ทางเลือกในการพัฒนานักจัดการความรู้ระดับชุมชน


ทีมรวมดารา จะทำให้คนอื่นมองเห็นทางหลากหลายรูปแบบที่นำไปสู่เป้าหมายได้ทุกทาง แต่ทีมแบบเดิมที่ไม่มีดารา มีอาการตันทางความคิดได้ง่ายมาก และมักจะมีประเภทนักถ่วงความคิด แบบมองแต่ปัญหา ไม่คิดหาทางออกในแต่ละเรื่อง ทำให้เกิดข้อสรุปว่า แบบเดิมดีกว่า ทุกครั้งที่คิดอะไร เลยไปไหนไม่ได้สักที

ในรอบปี ๒๕๔๙ ทีผ่านมาผมได้มีโอกาสทำงานพัฒนานักจัดการความรู้ระดับชุมชน ทั้งในโครงการ สสส. ที่ผมทำอยู่ที่บ้านแดงหม้อ อุบลฯ และโครงการ สคส. (มหาชีวาลัย) ของครูบาสุทธินันท์ ที่บุรีรัมย์ ซึ่งเผชิญชะตากรรมคล้ายๆกัน ที่งานไม่ค่อยเป็นไปตามแผนเท่าไหร่ ต้องรีบมาจัดกระบวนทัพกันใหม่ อย่างพัลวัน

แต่เดิมโครงการเราเน้นการจัดกลุ่มที่มีคนไม่พร้อมเป็นส่วนใหญ่มารวมกัน อาจมีคนพร้อมแทรกอยู่บ้าง และบางทีก็ผสมผสานความพร้อมด้านต่างๆ ในต่างคนกัน แต่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เพื่อหวังจะให้ช่วยเสริมกันไป ในการทำงาน

ผลปรากฏว่า กลุ่มเหล่านั้นไปได้ยากมาก เนื่องจากมีลักษณะทั้ง เตี้ยอุ้มค่อม หรือคนหูหนวกจูงคนตาบอดไปดูหนังไบ้ แทบจะไม่ได้งาน ที่จะไปถึงดวงดาวอะไร เขากลับมองว่าเราไปสร้างปัญหาให้เขาอีกต่างหาก ไปไหนไม่รอดเลย

งานของครูบาเป็นกระบวนทัพใหญ่เกือบจะชะลอไม่ทัน ผมไปช่วยเบนหางเสือแทบไม่ทัน  แต่โครงการ สสส ของผมเป็นโครงการเล็กๆ ปรับตัวได้เร็วกว่า ก็เลยปรับกระบวนหาดารามาเสริมทีมได้ทัน

ยุทธศาสตร์ใหม่ที่ผมและครูบาใช้เหมือนกันคือ การสร้างทีมรวมดารา เป็นหัวหอกนำร่อง ตามสไตล์เครือข่ายปราชญ์ ที่ต้องสร้างผู้นำให้ได้เสียก่อนแล้วค่อยหาคนตาม ไม่งั้นมีแต่จะเถียงหรือเกี่ยงกันนำ ทำให้มีปัญหาในการขับเคลื่อนกลุ่มและกระบวนการเรียนรู้

ทีมรวมดารา จะทำให้คนอื่นที่ยังไม่เป็นดารามองเห็นแนวทางหลากหลายรูปแบบที่นำไปสู่เป้าหมายได้ทุกทาง ตามชอบและศักยภาพตนเอง แต่ทีมแบบเดิมที่ไม่มีดารา มักมีอาการตันทางความคิดได้ง่ายมาก และมักจะมีสมาชิกประเภทนักถ่วงความคิด มองเห็นแต่ปัญหา ไม่ชอบคิดหาทางออกในแต่ละเรื่อง ทำให้เกิดข้อสรุปง่ายๆว่า แบบเดิมดีกว่า ทุกครั้งที่คิดอะไร เลยไปไหนไม่ได้สักที

ในกรณีที่ไม่มีทีมรวมดารา ดารานำเดี่ยวก็ยังพอใช้ได้ แบบไปหาเพื่อนทีหลัง ตามสไตล์การยกทำของไทยในอดีต ที่มีทหารรักษาพระนครจำนวนหนึ่ง (ไม่มากพอเป็นกองทัพ) ยกกำลังไปกวาดต้อนชายไทยระหว่างทางเดินทัพ เกณฑ์มาเป็นทหารและฝึกไปเรื่อยๆจนถึงสนามรบเมื่อไหร่ก็พร้อมรบเมื่อนั้น และการทำอย่างนี้ก็มักมีโอกาสได้ดาราระหว่างทางได้เหมือนกัน ถ้าดวงไม่แย่จนเกินไป

ผมลองแบบหลังได้ผลดีกว่าการตั้งกองทัพไว้ก่อน เพราะประหยัดงบประมาณและทรัพยากรมากกว่ากัน เรียกว่างบเท่าเดิมทำงานได้มากกว่า แต่เราต้องอธิบายให้นายทุนของเราเข้าใจว่าเราไปเติมอะไรให้กับดาราเหล่านั้น ไม่งั้นเขาจะหาว่าเราลักไก่ครับ

ลองดูนะครับ ใครมีประสบการณ์ดีๆ ช่วยแลกเปลี่ยนด้วยนะครับ

หมายเลขบันทึก: 64175เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2006 15:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • เคยคิดที่จะรวมกลุ่มชาวบ้านในหมู่บ้านให้ทอผ้าเป็นกลุ่ม แค่คิดก็มีความสุขแต่เหนื่อยเพราะเราต่างมานั่งแก้ปัญหาไม่ได้คิดอะไรใหม่ ๆ
  • มาช่วงหลังออตเลือกช่างทอที่สนใจงานทอที่มีคุณภาพมาร่วมทีม ตอนนี้ค่อย ๆ เดินแต่ปัญหาอื่น ๆมีน้อยลงและมีความสุขมากขึ้น

คุณออด

ขอบคุณครับ ที่แลกเปลี่ยนมา ความสุขคือตัวชี้วัดที่ดีที่สุด มากกว่าตัวเลขในบัญชี หรืเงินในกระเป๋าด้วยซ้ำครับ

แต่คนชอบมองว่าเงินสำคัญกว่า ครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท