไม่ถูก อ่านก็ไม่ออก แม่สูตรคูณท่องได้แม่ 2 แม่เดียวนี่คือผลผลิต ม.3 นะ ครูคนไหนให้เด็กคนดังกล่าวติด ร หรือ ศูนย์ หรือ มส. ก็จะโดนเด็กและผู้ปกครองทำร้ายด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ขูดสีรถยนต์ กรีดเบาะรถมอเตอร์ไซต์ ขว้างขวดแก้วใส่บ้านทุกคืน ครูคนนั้นจะย้ายก็ย้ายไม่ได้ระบบการย้ายไม่เอื้อเพราะดันมีบ้านอยุ่ที่นั่น ครูก็เลยสอนแบบ เด็กจะมาเรียนหรือไม่มา จะคูณเลขถูกหรือไม่ จะอ่านออก เขียนถูกหรือไม่ ก็ผ่านหมด เพราะตัวเองกลัวเดือดร้อน ไหนจะเดือดร้อนจากเด็กและผู้ปกครองที่จ้องทำร้าย ไหนจะเดือดร้อนจาก ผู้บริหารที่ไม่ไห้ความดีความชอบเพราะเดี่ยวไม่ผ่านการประเมินภายนอก สรุปการศึกษาของไทยก็เลยถดถอย หลักการดี แต่ทำหลอกกันไปหลอกกันมาทั้งระบบ คนกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลไปหมด ทั้งชาวบ้าน เด็กนักเรียน ผู้บริหาร ครูส่วนใหญ่ก็เลยสอนตามหน้าที่ไปวันๆ และก็คิดปลอบใจตัวเองว่า ประเทศไทยไม่ใช่ของเราคนเดียวหรอก